อย่าลืม.. พรุ่งนี้​ดีเซลลด 2 บาทเหลือ 30 บาท/ลิตร

กรุงเทพฯ 19 ก.ย.-พรุ่งนี้​ราคาดีเซลจะปรับลดลง 2 บาทจากปัจจุบัน​ประมาณ 32 บาทเหลือ 30 บาท/ลิตร ตามนโยบายลดค่าครองชีพที่ลดทั้งภาษีและใช้เงินกองทุนน้ำมันอุดหนุนถึงสิ้นปี เฉียด 7 หมื่นล้านบาท “รสนา” เสนอคุมกำไรผู้ค้าน้ำมัน-โรงกลั่น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จาก.มติ ครม.13 ก.ย.66 ช่วยลดค่าครองชีพประชาชนแบบเร่งด่วน  พรุ่งนี้ (20ก.ย.66 )  ราคาดีเซลขายปลีกจะปรับลดลง 2 บาท/ลิตร จากปัจจุบันไม่เกิน 32 บาท/ลิตรเหลือเป็นประมาณ30 บาท/ลิตร  ด้วยการลดน้ำมันดีเซล 2.50 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 3 เดือน เริ่มต้นแต่วันที่ 20 กันยายน – 31 ธันวาคม 2566 ทำให้ ภาษีสรรพสามิตดีเซลบี7ลดจากปัจจุบันที่ 5.99 บาท/ลิตร มาอยู่ที่ 3.67 บาทต่อลิตร และเงินที่เหลือ 0.32 บาท/ลิตรนำไปบริหารจัดการที่เสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 

โดยปัจจุบัน (ณ วันที่ 19 ก.ย.) กองทุนน้ำมันฯมีการอุดหนุนราคาดีเซลอยู่ที่ลิตรละ8.98 บาทซึ่งถือเป็นอัตราการอุดหนุนที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เนื่องจากราคาดีเซลตลาดโลกมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงต่อเนื่อง และทำให้ฐานะกองทุนน้ำมัน ณ วันที่ 17 ก.ย. 66 ติดลบอยู่ที่ 61,641 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 16,902 ล้านบาทและบัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือLPG ติดลบ 44,739 ล้านบาท


นักวิเคราะห์​ด้านพลังงานคาดว่าวงเงินอุดหนุนดีเซลรอบ3เดือนนี้จะอยู่ที่ราว7หมื่นล้านบาทประเมินจากดีเซลสิงคโปร์ราคาไม่เกิน130เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล(ขณะนี้อยู่ที่ราว124เหรียญ​/บาร์เรล)​เพราะช่วงไตรมาส4/66เป็นช่วงหน้าหนาวน้ำมันเพื่อความอบอุ่นจะพุ่งขึ้น วงเงินดังกล่าวคำนวณจากยอดใช้ดีเซลของประเทศราว 70 ล้านลิตร/วัน ช่วง3เดือนคาดสูญเสียเงินภาษีราว1.8 หมื่นล้านบาท ในขณะที่คาดเงินกองทุนน้ำมันฯต้องอุดหนุนต่อเนื่องราว1.1-1.2หมื่นล้านบาท/เดือน หรือรวม3เดือนไม่เกิน5หมื่นล้านบาทโดยกองทุนฯสามารถกู้ได้อัก5.5หมื่นล้านบาทจากกรอบวงเงินที่ก.คลังกำหนดให้กู้เสริมสภาพ​คล่องรวม1.1แสน โดยก่อนหน้านี้กู้มาแล้ว5.5หมื่นล้านบาท ในขณะที่การการตรึงราคาก๊าซหุงต้มไม่เกินถังละ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัมเริ่ม 1 ต.ค. -31ธ.ค. 66ก็ยังคาดว่ากรอบวงเงินอุดหนุนที่ไม่เกิน4.8หมื่นล้านบาทยังคงเพียงพอ

ก่อนหน้านี้จากสถานการณ์ราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 ถึง20 กรกฎาคม 2566 กระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตรวมทั้งสิ้น 7 ฉบับ ประเมินสูญเสียรายได้ภาษีประมาณ156,000 ล้านบาท 

น.ส.รสนา โตสิตระกูล อนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงานและสิ่งแวดล้อม สภาองค์กรของผู้บริโภคระบุว่าราคาน้ำมันดีเซลที่ลดลงไม่เกิน30บาท/ลิตรนั้น แต่นายกรัฐมนตรีไม่พูดถึงการลดราคาเบนซิน เพราะยังต้องการล้วงกระเป๋าคนใช้เบนซินมาอุ้มราคาดีเซล ใช่หรือไม่โดยดูจากวงเงินกองทุนน้ำมันฯ


