ดินแดง 20 มี.ค.-กทม.จัดกิจกรรมรณรงค์ชวนคนกรุงปิดไฟ 1 ชั่วโมงพร้อมทั่วโลก วันที่ 30 มี.ค.เวลา 20.30-21.30 น.โดยจุดปิดไฟเชิงสัญลักษณ์ปีนี้ 5 สถานที่ ‘วัดพระแก้ว-วัดอรุณฯ-เสาชิงช้า-สะพานพระราม8-ภูเขาทอง’
นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน แถลงการจัดกิจกรรม ‘ปิดไฟ 1 ชั่วโมงเพื่อลดโลกร้อน(60 Earth Hour)’ ซึ่งกำหนดทำพร้อมกัน 188 ประเทศ 7,000 เมืองทั่วโลก โดยปิดไฟที่ไม่จำเป็นเป็นเวลา 1 ชั่วโมงตั้งแต่เวลา20.30-21.30 น. โดยในปี 2561 กรุงเทพฯ สามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าในช่วงนั้นได้ถึง 2,002 เมกะวัตต์ เท่ากับลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1,026 ตัน คิดเป็น มูลค่า7.86 ล้านบาท และตั้งแต่จัดกิจกรรมต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2551- 2561 สามารถลดกระแสไฟฟ้าได้ 18,373 เมกะวัตต์ ลดก๊าซคาร์บอนได ออกไซด์ได้ 10,259 ตัน คิดเป็นมูลค่า 64.78 ล้านบาท
รองผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า วันที่30 มี.ค.กทม.รณรงค์ให้ผู้ประกอบการร้านค้าและประชาชน ลดการใช้พลังงานและปิดไฟที่ไม่จำเป็น เช่น ไฟประดับ ไฟอาคาร ป้ายโฆษณา ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน การใช้เครื่องปรับ อากาศในบ้านเรือนเป็นเวลา 1ชั่วโมงตั้งแต่เวลา 20.30-21.30 น. และร่วมกันติดแฮชแทค #Earthhour
รองผู้ว่าฯกทม.กล่าวต่อไปว่า กิจกรรมปิดไฟ1 ชั่วโมงเพื่อลดโลกร้อนเป้าหมายเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมภายใต้แนวคิดหลัก ลดการใช้พลังงาน ลดการใช้พลาสติก และรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยในช่วงเช้าวันที่ 30 มี.ค.มีการจัดนิทรรศการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ , ช่วงบ่ายมีการเดินรณรงค์บริเวณสกายวอล์ค และช่วงเย็นมีการแสดงบนเวที ส่วนช่วงไฮไลท์กิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมงระหว่าง 20.30-21.30 น. จะมีการประกาศเจตนารมณ์ของเครือข่าย
สำหรับจุด ปิดไฟเชิงสัญลักษณ์ปีนี้ มี 5 สถานที่หลัก คือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง ,วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร,เสาชิงช้า,สะพานพระราม8, และภูเขาทอง.-สำนักข่าวไทย