กมธ.ศึกษา สว.เรียกร้อง “รัฐบาล” ตัดงบช่วยเหลือด้านการศึกษา “เขมร”

รัฐสภา 13 ส.ค.-กมธ.ศึกษา สว.เรียกร้อง “รัฐบาล” ตัดงบช่วยเหลือด้านการศึกษา “เขมร” มั่นใจไม่ขัดสิทธิเด็ก-มนุษยธรรม ยกตัวอย่าง “ยุโรป-อเมริกา” ก็ดูแลเฉพาะที่เข้าเมืองถูกกฎหมาย เปรียบ “เด็กกัมพูชา” ลาครูกลับบ้านเสียใจร้องไห้ แต่ “เด็กไทย” ที่ตายไม่มีโอกาสแม้กระทั่งเจอพ่อแม่ ถามตอนกดปุ่มระเบิดคิดอย่างไร

นายกมล รอดคล้าย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา นำคณะ สว.แถลงข่าวเสนอแนะรัฐบาล เรื่องขอให้พิจารณาปรับลดโครงการความช่วยเหลือด้านการศึกษาที่ประเทศไทยมีต่อประเทศกัมพูชา


โดยนายกมล กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดน ซึ่งไทยมีพื้นที่ติดกับกัมพูชาเป็นเส้นทางที่ยาวไกล เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นผลกระทบทั้งต่อพี่น้องประชาชนและเด็กที่อยู่ในโรงเรียน ประเด็นที่อยากจะนำเสนอในวันนี้มี 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นส่วนที่เราช่วยเหลือ ดูแลกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศที่พ่อแม่ ผู้ปกครองมาทำงานในประเทศไทย และลูกหลานจะต้องมาอยู่ในประเทศไทยด้วย ซึ่งเราจะต้องดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชนและตามข้อตกลงระหว่างประเทศ ประเทศไทยจะต้องทบทวน ในฐานะที่เราเคยเป็นประเทศที่ดีต่อกัน

ประเทศไทยเราได้ดูแลเด็ก ซึ่งนอกจากจะเป็นเด็กไทยแล้ว เรายังต้องดูแลเด็กที่ไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร์ ไม่มีสัญชาติไทย กลุ่มชาติพันธุ์ เด็กด้อยโอกาส ผู้โยกย้ายถิ่นฐาน และลูกหลานของแรงงานต่างด้าว ซึ่งเป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก วันนี้ประเทศไทยของเรามีเด็กชาวต่างด้าวอยู่ทั้งหมดประมาณ 108,000 คน ซึ่งลูกหลานแรงงานที่ว่านี้จะเป็นเด็กที่อยู่ในโรงเรียนของสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่เหลือจะอยู่ในโรงเรียนเอกชน ขณะเดียวกัน มีกลุ่มที่อยู่บริเวณชายแดนและเดินข้ามมาในประเทศไทย ซึ่งเรามีอยู่ทุกภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย ลาว กัมพูชา และเมียนมา ที่เดินทางเข้ามาจำนวนมาก โดย 541 คนมาจากชายแดนด้านกัมพูชาและลาวเป็นส่วนใหญ่ เด็กทั้งหมดนี้เป็นเด็กที่เราจะต้องดูแลค่าใช้จ่ายรายหัว หากคำนวณแล้วจะต้องเสียเงิน 837 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตกคนละ 20,000 – 30,000 บาท ที่เป็นปัญหาคืองบประมาณที่เราดูแลเด็ก


“เรามีค่าใช้จ่าย ซึ่งเราดูแลเด็กต่างด้าวมากกว่าเด็กไทยอีก เด็กที่มาจากต่างประเทศมีอย่างน้อยประมาณ 15 ประเทศ แต่สูงสุดก็คือเด็กกัมพูชา เมียนมาและลาว ประเด็นที่อยากจะเรียนต่อคือ เราควรจะดูแลเด็กเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน หรือมิติของการดูแลเด็ก เราจะต้องดูแลอย่างครบถ้วน ทั้งที่หลักการประเทศที่เจริญแล้วจะดูแค่เด็กที่เข้าเมืองถูกกฎหมาย แต่เราดูมากกว่า เพราะฉะนั้น ค่าใช้จ่ายรายหัวจึงสูงมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะด้านการศึกษา เรื่องพยาบาล เรื่องอื่นตามมาด้วย” นายกมล กล่าว

นายกมล กล่าวว่าเป็นเรื่องข้อตกลงอาเซียน ทำให้เราต้องดูแลมากกว่าเรื่องสิทธิเด็ก สุดท้ายสิ่งที่เราอยากจะนำเสนอคือประเทศไทยและจะปรับลดค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรจะเริ่มที่ประเทศกัมพูชาก่อน ถ้าหากไม่มีความเป็นกัลยาณมิตร เราจำเป็นจะต้องจัดการกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง เราน่าจะดูแลเฉพาะส่วนที่ถูกกฎหมาย ส่วนที่เขาผิดกฎหมาย หรือเด็กที่เดินข้ามมาชายแดน เราน่าจะระงับความช่วยเหลือไว้ก่อนในเบื้องต้น

ส่วนที่สอง นายกมล ระบุว่า อยากให้ลดความช่วยเหลือด้านการศึกษาอื่นๆ เฉพาะกับประเทศกัมพูชา เรามีความร่วมมือทางด้านการศึกษา สาธารณสุข เทคนิค และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมนุษยธรรม วันนี้เรามีความช่วยเหลืออย่างน้อย 6-7 เรื่อง และในปีนี้มีกิจกรรมหลากหลาย มีทุนที่มาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ให้แก่เด็กกัมพูชา วันนี้เราน่าจะต้องกำหนดทิศทาง


ไทยควรจะดูแลเด็กตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก เฉพาะเรื่องที่เด็กเข้ามาอย่างถูกกฎหมายคือ 103,000 คน ส่วนอีกประมาณ 800,000 คน เราควรชะลอการช่วยเหลือไว้ก่อนจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น หรืออาจจะต้องปรับให้กับประเทศลาว เมียนมา เวียดนาม รวมถึงประเทศประเทศอื่น ซึ่งประเทศไทยก็เป็นกัลยาณมิตรสูงมาก โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียน

“ผู้ที่คิดถึงมนุษยชนอาจจะมองว่าทำไมต้องทำเรื่องนี้ แต่เราทำเท่าที่จำเป็น และไม่ได้ต่ำกว่ามาตรฐานในประเทศยุโรปเลย เด็กไม่ได้ไปเรียน 16 วันแล้ว ไม่แน่ใจว่าจะส่งไปเรียนได้ตามปกติหรือไม่ เด็กกัมพูชาที่กลับประเทศมีโอกาสที่เสียใจ แต่เด็กไทยที่โดนระเบิด เขาไม่มีโอกาสได้เสียใจ เขาไม่มีโอกาสได้ร้องไห้ ไม่มีโอกาสได้ไปโรงเรียน และไม่มีโอกาสได้พบกับพ่อแม่เขาอีกเลย เพราะฉะนั้น สิ่งเหล่านี้ ผมอยากบอกกับทุกท่านว่าโลกเรามันไม่ได้สวยเหมือนที่เราคิด ขอให้ตั้งอยู่บนหลักเหตุผลและก็พร้อมที่จะทำหน้าที่นี้ เพื่อพวกเราชาวไทยต่อไป” นายกมล กล่าว

ด้านนายวิวัฒน์ รุ้งแก้ว สว.จาก จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่าจังหวัดศรีสะเกษมีด่านช่องสะงำ มีโรงเรียนห่างจากด่าน 13 กิโลเมตร แต่มีนักเรียนที่บิดามารดาพำนักที่กัมพูชาแล้วส่งมาเรียนที่โรงเรียนในไทย ตนจึงไปถามว่ามาเรียนได้อย่างไร ก็ทราบว่าผู้ปกครองมาส่งตอนเช้า ตอนเย็นมารับกลับ ตนได้รับแจ้งว่าเด็กดังกล่าวเป็นเด็กติด G ซึ่งเด็กติด G ผู้ปกครองต้องมีถิ่นพำนักอยู่ที่ประเทศไทย จึงสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อผู้ปกครองทำงานอยู่ที่กัมพูชา ทำงานทำการ หากินที่กัมพูชา แต่มาเรียนที่ประเทศไทย ใช้ทรัพยากรของไทย โดยเฉพาะภาษี อย่าคิดถึงอาหาร ค่าเล่าเรียน แต่ต้องนึกถึงสิ่งปลูกสร้างและค่าจ้างครูด้วย ถ้ามา 10 คนก็ 300,000 บาท เราแบกภาระกันสมควร ส่วนเรื่องสิทธิเด็กพอจะจำเป็นต้องทำ แต่เราทำเต็มที่ตามสนธิสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก

“ถ้าเขามาเรียนบ้านเราแล้วเป็นคนดีตามความเชื่อของคนไทย คือต้องมีความชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยึดมั่นในคติของพวกเราชาวไทย เคารพกฎหมายไทย ทำตัวเป็นคนดี เราไม่ต้องคิดมาก แต่วันนี้สิ่งที่ทำให้ต้องคิดมาก เพราะเรามีความรู้สึกว่ากัมพูชาไม่รู้สึกสำนึกในบุญคุณข้าวแดงแกงร้อน ผมไม่เอาประวัติศาสตร์ที่เกิดไม่ทันมาเล่า ผมเอาเฉพาะที่ผมเกิดทันคือปี 2510 – 2518 กัมพูชาบ้านแตกสาแหลกขาด เราคนไทยได้ดูแลด้านมนุษยธรรมอย่างเต็มที่ แต่วันนี้สิ่งที่กัมพูชาทำกับเราถือว่าไม่สำนึกบุญคุณข้าวแดงแกงร้อน เพราะฉะนั้น ความช่วยเหลืออื่น ความช่วยเหลือใดๆ รวมทั้งการศึกษา เราควรพิจารณาตัดในส่วนที่ตัดได้“ นายวิวัฒน์ กล่าว

ขณะที่นายชาญชัย ไชยพิศ สว.จาก จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ประเทศเพื่อนบ้านที่เราไว้วางใจ ให้ความรักตลอดหลาย 10 ปีที่ผ่านมา เขาไม่นึกเลยว่าในช่วงปี 2520 อพยพมาหลายแสนคน มาอยู่ในผืนแผ่นดินไทย มากินข้าวที่เมืองไทย มาใช้น้ำที่เมืองไทย มาพึ่งมาโพธิสมภารของพระเจ้าอยู่หัว ข้าวของไทยไม่มียาง ไม่มีสำนึกบุญคุณบ้านเราบ้างเลย

“บ้านสร้างมาเป็นล้านก็เหลือเป็นเศษซาก ถ้าคนอยู่ก็คือตาย แต่ชาวบ้านเขาเชื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และอพยพมาก่อนทำให้ปลอดภัย เราจึงอยากให้รัฐบาลทบทวนสิ่งที่ช่วยเหลือ” นายชาญชัย กล่าว

จากนั้นเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถาม เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะไม่ขัดหลักการสิทธิมนุษยชน นายกมล กล่าวว่า เราได้ตรวจสอบหลักกฎหมายมาเรียบร้อยแล้ว ถ้าไปยุโรป อเมริกา เขาจะดูแลสิทธิเด็กเฉพาะเด็กที่เข้าเมืองถูกกฎหมาย เช่น พ่อแม่ไปเรียน ทำงาน ลูกหลานก็จะไปเรียนและใช้สิทธิ์ได้แบบเดียวกับประเทศเหล่านั้น อย่าว่าแต่เรื่องการศึกษาเลยกระทรวงสาธารณสุขหมดเงินไปหลายบาทแล้วกับการช่วยเหลือเพื่อนบ้าน สิ่งที่เราอยากให้ชะลอหรือปรับลดคือส่วนที่ไม่อยู่ในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก

เมื่อถามว่าจะไม่เป็นเครื่องมือให้ทางกัมพูชากล่าวหาว่าประเทศไทยละเมิดมนุษยธรรมหรือไม่ นายกลม กล่าวว่าเราไม่ได้ทำ 100% เรายังรักษาสิ่งที่เป็นกฎเกณฑ์ เป็นสากล แต่คนที่ไม่เป็นมิตร ไม่น่าจะมาเรียกร้อง แน่นอนเขาอาจจะไปพูด แต่คนไทยต้องกล้าที่จะเสนอ กับเพื่อนกับกัลยาณมิตรเราพร้อมที่จะดูแลทุกอย่าง ถ้าความสัมพันธ์ดีขึ้น ถ้ากัมพูชาเปลี่ยนท่าที เราก็พร้อมที่จะเอาเรื่องนี้มาพิจารณากันใหม่

เมื่อถามว่าจะไม่เป็นประเด็นเรื่องรังเกียจทางด้านเชื้อชาติหรือไม่ นายกมล กล่าวว่า ไม่ครับ เราดูแลเด็กเด็กทุกคนเท่าเทียมกัน แต่อย่าลืมว่าค่าใช้จ่ายรายหัว ตอนที่เขายิงระเบิดลูกแรกลงมาตกในร้านสะดวกซื้อแล้วคนตาย 8 คน ตอนเขากดปุ่ม เขาคิดอย่างไร เพราะฉะนั้น นี่คือคำตอบของผม.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยยังมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทย มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

รวบ ผอ.กองช่าง เรียกรับสินบน แลกใบอนุญาตถมดิน-สร้างหอพัก

ปทุมธานี 11 ก.ย. – หลักฐานคาโต๊ะ! ป.ป.ช. สนธิกำลังตำรวจ บุกจับ ผอ.กองช่างเทศบาลหลักหก จ.ปทุมธานี คาห้องทำงาน พร้อมเงินสดของกลาง 1.9 แสนบาท หลังเรียกรับสินบน แลกใบอนุญาตถมดิน-สร้างหอพัก 8 ชั้น ด้านเจ้าตัวปฏิเสธ อ้างผู้เสียหายนำมาให้เอง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ภาค 1 นำโดย น.ส.ชฎารัตน์ อนรรฆอร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 1 วางแผนร่วมกับชุดสืบสวนสำนักงาน ป.ป.ช. และตำรวจสืบสวนภูธรภาค นำหมายศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 เข้าตรวจค้น พร้อมจับกุมนายวีระเชษฐ์ อายุ 59 ปี ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก จ.ปทุมธานี ภายในห้องทำงาน เทศบาลตำบลหลักหก หลังมีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้ขออนุญาตถมดินและขออนุญาตก่อสร้างอาคาร พร้อมตรวจยึดเงินของกลาง ซุกซ่อนอยู่ที่พื้นใต้ลิ้นชักโต๊ะทำงาน 190,000 บาท เบื้องต้นจากการตรวจหมายเลขธนบัตร ตรงกับสำเนาธนบัตรที่ผู้เสียหายนำไปมอบให้กับนายวีระเชษฐ์ ก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายสำเนาและลงรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไว้เป็นหลักฐาน […]

ปิดล้อมไล่ล่าผู้ก่อเหตุ หลังปะทะเดือดสะบ้าย้อย 2 ระลอก

สงขลา 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง วางกำลังปิดล้อมพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก พบผู้ก่อเหตุมีหมายจับคดีความมั่นคง หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก ระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มก่อความไม่สงบ ในพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ วางกำลังบนถนนเส้นทางเข้าออกพื้นที่ปะทะ ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าเขตปะทะอย่างเด็ดขาด เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่นิ่ง ยังคงมีการปิดล้อมบริเวณเนินเขา เพื่อไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบรอยเลือดและกระเป๋าเป้ถูกทิ้งไว้บนเนินเขา บริเวณจุดปะทะ คาดว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะได้รับบาดเจ็บด้วย สำหรับกลุ่มคนร้ายที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นมีข้อมูลว่า เป็นกลุ่มของนายกอเซ็ง ลาเตะยามา อายุ 35 ปี ชาว อ.ยะหา จ.ยะลา ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ซึ่งมีหมายจับ 7 หมาย และนายฮุสนี ยีกะเส็ม อายุ 34 ปี ชาว อ.เทพา จ.สงขลา มีหมายจับ […]

กักสิงโตสวนสัตว์ดัง-ปรับพฤติกรรม

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สั่งกักสิงโตสวนสัตว์ดัง เพื่อปรับพฤติกรรม แยกเพศ-เฝ้าสังเกตใกล้ชิด เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่สวนสัตว์ดัง ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์เสียชีวิต โดยได้สั่งการให้กักสิงโตทั้งหมดในฝูงที่ก่อเหตุไว้ในกรงชั่วคราว แยกสิงโตเพศผู้และเพศเมีย เพื่อเฝ้าสังเกตพฤติกรรมในระยะใกล้ สำหรับสิงโตที่เข้าตะปบเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิต เป็นตัวผู้ โดยสิงโตร่วมฝูงมี 7 ตัว แต่ที่เข้ารุมกัดเจ้าหน้าที่มี 5 ตัว ได้แก่ 1) ทรัมป์ (เพศผู้) ตัวตะปบ 2) ไบท์ (เพศผู้) ตัวตาม 3) อ้อน (เพศเมีย) ตัวตาม 4) อ้าย (เพศเมีย) ตัวตาม 5) ยาว (เพศเมีย) ตัวตาม ทั้งนี้ สิงโตทุกตัวอายุประมาณ 10 ปี พร้อมกันนี้ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กำลังตรวจสอบมาตรการความปลอดภัย และจะไม่อนุญาตให้เปิดส่วนจัดแสดงสัตว์ดุร้าย […]