เดินหน้าแก้ปัญหาปาล์ม ประกาศใช้ B10 สิ้นเดือนนี้

4 เม.ย.-รัฐบาลพยายามกระตุ้นการทำงานและแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะความเดือดร้อนที่กำลังเกิดขึ้นหลายเรื่องทั้งฝุ่นในภาคเหนือ ปัญหาน้ำ รวมไปถึงราคาปาล์มตกต่ำ ล่าสุดเตรียมประกาศใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี 10 สิ้นเดือนนี้


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ โดยได้เน้นย้ำขอให้การทำงานในช่วง 2-3 เดือนจากนี้จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมิถุนายนหรือต้นเดือนกรกฎาคม ขอให้เดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ ช่วยกันทำงานให้หนัก และจะต้องไม่เกิดเกียร์ว่าง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และช่วยพยุงเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะปัญหาปากท้องของประชาชน ต้องดูแลให้อยู่ในระดับราคาที่เหมาะสม ไม่มีการฉวยโอกาสและราคาสินค้าเกษตรจะต้องดูแลให้อยู่ในระดับที่เกษตรกรไม่ได้รับผลกระทบ จะต้องเร่งผลักดันการส่งออกไปยังตลาดใหม่อย่างเต็มที่ หลังจากที่ขณะนี้หลายหน่วยงานคาดไทยจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกและปรับลดตัวเลขประมาณการ การขยายตัวการส่งออกเหลือประมาณร้อยละ 3 ในขณะที่เป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งไว้คือร้อยละ 8


ทั้งนี้ ในระหว่างที่เศรษฐกิจโลกยังคงมีความผันผวนจากสถานการณ์สงครามการค้า การพยุงเศรษฐกิจในประเทศถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ เพื่อที่จะรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจด้วยการใช้การค้าภาคบริการทดแทนการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า โดยในส่วนของสินค้าเกษตรที่ตกต่ำและเกษตรกรเดือดร้อนก็คือ ราคาปาล์มที่กำลังออกสู่ท้องตลาด ราคาอยู่ที่ประมาณ 2.20-2.40 บาท/กก. ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากตลาดโลกที่สหภาพยุโรปมีมาตรการกีดกันการใช้ปาล์มทั้งเพื่อบริโภคและการใช้เพื่อการทำน้ำมันรถยนต์ ทำให้ราคาดิ่งลงอย่างหนัก ส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ หรือซีพีโอไม่ได้ 


ในขณะที่ปริมาณปาล์มเพิ่มขึ้น เพราะเดิมคาดกันว่าจะส่งออกได้ และไทยจะใช้น้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น ดังนั้น ผลผลิตซีพีโอในประเทศก็เพิ่มขึ้นตลอดปี ในปี 2560 ประเทศไทยผลิตซีพีโออยู่ที่ประมาณ 2 ล้านตัน ปี 2561 ผลิตอยู่ที่ประมาณ 2.5 ล้านตัน และปีนี้คาดจะมีซีพีโอถึง 3 ล้านตัน ก็เป็นเรื่องซัพพลายด์-ดีมานด์ ตามหลักเศรษฐศาสตร์ เมื่อปริมาณเพิ่มขึ้นแต่ใช้ไม่หมด ราคาก็ลดลง ทำให้สตอก ซีพีโอขณะนี้เพิ่มสูงขึ้นถึง 4.6 แสนตันต่อปี โดยปกติแล้วคนไทยจะกินหรือใช้น้ำมันปาล์ม มาทอด มาผัดอาหาร และใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม 1 ล้านตันต่อปี และใช้เพื่อผลิตน้ำมันไบโอดีเซลสำหรับรถยนต์ทั่วไป คือบี 7 ประมาณ 1.4 ล้านตัน รวมแล้วก็จะใช้ 2.4 ล้านตัน หากไม่บริหารจัดการ ซีพีโอจะเหลือปริมาณสูงถึง 2.2 ล้านตัน ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหา โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นำมาผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง 1.6 แสนตัน ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ โดยใช้ไปแล้ว 6 หมื่นตัน และอยู่ในระหว่างส่งมอบอีก 1 แสนตัน และเพื่อจะเร่งการใช้และดูดซับปาล์มโดยเร็ว 

มีข่าวดีสำหรับเกษตรกร โดยนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพงงาน ออกมาเปิดเผยว่า ในส่วน 1 แสนตันนี้ ทาง กฟผ.จะเช่าคลังที่ จ.สุราษฎร์ธานี แล้วให้โรงสกัดคู่สัญญา มาส่งมอบทันทีเริ่มจากวันจันทร์ที่จะถึงนี้ จากเดิมที่โรงสกัดจะต้องทยอยมาส่งมอบที่โรงไฟฟ้าบางปะกง วันละ1-2 พันตัน/วัน ต้องใช้เวลานานอีก 2 เดือน ถึงจะหมด 1 แสนตันที่เหลือ ดังนั้น เมื่อดูดซับมาเก็บไว้ที่คลังสุราษฎร์ธานีก็ทำให้ดูดซับได้ทันที 1 แสนตัน รวมถึงรัฐบาล เร่งส่งเสริมการใช้น้ำมันไบโอดีเซล 

ล่าสุด สมาคมผู้ผลิตยานยนต์ญี่ปุ่น หรือ JAMA แจ้งว่ารถเครื่องยนต์ดีเซลสามารถใช้บี 10 ได้แล้ว แต่โรงานบี 100 ตั้งปรับกระบวนการผลิตให้ลดค่า โมโนกลีเซอไรด์ลดลงจาก 0.7 ไมโครกรัม เหลือ 0.4 ไมโครกรัม ซึ่งกระทรวงพลังงานจะเร่งประกาศปรับมาตรฐานน้ำมันจากบี 7 เป็น บี 10 ปลายเดือนเมษายนนี้ (น้ำมันบี 20+บี10) รวมทั้งเร่งการใช้บี 20 ซึ่งบางค่ายรถยนต์กระบะเตรียมประกาศว่าพร้อมใช้ พร้อมกับรถบรรทุกขนาดใหญ่

ขณะที่กรมสรรพสามิตก็จะเร่งประกาศลดภาษีสรรพสามิตสำหรับรถที่ใช้บี 20 ทั้งรถยนต์กระบะและรถยนต์กระบะ 4 ประตู โดยลดลงร้อยละ 0.5-1 จากปัจจุบันที่จัดเก็บที่ร้อยละ 2.5-10 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563-31 ธันวาคม 2565 เป็นเวลา 3 ปี ดังนั้น หากใช้บี 10 และบี 20 เพิ่มมากขึ้น ก็จะดูดซับซีพีโอได้อีก 1.2 ล้านตันต่อปี ทำให้การใช้ซีพีโอด้านการผลิตเชื้อเพลิงจะสูงถึง 2.5 ล้านตันต่อปี ในขณะที่ ผู้ผลิตโรงงานไบโอดีเซล ก็สนับสนุนแนวคิดการประกาศใช้บี 10 จะช่วยทำให้ราคาปาล์มพุ่งสูงขึ้นอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 3 บาท/กก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย