“ธนาธร” ปฏิเสธ 3 ข้อหา ยอมรับกังวลต้องขึ้นศาลทหาร

สน.ปทุมวัน 6 เม.ย.-“ธนาธร” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก พร้อมปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เตรียมทำหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ยอมรับว่ากังวลเพราะต้องขึ้นศาลทหาร


นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เดินทางเข้ารับทราบข้อหาที่ สน.ปทุมวัน โดยมีรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแลงานความมั่นคง เดินทางเข้าสอบปากคำและใช้เวลาสอบปากคำนาน 3 ชั่วโมง จากนั้นนายธนาธร ได้เดินออกมาพร้อมชู 3 นิ้วให้กับมวลชน ท่ามกลางเสียงตะโกนร้อง “ธนาธรสู้ๆ” และให้สัมภาษณ์ว่า ถูกแจ้ง 3 ข้อหา คือ มาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปั่น มาตรา 189 ช่วยเหลือหรือให้ที่พักพิงผู้ต้องหา และมาตรา 215 ฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปทำให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งนายธนาธรปฏิเสธทุกข้อหา แต่ยอมรับว่าในวันที่ 28 มิถุนายน อยู่บริเวณ สน.ปทุมวัน จริง แต่กระทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ พร้อมขอให้การเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม


ด้านพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงว่าการให้นายธนาธร ขึ้นศาลทหาร เป็นเพราะเทคนิคทางกฎหมาย ส่วนคดีที่ล่าช้ามากว่า 4 ปี ย้ำว่ามาจากพนักงานสอบสวนได้โยกย้ายและเกษียณ จึงตั้งคณะทำงานขึ้นมาใหม่ ส่วนบรรยากาศที่ สน.ปทุมวัน ในวันนี้ พบว่ามีตัวแทนจากสถานทูต 12 ประเทศร่วมสังเกตการณ์และซักถามเจ้าหน้าที่เรื่องขั้นตอนคดีที่ล่าช้า รวมถึงเหตุผลที่ต้องขึ้นศาลทหารและกรอบเวลาการทำคดี


สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2558 เวลา 14.00 – 22.00 น. ที่หน้า สน.ปทุมวัน หลังเจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกนายรังสิมันต์ โรม ขณะนั้นเป็นแกนนำนักศึกษา พร้อมพวกรวม 7 คน ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหาร เพื่อให้มารับทราบข้อหาผิดมาตรา 116 และมีการชุมนุมหน้า สน.ปทุมวัน จากนั้นมีรถตู้สีขาวมารับตัวนายรังสิมันต์ ออกไป และจากการขยายผลพบว่าเป็นรถของมารดานายธนาธร อีกทั้งพบว่านายธนาธร อยู่ในพื้นที่ จึงเรียกตัวมารับทราบข้อหา

ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่าน Facebook ให้กำลังใจนายธนาธร รวมถึงผู้บริหารพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะเป็นหนึ่งใน 6 พรรคที่ร่วมลงสัตยาบันกับพรรคเพื่อไทย แต่ต้องประสบเหตุถูกดำเนินคดี พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า หลังเลือกตั้งมีขบวนการเคลื่อนไหว พยายามจัดการบุคคลและพรรคที่เห็นต่าง พร้อมฝากไปถึงผู้เกี่ยวข้องว่า ไม่ควรสร้างเงื่อนไขใดๆ ที่จะนำไปสู่สถานการณ์ที่ไม่ปกติ และเชื่อมั่นว่าประชาชนไทยไม่ต้องการเห็นอุบัติเหตุทางการเมือง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง