กรุงเทพฯ 4 เม.ย. – กรุงไทยแนะเอสเอ็มอีเจาะตลาดผลิตภัณฑ์อาหารส่งเสริมสุขภาพ เทรนด์อาหารแห่งอนาคต ขนาดตลาดสูงถึง 68,000 ล้านบาท โตร้อยละ 4 สร้างผลกำไรสูงกว่าอาหารทั่วไปถึง 3 เท่า
นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงาน Global Business Development and Strategy ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ตลาดผลิตภัณฑ์อาหารส่งเสริมสุขภาพ หรือ Functional Foods มีโอกาสขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ประเมินมูลค่าตลาดอยู่ที่ 68,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 4 ต่อปี ซึ่งในต่างประเทศอัตรากำไรของบริษัทที่ทำผลิตภัณฑ์อาหารส่งเสริมสุขภาพจะสูงกว่าอาหารทั่วไปถึงเกือบ 3 เท่า โดยมีอัตรากำไรเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 7.3 ขณะที่ผู้ประกอบการอาหารทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 2.8 อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรม S-Curve ที่ภาครัฐให้การสนับสนุน ดังนั้น จะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี และทุนวิจัย นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้บริโภคที่สนใจในการดูแลสุขภาพมากขึ้น ดังนั้น จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในการเจาะตลาดนี้ ซึ่งผู้ประกอบการรายใหญ่ยังเข้าไม่ถึงและยังไม่มีผู้นำตลาดอย่างชัดเจน ที่สำคัญผู้บริโภคยอมจ่ายราคาแพงขึ้น เพราะให้ความสำคัญกับคุณค่า และประโยชน์ของสารอาหารมากกว่าราคา ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงการแข่งขันด้านราคา โดยกลุ่มที่น่าสนใจ คือ กลุ่มอาหารที่ให้พลังงานสูง กลุ่มควบคุมน้ำหนัก และกลุ่มเสริมภูมิคุ้มกัน
ด้านนายอภินันทร์ สู่ประเสริฐ รองผู้อำนวยการ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบการที่สนใจ Functional Foods ควรสำรวจความต้องการของตลาด ศึกษาสารอาหารที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และควรเป็นพันธมิตรกับหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญช่วยทำวิจัย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตรงกับความต้องการของตลาดได้ง่ายขึ้น ทั้งเรื่องรสชาติที่อร่อยใกล้เคียงกับอาหารเดิม การรักษาคุณสมบัติของสารอาหารให้คงเดิม และได้มาตรฐานการผลิต ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ประกอบการFunctional Foods ใหม่ ๆ ออกมาต่อเนื่อง โดยภาครัฐตั้งเป้าปี 2564 จะมีผู้ประกอบการอาหารที่มีนวัตกรรมอาหารประมาณ 9,000 ราย.-สำนักข่าวไทย