6 พรรคการเมืองประชันนโยบายเศรษฐกิจ

ม.หอการค้าไทย 13 มี.ค. – 6 พรรคการเมืองประชันวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจ หวังแก้ปัญหาปากท้องประชาชน  


หอการค้าไทยจัดดีเบตตัวแทนพรรคการเมืองด้านเศรษฐกิจ เชิญ 6 พรรคการเมือง ประกอบด้วย ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ เพื่อไทย ชาติพัฒนา ภูมิใจไทย และอนาคตใหม่ มาร่วมตอบข้อซักถามพรรคการเมือง การขับเคลื่อนเรื่องที่ประชาชนและเอกชนให้ความสนใจ 


นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ปัจจุบันการแข่งขันทางการค้าและระบบเศรษฐกิจโลกมีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งมาจากปัจจัยด้านความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรม จึงควรขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการพัฒนาแรงงานภาคอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพอย่างเป็นรูปธรรม โดยการปรับเปลี่ยนทักษะ (Re-skill) และเพิ่มทักษะ (Up-skill) ฝีมือและความชำนาญทั้งในเชิงคุณภาพและมาตรฐานของแรงงานไทยให้สอดรับกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง ช่วยลดอัตราการว่างงานในประเทศ นอกจากนี้ จะมุ่งพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก สนับสนุนแนวทางชุมชนจัดการตนเองเพื่อให้ชุมชนอยู่ได้  ประเทศไทยยั่งยืน

นายโภคิน พลกุล กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเข้าถึงเทคโนโลยีได้ก่อนก็ได้เปรียบ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทใหญ่ ๆ ดังนั้น รัฐบาลจะต้องช่วยสร้างระบบสร้างสิ่งแวดล้อมให้เอื้ออำนวยต่อคนตัวเล็ก เอสเอ็มอีในการเข้าถึงไอที พร้อมกับใช้กลไกสถาบันการเงินรัฐ เติมทุนเติมสินเชื่อ และความรู้เพื่อใช้เงินให้เกิดประโยชน์ พร้อมทลายเป็นอุปสรรคต่อการทำกิน โดยจะกิโยตินกฎหมาย และต้องสร้างโอกาสให้เกิดธุรกิจใหม่ เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ทำธุรกิจมากขึ้น นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยมองว่าจะต้องส่งเสริมบทบาทของประชาชนและท้องถิ่น ให้เข้ามาร่วมออกแบบยุทธศาสตร์ไปด้วยกัน โดยการกระจายอำนาจทั้งในเชิงภารกิจและทุน ซึ่งส่วนกลางจำเป็นจะต้องแบ่งเงินทุนออกไปให้ท้องถิ่นมากเพิ่มขึ้นด้วย โดยพรรคเพื่อไทยตั้งเป้าจะยกระดับตัวเลขด้านการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติปีละ 40 ล้านคน เป็น 50 ล้านคน พร้อมเพิ่มรายได้จาก 2 ล้านล้านบาท เป็น 3 ล้านล้านบาท เพิ่มการจ้างงานด้านการท่องเที่ยวจาก 6.4 ล้านงาน ให้เป็น 8 ล้านงาน 


นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร ที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การเปลี่ยนรูปแบบการคมนาคมขนส่งจากระบบถนน มาเป็นการใช้ระบบราง ด้วยรถไฟเป็นหลักแทน และเร่งสร้างให้ระบบรางรถไฟ มีเส้นทางการคมนาคมที่ครอบคลุมโยงใยทั่วประเทศ จนสามารถกลายเป็นการคมนาคมหลักของประเทศ ทำให้เกิดการจ้างงาน ถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน นอกจากนี้ พรรคอนาคตใหม่มีนโยบายที่จะทำลายทุนผูกขาดในประเทศไทย โดยกลุ่มอภิสิทธิ์ชนที่กุมอำนาจทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองในประเทศไทย ด้วยแก้กฎหมายที่เอื้อให้เกิดการผูกขาด กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น และเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ ด้วยการเปิดใบอนุญาตประกอบกิจการธนาคารเพิ่มขึ้น ให้ธนาคารไปตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ต่างจังหวัดได้ ช่วยพัฒนาท้องถิ่น เกิดการจ้างงานในท้องถิ่นด้วย