“ลดราคาดีเซล โดยใช้มาตรการทางภาษีและกองทุนน้ำมัน ย่อมหมายถึงการเล่นมายากล ล้วงเงินคนใช้น้ำมันเบนซินไปชดเชยราคาดีเซลเพิ่มขึ้นอีก ใช่หรือไม่และรมว.พลังงานประกาศว่าจะลดราคาเบนซินให้เฉพาะกลุ่มพิเศษที่ต้องใช้เบนซินในการประกอบอาชีพ ซึ่งเป็นคำประกาศที่ไร้ความเป็นธรรมคนใช้เบนซินที่เดือดร้อนจากการเลือกปฏิบัติ ขอให้รัฐบาลลดผลกำไรส่วนเกินของผู้ประกอบการลงไปด้วย ไม่ใช่ลดราคาโดยล้วงกระเป๋าประชาชนอยู่ฝ่ายเดียว”น.ส.รสนาระบุ

น.ส.รสนาเสนอว่าราคาเบนซินและดีเซลควรมีช่วงห่างของราคาต่างกันประมาณ 3 บาท/ลิตร การถ่างราคาสูงมองว่าเป็นการรีดเงินคนใช้เบนซินมาชดเชยดีเซล และการแบกกำไรเกินควรของผู้ค้าน้ำมัน ทั้งค่าการกลั่น และค่าการผสมเอทานอลและไบโอดีเซลจึงเสนอว่า

1)ขอให้รัฐบาลกำหนดค่าการกลั่นน้ำมันอยู่ที่ 3บาท/ลิตร

2)รัฐบาลควรยกเลิกการผสมเอทานอลและไบโอดีเซลในน้ำมันพื้นฐาน เมื่อราคาน้ำมันชีวภาพมีราคาสูงกว่าน้ำมันพื้นฐานมาก เพราะยิ่งผสมยิ่งแพง เป็นภาระต่อประชาชน

3)รัฐบาลต้องกำกับให้มีการใช้กองทุนน้ำมันฯเป็นเงินชดเชยเวลาน้ำมันตลาดโลกปรับขึ้นทั้งเบนซินและดีเซลตามที่กฎหมายกองทุนน้ำมันบัญญัติไว้ ไม่ควรเอาเงินสะสมของคนใช้เบนซินไปชดเชยให้เฉพาะน้ำมันดีเซลฝ่ายเดียว 

ที่ผ่านมามีการเก็บเงินจากคนใช้เบนซิน95 เข้ากองทุนน้ำมันถึง ลิตรละ 9.38 บาท แก๊สโซฮอล์ 91,95 เก็บลิตรละ2.80 บาทและอี20 อี85 เก็บลิตรละ 81 สต. ซึ่งเป็นเงินสะสมในกองทุนน้ำมันหลายหมื่นล้านบาทแล้ว  แต่เงินดังกล่าวเอาไปชดเชยดีเซลเป็นหลัก ส่วนคนใช้เบนซินไม่มีสิทธิใช้เงินที่ตนเองถูกชักเนื้อไปเก็บสะสมไว้แม้แต่สตางค์แดงเดียวเพื่อมาลดราคาน้ำมันเบนซินที่ปรับตัวสูงขึ้นแบบวันเว้นวัน แบบนี้เป็นธรรมต่อคนใช้เบนซินแล้วหรือ

4)ในอดีตสมัยรัฐบาล”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เมื่อราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงเกิน112 เหรียญ/บาร์เรล หรือ (25บาท/ลิตรขึ้นไป) มีการลดเก็บภาษีสรรพสามิตเหลือแค่ครึ่งสตางค์/ลิตร แต่รัฐบาลปัจจุบันยังเก็บภาษีเบนซิน95 สูงสุดที่6.50บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์95 ลิตรละ 5.85 บาท/ลิตร และดีเซลลิตรละ 5.99 บาท

5)รมว.พลังงานควรกำกับ ควบคุมค่าการตลาดในราคาที่เหมาะสมคือเบนซิน 2บาท/ลิตร ดีเซล 1.50 บาท/ลิตร และสั่งการให้บมจ.ปตท.ร่วมมือในการกำหนดค่าการตลาดที่เหมาะสม

6)รมว.พลังงานควรกำกับให้มีการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันจากดีเซล และเบนซินไม่เกิน ลิตรละ 2บาท และเก็บไว้ชดเชยเมื่อราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวสูงเกินราคาขายปลีกหน้าปั๊มที่รัฐบาลควรกำหนดไว้เช่นกัน เช่นน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร น้ำมันเบนซินไม่เกิน 33 บาท/ลิตร 

7)ยกเลิกกองทุนอนุรักษ์พลังงาน เพราะไม่มีความจำเป็นอีกแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย