กกต.แจงประกาศผลเลือกตั้งไม่ได้ มีเหตุร้องเรียนผู้ชนะ 66 เขต

กกต. 5  เม.ย.- “ปกรณ์” แจงเหตุประกาศผลเลือกตั้งไม่ได้ เพราะกฎหมายกำหนด   มีผู้ชนะการเลือกตั้งใน 66 เขตถูกร้องเรียน   หากสั่งเลือกตั้งใหม่  คะแนนยังไม่นิ่ง จึงยังไม่คำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์  ย้ำไม่มีสูตร แต่ยึดตามกฎหมาย  ไม่วิตกถูกถอดถอน เป็นบุคคลสาธารณะต้องยอมรับ  


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 เม.ย.) นายปกรณ์ มหรรณพ และนายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  ได้มาร่วมพูดคุยกับสื่อมวลชน ขอให้แยกแยะการทำงานระหว่างสำนักงาน กกต. และ กกต. เพราะกฎหมายใหม่ให้กกต.มีหน้าที่ในการกำหนดนโยบายบทบาทเท่านั้น   ภารกิจสำคัญของ กกต. คือทำให้การเลือกตั้งสุจริต เที่ยงธรรม โดยพยายามที่จะสืบสวนสอบสวนเรื่องที่มีการร้องเรียนในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะมาจากประชาชน หรือฝ่ายไหน   

“เราพร้อมถูกวิพากษ์วิจารณ์ ยืนยันว่ามีหลายเรื่องที่เราไม่สามารถทำได้ เพราะกฎหมายไม่ให้อำนาจ เช่น เรื่องการประกาศผลการเลือกตั้งในเขตที่ไม่มีการร้องเรียน หรือตรวจสอบแล้วที่มีหลายเขต   แต่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 127 ไม่ให้อำนาจ กกต.ทำเช่นนั้น” นายปกรณ์ กล่าว


นายปกรณ์   กล่าวว่า ขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนเกือบ 300 เรื่อง ได้เร่งรัดให้สำนักงานดำเนินการสอบสวน โดยในจำนวนนี้มีผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดใน 66 เขต ถูกร้องเรียน   ต้องตรวจสอบทั้งหมด และ  กกต.มีการสั่งให้นับคะแนนใหม่ในจังหวัดขอนแก่น 2 หน่วยเลือกตั้ง และสั่งเลือกตั้งใหม่ใน 6 หน่วยเลือกตั้ง ใน  5 จังหวัด ทั้งหมดจะมีผลต่อการประกาศผล รวมถึง คะแนนที่จะนำมาคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

นายปกรณ์ ยืนยันว่า การคิดคำนวณจำนวน  ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ไม่มีสูตร 1, 2 , 3   แต่มีวิธีเดียวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 ประกอบพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง  ส.ส. มาตรา 128 129 โดยก่อนที่สำนักงาน  กกต.จะเสนอให้ กกต.พิจารณา  และเพื่อให้เกิดความรอบคอบ  จึงเชิญคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) มาให้ความเห็น ซึ่งแนวทางก็สอดคล้องกัน และสำนักงาน กกต.ได้ขอหลักฐานจาก  กรธ.ซึ่งมีการคำนวณรองรับทุกกรณีที่อาจจะเกิดขึ้นได้   แม้กระทั่งการคิดคำนวณหากประกาศ ส.ส.ที่ร้อยละ 95 

นายปกรณ์ กล่าวว่า แต่ที่ กกต.ยังไม่ประกาศว่า คำนวณได้เท่าไร    เพราะขณะนี้คะแนนทั่วประเทศที่จะนำมาใช้คำนวณ จะยังมีการเปลี่ยนแปลงจากการสั่งนับคะแนนใหม่ และเลือกตั้งใหม่   โดยเฉพาะเรื่องร้องเรียนผู้ได้รับคะแนนสูงสุด 66 เขต ถ้าสอบสวนแล้วเป็นจริง จะมีผลต่อการให้ใบส้ม  คือ ระงับสิทธิสมัครชั่วคราว 1 ปี คะแนนที่จะมาคำนวณจะต่างไปทันที ถ้าประเด็นเหล่านี้ยุติลงเมื่อไร  เราประกาศผล  ส.ส.บัญชีรายชื่อได้ภายใน 10 นาที


“อยากให้สบายใจ   ทั้งหมดเรากำลังเร่งทำ และพิสูจน์ว่าการเลือกตั้งสุจริตและเป็นธรรม   ท่านใดที่เห็นว่าไม่สุจริต ไม่เป็นธรรม ให้ร้องเรียนมาเลย ถ้าเราสอบสวนไม่ชัดเจน ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย   ก็ค่อยมากล่าวหาเราได้ ยืนยันเราไม่ได้ลอยตัว   เราทำงานตลอด เมื่อเรามาเป็นบุคคลสาธารณะแล้ว เราพร้อมถูกวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ได้เสียกำลังใจ” นายปกรณ์ กล่าว   

นายปกรณ์ กล่าวว่า   การเรียกร้องให้ลาออก การยื่นถอดถอนเป็นสิทธิ เรารับฟัง แต่หน้าที่ของเราคือ ต้องทำให้การเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรม ทำให้สำเร็จ และเมื่อถึงวันนั้น เราจึงค่อยมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อถามว่า ปัญหาเรื่องสูตรต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่   นายปกรณ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดกันไปถึงตรงนั้น เรามีวิธีคิดและให้สำนักงานไปดำเนินการ  ข้อถกเถียงทางกฎหมายในขณะนี้ ต้องการให้ทุกคนอย่าตีความตามเป็นคำๆ   แต่ให้ตีความเป็นบรรทัด 

 นายปกรณ์ ยืนยันว่า กกต.ไม่มีความกังวลเรื่องวิธีคิด แต่ที่ไม่สามารถตอบได้ เพราะขณะนี้วงเล็บหนึ่ง วงเล็บสองเรื่องคะแนนรวมยังไม่เป็นที่ยุติเลย ถ้าถึงเวลาจะตอบได้ทันที และขณะนี้ได้ในสำนักงานทำไว้ทุกรูปแบบเผื่อไว้แล้ว

“เคยมีคนพูดว่า ตรงนี้  ที่มาพูดและแถลงต่อสื่อมันน่ากลัวมาก   แต่เมื่อผมมาพบกับพวกเราแล้ว ไม่น่ากลัวเลย คำถาม ข้อวิจารณ์ต่างๆ ทั้งจากนักวิชาการ   ทำให้รู้ว่า กล่าวหาเรามาตราไหน จะได้นำไปคิดพิจารณา ว่าผิดตามที่เขาว่าหรือไม่   ถือว่าเป็นประโยชน์มาก เวลานี้เหลืออีกไม่กี่วัน จะรีบทำงานให้เสร็จ   ก่อนวันที่ 9 พฤษภาคม  เราต้องประกาศรับรอง  ส.ส.ไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 หรือ 333 เขต อีก 17 เขตถ้าไม่เสร็จก็จะทำต่อไป”  นายปกรณ์ กล่าว           ..- สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่ ย้ำวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องรับผิดชอบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมอบอำนาจทนายความยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้า นายธนพร ขอโทษ จะเลิกแล้วต่อกันหรือไม่ว่า แล้วแต่ทนายความตนได้มอบหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ส่วนจะฟ้องเฉพาะนายธนพร หรือจะมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เกินเลยเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบทำลายเกียรติยศ เกียรติภูมิ ของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนเป็นภัยต่อปัญหาของประเทศก็คงฟ้อง เมื่อถามว่าที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่ไม่เคยมีการส่งฟ้องกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จริง มีการฟ้องกันมาเยอะแล้ว ถ้าไปทำลายเกียรติภูมิของเขาหรือครอบครัวเขาก็ฟ้องกันทั้งนั้น ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตไม่ผิดอะไร แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอันนี้เป็นเรื่องที่ควรรับผิดชอบ และต้องถามผู้ที่วิจารณ์ว่า วิจารณ์ไปโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ต้องย้อนไปถามผู้ทำผิดอย่ามาย้อนถามผู้เสียหาย.-316.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! มือยิง “กำนันเล้น” หนีกบดานเกาะลันตา

กระบี่ 21 ส.ค. – ไล่ล่าเกือบ 20 วัน จับได้แล้วมือยิง “กำนันเล้น” กำนันคนดัง จ.ตรัง หนีกบดานเกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกดดัน 3 วัน 3 คืน สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่บุกจับ นายธวัชชัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายิง นายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คดีนี้อุกอาจและสะเทือนขวัญคนในพื้นที่มาก เพราะคนร้ายไปรอดักยิงกำนันถึงหน้าบ้าน ขณะที่กำนันกำลังขับรถเข้าบ้าน และใช้อาวุธสงคราม M16 ในการก่อเหตุ ซึ่งกำนันเล้น เป็นกำนันคนดังในจังหวัด และเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด หลักฐานสำคัญในตอนนั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกไปก่อเหตุหน้าบ้านกำนัน […]

“ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.- งงทั้งห้องประชุม! “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43 และ 44 ด้านประธานวิปรัฐบาลบอกไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ขณะที่ “ไชยา” อ้างเป็นข้อตกลง 2 วิปขอปิดประชุมเอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 14.59 น. สร้างความงุนงงให้กับสส. เพราะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า จะพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 […]

นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง

ศาล รธน. 21 ส.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.34 น ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง หลังจากไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พยานในคดีปมคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาไต่สวนนายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เบิกตัวนางสาวแพทองธาร มาไต่สวนต่อ โดยเริ่มจากการกล่าวสาบานตน ก่อนให้การ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านางสาวแพทองธาร ได้พกยาดมสีเหลืองวางไว้ใกล้มือด้วย โดยหลังสาบานตนเสร็จก็ได้มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

RBC ไทย-กัมพูชา (ทภ.1) เห็นพ้อง 13 ข้อหยุดยิง ตอบรับเพิ่ม 3 ประเด็น

สระแก้ว 22 ส.ค.- ประชุม RBC ไทย-กัมพูชา ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 เห็นพ้อง 13 ข้อตกลงหยุดยิง GBC ฝ่ายกัมพูชา ตอบรับ 3 ข้อเสนอ เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ตั้งชุดประสานงานร่วม แต่ไม่ตอบรับแก้ปัญหา MOU 43 ชี้ไม่อยู่ในอำนาจ RBC โยนถกวง JBC แทน พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 นำแถลงสรุปผลการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับแม่ทัพ ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 โดยทั้ง 2 ฝ่าย ตกลงด้วยดี ตอบรับ 13 ข้อตกลงหยุดยิง จากการประชุม GBC ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบเพิ่มเติม 3 ประเด็น จากที่ไทยเสนอ 4 ประเด็น คือ […]

ศาลยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 – พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

กทม. 22 ส.ค.-ศาลชั้นต้นยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เจ้าตัวยิ้มและกล่าวคำพูดแรกขอบคุณทีมทนายความ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ เห็นว่าคลิปเสียงที่โจทก์นำมาเป็นหลักฐานไม่มีการพิสูจน์ว่าเป็นคลิปที่มีการตัดต่อหรือไม่ และศาลเชื่อว่าบทสัมภาษณ์น่าจะมากกว่าความยาวของคลิปดังกล่าว จึงพิพากษายกฟ้อง หลังฟังคำพิพากษา นายทักษิณ ยิ้มและกล่าวคำพูดแรกขอบคุณทีมทนายความ หลังจากนี้จะได้ทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

เริ่มแล้ว ประชุม RBC ฝั่งกองทัพภาคที่ 1

สระแก้ว 22 ส.ค.-เริ่มแล้ว ประชุม RBC ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 รอผล “กัมพูชา” ตอบรับ 3 ข้อ เวลา 10.00 น. ที่สโมสรสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 เริ่มแล้วสำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับแม่ทัพ ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 ฝ่ายไทยนำโดย พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 ขณะที่ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พลเอกแอก ซอมโอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 โดยจะใช้เวลาการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งในช่วงต้นได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ ก่อนเชิญออกเพื่อเข้าสู่วาระการประชุม ทั้งนี้ รายงานข่าวยืนยันว่า ในวงประชุมวันนี้ จะเป็นการหารือ 13 + 3 ข้อตกลง คือ 13 ข้อจากเดิม GBC เพื่อนำสู่การปฏิบัติ และข้อเสนอใหม่ ของฝ่ายไทย 3 […]

“ทักษิณ” ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112

กทม. 22 ส.ค.-“ทักษิณ” มาก่อนเวลา สวมสูท-ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112 ก่อนสวมกอด “พินทองทา” และโบกมือทักทายสื่อฯ-มวลชนเสื้อแดง ก่อนขึ้นห้องพิจารณาที่ 902 ด้านตำรวจ สน.พหลฯ จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยตามความเหมาะสม ต่อมาเวลา 09.20 น. นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนกลางนายทักษิณชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงศาลอาญารัชดา โดยจอดรถบริเวณด้านข้างอาคารศาลอาญา จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกันนายทักษิณ เดินทางมาถึงศาลอาญาด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยมาด้วยชุดสูทสีกรมท่า เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนกไทสีเหลือง ก่อนจะสวมกอดกับลูกสาว และเดินเข้าไปบริเวณด้านในอาคารศาลอาญารัชดาทันทีเพื่อเข้าสู่ห้องพิจารณาคดีที่ 902 ในเวลา 10.00 น. ตามที่ศาลนัดพิพากษาตัดสินคดีวันนี้ ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัย พันตำรวจเอกมารุต สุดหนองบัว ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้ข้อมูลว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่ศาลอาญาได้ประสานขอกำลังสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้เข้ามาช่วย ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งตำรวจสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ทั้งในและนอกเครื่องแบบได้เข้ามาช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่โดยมีการวางกำลังเสริมกับตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลตามความเหมาะสม โดยก่อนหน้านี้ทางกลุ่มแกนนำมวลชนเสื้อแดงได้มีการประสานกับฝ่ายสืบสวนว่าจะเข้ามาจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้กำลังใจ และจับภาพรวมการข่าวก็ยังไม่พบอะไรที่น่าเป็นกังวล ขณะเดียวกันพบมีมวลชนจำนวนหนึ่งเดินทางมาปักหลักที่บริเวณลานจอดรถของศาลอาญาพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีแดง และสกรีนข้อความให้กำลังใจพร้อมรูปของนายทักษิณ เป็นการให้กำลังใจเดินทางมาให้กำลังใจนายทักษิณเดินทางมาจากในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ซึ่งตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลอาญาได้มีการกันพื้นที่ เพื่อให้กลุ่มมวลชนอยู่ พื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่เดินทางมาที่ศาลอาญา.-420.-สำนักข่าวไทย