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า การลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี จะช่วยยกระดับภาคอุตสาหกรรมได้ทั้งอุตสาหกรรมแปรรูป การยกระดับสินค้าชุมชน ช่วยเพิ่มรายได้และกระจายความเจริญไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ไม่ใช่กระจุกตัวเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลเท่านั้น และประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นประธานอาเซียนปีนี้ จึงควรเร่งสร้างเอกภาพระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน พร้อมเจรจากับจีนช่วยเจรจาการค้าผลักดันธุรกิจการส่งออก และนำจุดแข็งประเทศไทยด้วยการมีอาหารที่หลากหลายผลักดันธุรกิจอาหารสู่การเป็นครัวโลก นอกจากนี้ การลดความเหลื่อมล้ำในสังคมต้องมีระบบสวัสดิการที่ดี การประกันรายได้เกษตรกร นอกจากนี้ บริการพื้นฐานโดยเฉพาะด้านการศึกษา และด้านสาธารณสุข ต้องมีความเป็นธรรมมากขึ้น พรรคประชาธิปัตย์จะขยายการเรียนฟรี การกระจายโอกาสทั้งเรื่องสถานศึกษา และสถานพยาบาล 

นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยมุ่งมั่นที่จะลดอำนาจรัฐ เพื่อปากท้องประชาชน ด้วยการแก้กฎหมาย ทลายทุกข้อจำกัด ที่ขัดขวางการสร้างรายได้ของประชาชน  โดยจะเริ่มจากการแก้ปัญหาราคาพืชผลเกษตรกร พร้อมเสนอกฎหมายตั้งกองทุนข้าว ระบบกำไรแบ่งปัน เพิ่มรายได้ให้ชาวนา กำหนดโควตาการส่งออก จัดทำประกันภัยความเสี่ยง และบริหารแบ่งปันกำไร พร้อมเปิดโอกาสให้คนไทยสามารถหารายได้จากทรัพย์สินของตนเอง เช่น สามารถขับ Grab ได้อย่างถูกกฎหมาย , AirBNB เป็นต้น ขณะเดียวกันจะผลักดันให้ภาคเอกชน เช่น หอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เป็นต้น พร้อมย้ำจุดยืนเดินหน้ากัญชาเสรีจะให้ประชาชนมาปลูกได้ ขายได้ แต่ต้องผ่านการดูแลของรัฐ ที่สำคัญ คือ สร้างรายได้ให้กับให้กับประชาชน

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า ถึงเวลาที่จะหยิบจุดแข็งของประเทศ คือ ภาคเกษตรมาเพิ่มศักยภาพ สร้างการแข่งขันอย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมาเกษตรกรมักเผชิญปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ โดยการนำเทคโนโลยีมาช่วยยกระดับภาคเกษตรในรูปแบบ “สมาร์ท ฟาร์มเมอร์” ( Smart Farmer) เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงระบบข้อมูลข่าวสารและความพร้อมด้านการเกษตร รวมถึงการจัดหาตลาดรับซื้อผลผลิตล่วงหน้า (Future market) เพื่อทำให้เกษตรกรมีความมั่นใจมากขึ้นในการผลิตพืชผลทางการเกษตร ขณะที่จุดแข็งอีกด้าน คือ ภาคการท่องเที่ยว ต้องผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ ส่งเสริมให้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดเด่นเพิ่มขึ้น การผลักดันให้มีสถานที่ในประเทศไทยไว้จัดประชุม-สัมมนาสำหรับนักลงทุนมากขึ้น ควบคู่กับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานไว้รองรับด้วย พร้อมยกระดับเศรษฐกิจไทยสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น รองรับการสื่อสารระบบ 5G ในอนาคต 

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นโยบายแต่ละพรรคการเมืองตั้งเป้าที่จะทำให้คนไทยดีขึ้น รวยขึ้นและยั่งยืน แต่สิ่งที่ภาคเอกชนอยากเห็นและอยากให้เร่งดำเนินการ  คือ ต้องการให้มีการกระจายรายได้ กระตุ้นการท่องเที่ยว เร่งผลักดันการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในโครงการที่คุ้มค่า เช่น รถไฟฟ้าความเร็วสูง แก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัยและใบอนุญาตที่ไม่จำเป็น ยอมรับห่วงนโยบายประชานิยม เช่น การแจกเงินเพียงอย่างเดียว นั้นอาจจะช่วยได้เพียงระยะสั้น ควรมีวิธีการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนระยะยาว อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าภาคเอกชนต้องการรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตยมีความคิดที่จะพัฒนาไป . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

กู้ซากคานสะพานลอยคนข้ามพังถล่ม เปิดการจราจรแล้ว

23 ส.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งหาสาเหตุคานสะพานลอยคนข้ามขนาดใหญ่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท พังถล่มลงมากีดขวางถนน สาย 317 จันทบุรี–สระแก้ว ล่าสุดกู้ซากคานสะพานลอย ออกจากถนน และเปิดการจราจรได้ตามปกติแล้ว เหตุคานสะพานลอยถล่ม บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา เหตุดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบ สภาพการจราจรติดขัด ตลอดช่วงสายและบ่าย เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ พยายามเร่งกู้ซากสะพานลอย ประสาน นำเครื่องจักรกลหนักทั้ง รถแบ็กโฮ 3 คัน รถแบ็กโฮหัวขุดเจาะ 2 คันและรถเครนใหญ่อีก 1 คัน ระดมลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยบริษัทผู้รับเหมา ต้องใช้รถหัวขุดเจาะ 2 คัน ทำการขุดเจาะกระแทกแผ่นคอนกรีตให้แตก จนเหลือแต่เส้นเหล็กจากนั้นได้ใช้ชุดเชื่อมทำการใช้ไฟแก๊สตัดเหล็ก แยกชิ้นส่วนของคานคอนกรีตออก […]

ตามล่านักโทษชายหลบหนีเรือนจำนนทบุรี

นนทบุรี 23 ส.ค. – นักโทษเรือนจำนนทบุรีหลบหนี ขณะออกมาทำงานนอกเรือนจำ เจ้าหน้าที่พบชุดนักโทษ ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม กล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ ช่วงบ่ายวันนี้ หลังตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับเเจ้งว่ามีนักโทษชายหลบหนีจากร้านหับเผย อ.เมือง จ.นนทบุรี ตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อ นช.อนุชิต อายุ 29 ปี เป็นผู้ต้องขังกองนอกประจำร้านหับเผย ของเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ชุดที่หลบหนีสวมชุดสีส้มของเรือนจำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเรมเบสต้า สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร หลบหนี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบชุดที่นักโทษสวมใส่ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม สำหรับ นช.อนุชิต สุขสด ถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง จับกุมเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ข้อหาพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด หลังจับกุม สภ.บางบัวทอง นำตัวส่งเรือนจำกลางจังหวัดนนทบุรี วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ศาลตัดสินโทษจำคุก 1 ปี โดยจะพ้นโทษในวันที่ในวันที่ […]

ผบ.ทบ. ตรวจฐานภูมะเขือ ขอบคุณกำลังพลทุ่มเทปฏิบัติงาน

23 ส.ค.- ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ย้ำกำลังพลปฏิบัติงานเต็มความสามารถ ตั้งอยู่บนความปลอดภัย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) พร้อม พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร เดินทางมาตรวจเยี่ยม และรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของฐานการภูมะเขือ โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยฝ่ายเสนาธิการกองกำลังสุรนารี, ผู้บังคับหน่วย และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมปฏิบัติภารกิจ ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ และการปฏิบัติงาน ณ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือกลาง พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ผู้บัญชาการทหารทัพบก กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้ปฏิบัติภารกิจอย่างปลอดภัย จากนั้นได้เดินดูบริเวณฐานธุรการและพื้นที่ต่างๆ บนภูมะเขือ -สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]