กรุงเทพฯ 9 เม.ย. – นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติยินดี ครม.เห็นชอบแผนเตรียมความพร้อมรับมือโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรเป็นวาระแห่งชาติ เชื่อจะทำให้การป้องกันโรคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้านนายกสมาคมสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มสุกรไทยมั่นใจหากทุกภาคส่วนร่วมมือจะควบคุมการระบาดได้แน่นอน
นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวถึง ครม.เห็นชอบแผนเตรียมความพร้อมรับมือโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรเป็นวาระแห่งชาติ ว่า ผู้เลี้ยงสุกรทั้งรายย่อย รายกลาง และรายใหญ่ต่างยินดีเนื่องจากจะทำให้การป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ( ASF) มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ขอขอบคุณนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ผลักดันเรื่องนี้เป็นผลสำเร็จ เนื่องจากหากใช้กำลังเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์อย่างเดียวเฝ้าระวังโรคจำนวนเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ แต่เมื่อยกระดับเป็นวาระแห่งชาติรัฐบาลสามารถบูรณาการหน่วยงานทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และอื่น ๆ ช่วยกันดูแลตามแผนที่กำหนดไว้
“มติ ครม.ดังกล่าวออกมาได้ทันสถานการณ์ เนื่องจากอีกไม่กี่วันจะถึงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามาก ขณะเดียวกันแรงงานต่างด้าวจะกลับประเทศเข้ามาเมืองไทยใหม่หลังสงกรานต์ โอกาสที่จะนำเชื้อก่อโรคเข้ามามีมาก ทั้งการไปอยู่ใกล้จุดเกิดโรคหรือนำผลิตภัณฑ์จากสุกรที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเข้ามา ล่าสุดองค์กรโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) พบจุดเกิดโรคที่กัมพูชาเมืองรัตนคีรี ติดชายแดนเวียดนาม ทางสมาคมฯ ได้ประสานกับผู้เลี้ยงสุกรรายใหญ่ในกัมพูชาให้ควบคุมโรคโดยด่วนที่สุด เนื่องจากไทยส่งออกสุกรไปยังกัมพูชาด้วย เมื่อใช้ยานพาหนะขนส่งเข้าไป โอกาสที่เชื้อโรคจะปนเปื้อนมาจึงเป็นไปได้ ขณะนี้จึงเร่งดำเนินการก่อสร้างจุดฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคตามด่านชายแดน” นายสุรชัย กล่าว
ด้านนายสัตวแพทย์สุเจตน์ ชื่นชม นายกสมาคมสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มสุกรไทย กล่าวว่า ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรฯ เสนอนั้น สร้างความมั่นใจให้ทุกฝ่ายทั้งผู้เลี้ยงสุกร ผู้ประกอบอุตสาหกรรมต่อเนื่องได้แก่ อุตสาหกรรมแปรรูปสุกร อุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์ ตลอดจนเกษตรกรผู้ปลูกพืชอาหารสัตว์เพราะหากโรค ASF ระบาดเป็นวงกว้างในไทยจะสร้างความเสียหายมูลค่ากว่าแสนล้านบาท ตามแผนเตรียมความพร้อมรับมือโรค ASF ยังกำหนดมาตรการชดเชยหากต้องทำลายสุกรซึ่งเป็นส่วนสำคัญเนื่องจากจะทำให้เกษตรกรรายย่อยให้ความร่วมมือแจ้งเจ้าหน้าที่เมื่อเกิดโรคในฟาร์ม เพราะมั่นใจว่าจะไม่ขาดทุน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปควบคุมโรคได้อย่างรวดเร็ว เมื่อมีแผนแผนเตรียมความพร้อมรับมือโรค ASF ระดับชาติแล้ว กรณีเลวร้ายที่สุดอาจมีเกิดโรคในฟาร์มของเกษตรกรรายย่อยที่อยู่ใกล้ชายแดน แต่เมื่อทุกภาคส่วนร่วมกันดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพจะไม่เกิดการระบาดเป็นวงกว้างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย