สำนักงาน กกต. 18 มี.ค.- “ศรีสุวรรณ” ร้องกกต. สั่งพรรคโฆษณานโยบายแจงที่มาเงินด้วย ระบุหากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของ กกต. มีโทษปรับไม่เกิน 5 แสนบาท และปรับอีกวันละ 1 หมื่นบาท ตามกฎหมายพรรคการเมือง
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีการโฆษณาหาเสียงของพรรคการเมือง ซึ่งนโยบายส่วนใหญ่จะมีลักษณะการใช้เงิน การแจกเงินอย่างมากเข้าข่ายเป็นนโยบายประชานิยม ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 ว่าด้วยการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง มาตรา 258 ก. (3) ประกอบ มาตรา 57 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ซึ่งนโยบายใดที่ต้องใช้จ่ายเงิน การประกาศโฆษณานโยบายนั้นต้องมีรายการดังต่อไปนี้ (1) วงเงินที่ต้องใช้และที่มาของเงินที่จะใช้ในการดำเนินการ (2) ความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดำเนินนโยบาย (3) ผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินนโยบาย
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า นโยบายที่พรรคการเมืองใช้หาเสียงน่าจะขัดต่อกฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส. และรัฐธรรมนูญ เนื่องจากนโยบายที่ใช้เงินจะต้องแจ้งว่าจะนำเงินมาจากแหล่งใด และมีการประเมินผลกระทบของนโยบาย แต่พรรคการเมืองกลับไม่นำเสนอที่มาของเงินในการดำเนินนโยบาย เกรงว่าหากพรรคการเมืองไม่ดำเนินการ จะทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม และเป็นโมฆะได้ ตามกฎหมายกำหนดให้ กกต. สั่งพรรคการเมืองให้ดำเนินการในเวลาที่กำหนด ขณะนี้เหลืออีกเพียง 4-5 วัน จะถึงวันเลือกตั้ง อยากให้ กกต. รีบแจ้งพรรคการเมืองเหล่านี้ให้ดำเนินการ เช่น พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคอนาคตใหม่ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา พรรคประชาชาติ
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า หากพรรคการเมืองใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของ กกต. ให้มีโทษปรับไม่เกิน 5 แสนบาท และปรับอีกวันละ 1 หมื่นบาท ตามมาตรา 121 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ตลอดระยะเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง เกรงว่านโยบายแจกเงินมโหฬาร สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศล้มเหลวเหมือนเวเนซุเอล่า หาก กกต. ไม่ดำเนินการจะร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ต่อไป.-สำนักข่าวไทย