กรุงเทพฯ 5 ก.พ. – กลุ่มโรงกลั่นฯ ไม่หวั่นนำเข้าดีเซลยูโร 5 ระบุทุกโรงพร้อมกลั่นฯ ภายใน 5 ปี หาก ครม.มีมติประกาศมาตรฐานยูโร 5 ภายในปีนี้
นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยออยล์และประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า กลุ่มโรงกลั่นฯยังไม่ได้หนังสือรับเชิญจากกระทรวงพลังงานในการประชุมเพื่อแสดงความเห็นเรื่องการลดสำรองน้ำมันทางกฎหมายในการนำเข้าน้ำมันดีเซลมาตรฐานยุโรประดับที่ 5 หรือยูโร 5 อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงเกี่ยวข้องกับผู้ค้าน้ำมันเป็นหลักในฐานะผู้นำเข้ามาจำหน่าย โดยที่ผ่านมาประเทศไทยมีการผลิตดีเซลบางช่วงไม่เพียงพอ เนื่องจากยอดใช้เพิ่มขึ้นทั้งจากเครื่องบินที่มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และรถยนต์ทั่วไปจนทำให้มีการนำเข้าเป็นช่วง ๆ
“การนำเข้าดีเซลยูโร 5 ผู้นำเข้าจะเป็นผู้ค้าหรือปั๊มน้ำมันเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันสำรองผู้ค้าน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ร้อยละ 1 ส่วนโรงกลั่นสำรองน้ำมันดิบร้อยละ 6 หากผู้ค้าน้ำมันนำเข้ายูโร 5 ก็ต้องเตรียมเรื่องระบบโลจิสติกส์ให้พร้อม รวมทั้งระบบการจำหน่ายผ่านหัวจ่ายและเตรียมถังใต้ดินให้พร้อมอีกด้วย” นายอธิคม กล่าว
นายอธิคม กล่าวด้วยว่า ในส่วนของกลุ่มโรงกลั่นฯ พร้อมที่จะผลิตยูโร 5 ทุกโรง ภายหลังจาก ครม.เห็นชอบประกาศมาตรฐานน้ำมันยูโร 5 ภายใน 5 ปี หาก ครม.ประกาศภายในปี 2562 ทางโรงกลั่นฯ ต้องเตรียมตัวและผลิตได้ทุกรายภายในปี 2567 อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโรงกลั่นไทยออยล์เตรียมแผนจะผลิตยูโร 5 ภายในปี 2565 บางส่วนเกือบทั้งหมด จากกำลังผลิตปัจจุบันที่ 500 ล้านลิตรต่อเดือน ขณะที่ความต้องการดีเซลของประเทศอยู่ที่ 1,900 ล้านลิตรต่อเดือน และภายหลังจากโครงการลงทุนโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project หรือ CFP) แล้วเสร็จภายในปี 2566 โดยเพิ่มกำลังกลั่นจาก 275,000 บาร์เรลต่อวันเป็น 400,000 บาร์เรลต่อวัน ก็จะทำให้กลั่นน้ำมันเป็นมาตรฐานยูโร 5 ทั้งหมด โดยจะกลั่นดีเซลเพิ่มเป็น 800-900 ล้านลิตรต่อเดือน. -สำนักข่าวไทย