ทำเนียบฯ 25 มี.ค.-“พล.อ.ฉัตรชัย” เผยทูตเกาหลีฯ ชื่นชมการเลือกตั้งไทยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ระบุพรรคพลังประชารัฐ ได้ส.ส.เกินคาด สะท้อนประชาชนให้การสนับสนุน ขอทุกคนยอมรับผลการเลือกตั้ง
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนากรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังให้การต้อนรับ นาย อี อุก-ฮ๊อน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ที่เข้าเยี่ยมคารวะ ว่า ได้หารือถึงการกระชับความสัมพันธ์ไทย-เกาหลีที่มีมายาวนาน ทั้งนี้ทั้งสองประเทศยังมองเห็นแนวทางการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน นอกจากนี้ไทยได้แจ้งเอกอัครราชทูตฯ กรณีที่มี 27 บริษัทจากเกาหลี ขอรับการสนับสนุนการลงทุนจากบีโอไอ แต่ยังไม่ได้เริ่มเข้ามาลงทุน
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ได้พูดคุยกรณีที่เกาหลีปฏิเสธการเดินทางเข้าประเทศของคนไทยจำนวนนับหมื่นคน เพราะตามข้อเท็จจริง ไทยและเกาหลีมีการเดินทางแลกเปลี่ยนระหว่างกันจำนานมาก จึงฝากเอกอัครราชทูตฯ ดูแลเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตฯ แสดงความยินดีและชื่นชมต่อการจัดการเลือกตั้งทั่วไปของไทย ที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีความรุนแรง ทั้งนี้ได้ย้ำว่าการเลือกตั้งในไทยได้ดำเนินการไปอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าขณะนี้ ผลการเลือกตั้งยังไม่ออกมา 100 เปอร์เซ็นต์ และย้ำว่า ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล การเดินหน้าพัฒนาประเทศและความร่วมมือกับเกาหลีใต้จะดำเนินต่อไป
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ตัวเลข ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐนั้น ถือว่าเกินจากที่สื่อมวลชนได้คาดการณ์ไว้ว่าจะได้ไม่ถึง 100 ที่นั่ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนในประเทศให้การสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐจำนวนมาก แต่ตนยังไม่ได้พบและพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณคนไทยที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ทั้งนี้แม้จะมีปัญหาเกิดขึ้นบ้างในการเลือกตั้ง แต่ถือเป็นเรื่องเล็กน้อย ดังนั้นขอให้ทุกคนยอมรับผลการเลือกตั้งที่ออกมา
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ส่วนการทำงานของรัฐบาล ในขณะที่ยังไม่ได้รัฐบาลชุดใหม่นั้น นายกรัฐมนตรีย้ำว่าจะต้องทำงานต่อไปอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และปัญหาภัยแล้งในขณะนี้ ซึ่งได้กำชับทุกหน่วยงานเร่งช่วยเหลือประชาชน เพราะจากข้อมูลในปีนี้ อาจมีภาวะภัยแล้งเพิ่มขึ้น ดังนั้นทุกหน่วยงานจะต้องจัดลำดับความเร่งด่วนการใช้น้ำและบริหารจัดการน้ำในเขื่อน ซึ่งในสัปดาห์นี้ จะเชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาหารือ เพื่อกำหนดว่ามีเรื่องใด หรือจุดใด ที่ต้องแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน หรือต้องมีแนวทางบริหารจัดการเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีได้เย้นย้ำว่าแม้จะมีปัญหาภัยแล้ง แต่ต้องไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือนในเรื่องน้ำอุปโภค-บริโภค
“ขณะนี้มีความห่วงใยพื้นที่ที่อยู่นอกเขตชลประทาน ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญ ขอยืนยันว่าในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญ จะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ปัญหาภัยแล้งจะมีความรุนแรงตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงเดือนเมษายน เมื่อเข้าสู่เดือนพฤษภาคม สถานการณ์ก็จะดีขึ้นตามลำดับ” พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย