6 พรรคการเมืองประชันนโยบายเศรษฐกิจ

ม.หอการค้าไทย 13 มี.ค. – 6 พรรคการเมืองประชันวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจ หวังแก้ปัญหาปากท้องประชาชน  


หอการค้าไทยจัดดีเบตตัวแทนพรรคการเมืองด้านเศรษฐกิจ เชิญ 6 พรรคการเมือง ประกอบด้วย ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ เพื่อไทย ชาติพัฒนา ภูมิใจไทย และอนาคตใหม่ มาร่วมตอบข้อซักถามพรรคการเมือง การขับเคลื่อนเรื่องที่ประชาชนและเอกชนให้ความสนใจ 


นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ปัจจุบันการแข่งขันทางการค้าและระบบเศรษฐกิจโลกมีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งมาจากปัจจัยด้านความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรม จึงควรขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการพัฒนาแรงงานภาคอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพอย่างเป็นรูปธรรม โดยการปรับเปลี่ยนทักษะ (Re-skill) และเพิ่มทักษะ (Up-skill) ฝีมือและความชำนาญทั้งในเชิงคุณภาพและมาตรฐานของแรงงานไทยให้สอดรับกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง ช่วยลดอัตราการว่างงานในประเทศ นอกจากนี้ จะมุ่งพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก สนับสนุนแนวทางชุมชนจัดการตนเองเพื่อให้ชุมชนอยู่ได้  ประเทศไทยยั่งยืน

นายโภคิน พลกุล กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเข้าถึงเทคโนโลยีได้ก่อนก็ได้เปรียบ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทใหญ่ ๆ ดังนั้น รัฐบาลจะต้องช่วยสร้างระบบสร้างสิ่งแวดล้อมให้เอื้ออำนวยต่อคนตัวเล็ก เอสเอ็มอีในการเข้าถึงไอที พร้อมกับใช้กลไกสถาบันการเงินรัฐ เติมทุนเติมสินเชื่อ และความรู้เพื่อใช้เงินให้เกิดประโยชน์ พร้อมทลายเป็นอุปสรรคต่อการทำกิน โดยจะกิโยตินกฎหมาย และต้องสร้างโอกาสให้เกิดธุรกิจใหม่ เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ทำธุรกิจมากขึ้น นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยมองว่าจะต้องส่งเสริมบทบาทของประชาชนและท้องถิ่น ให้เข้ามาร่วมออกแบบยุทธศาสตร์ไปด้วยกัน โดยการกระจายอำนาจทั้งในเชิงภารกิจและทุน ซึ่งส่วนกลางจำเป็นจะต้องแบ่งเงินทุนออกไปให้ท้องถิ่นมากเพิ่มขึ้นด้วย โดยพรรคเพื่อไทยตั้งเป้าจะยกระดับตัวเลขด้านการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติปีละ 40 ล้านคน เป็น 50 ล้านคน พร้อมเพิ่มรายได้จาก 2 ล้านล้านบาท เป็น 3 ล้านล้านบาท เพิ่มการจ้างงานด้านการท่องเที่ยวจาก 6.4 ล้านงาน ให้เป็น 8 ล้านงาน 


นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร ที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การเปลี่ยนรูปแบบการคมนาคมขนส่งจากระบบถนน มาเป็นการใช้ระบบราง ด้วยรถไฟเป็นหลักแทน และเร่งสร้างให้ระบบรางรถไฟ มีเส้นทางการคมนาคมที่ครอบคลุมโยงใยทั่วประเทศ จนสามารถกลายเป็นการคมนาคมหลักของประเทศ ทำให้เกิดการจ้างงาน ถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน นอกจากนี้ พรรคอนาคตใหม่มีนโยบายที่จะทำลายทุนผูกขาดในประเทศไทย โดยกลุ่มอภิสิทธิ์ชนที่กุมอำนาจทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองในประเทศไทย ด้วยแก้กฎหมายที่เอื้อให้เกิดการผูกขาด กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น และเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ ด้วยการเปิดใบอนุญาตประกอบกิจการธนาคารเพิ่มขึ้น ให้ธนาคารไปตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ต่างจังหวัดได้ ช่วยพัฒนาท้องถิ่น เกิดการจ้างงานในท้องถิ่นด้วย

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า การลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี จะช่วยยกระดับภาคอุตสาหกรรมได้ทั้งอุตสาหกรรมแปรรูป การยกระดับสินค้าชุมชน ช่วยเพิ่มรายได้และกระจายความเจริญไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ไม่ใช่กระจุกตัวเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลเท่านั้น และประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นประธานอาเซียนปีนี้ จึงควรเร่งสร้างเอกภาพระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน พร้อมเจรจากับจีนช่วยเจรจาการค้าผลักดันธุรกิจการส่งออก และนำจุดแข็งประเทศไทยด้วยการมีอาหารที่หลากหลายผลักดันธุรกิจอาหารสู่การเป็นครัวโลก นอกจากนี้ การลดความเหลื่อมล้ำในสังคมต้องมีระบบสวัสดิการที่ดี การประกันรายได้เกษตรกร นอกจากนี้ บริการพื้นฐานโดยเฉพาะด้านการศึกษา และด้านสาธารณสุข ต้องมีความเป็นธรรมมากขึ้น พรรคประชาธิปัตย์จะขยายการเรียนฟรี การกระจายโอกาสทั้งเรื่องสถานศึกษา และสถานพยาบาล 

นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยมุ่งมั่นที่จะลดอำนาจรัฐ เพื่อปากท้องประชาชน ด้วยการแก้กฎหมาย ทลายทุกข้อจำกัด ที่ขัดขวางการสร้างรายได้ของประชาชน  โดยจะเริ่มจากการแก้ปัญหาราคาพืชผลเกษตรกร พร้อมเสนอกฎหมายตั้งกองทุนข้าว ระบบกำไรแบ่งปัน เพิ่มรายได้ให้ชาวนา กำหนดโควตาการส่งออก จัดทำประกันภัยความเสี่ยง และบริหารแบ่งปันกำไร พร้อมเปิดโอกาสให้คนไทยสามารถหารายได้จากทรัพย์สินของตนเอง เช่น สามารถขับ Grab ได้อย่างถูกกฎหมาย , AirBNB เป็นต้น ขณะเดียวกันจะผลักดันให้ภาคเอกชน เช่น หอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เป็นต้น พร้อมย้ำจุดยืนเดินหน้ากัญชาเสรีจะให้ประชาชนมาปลูกได้ ขายได้ แต่ต้องผ่านการดูแลของรัฐ ที่สำคัญ คือ สร้างรายได้ให้กับให้กับประชาชน

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า ถึงเวลาที่จะหยิบจุดแข็งของประเทศ คือ ภาคเกษตรมาเพิ่มศักยภาพ สร้างการแข่งขันอย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมาเกษตรกรมักเผชิญปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ โดยการนำเทคโนโลยีมาช่วยยกระดับภาคเกษตรในรูปแบบ “สมาร์ท ฟาร์มเมอร์” ( Smart Farmer) เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงระบบข้อมูลข่าวสารและความพร้อมด้านการเกษตร รวมถึงการจัดหาตลาดรับซื้อผลผลิตล่วงหน้า (Future market) เพื่อทำให้เกษตรกรมีความมั่นใจมากขึ้นในการผลิตพืชผลทางการเกษตร ขณะที่จุดแข็งอีกด้าน คือ ภาคการท่องเที่ยว ต้องผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ ส่งเสริมให้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดเด่นเพิ่มขึ้น การผลักดันให้มีสถานที่ในประเทศไทยไว้จัดประชุม-สัมมนาสำหรับนักลงทุนมากขึ้น ควบคู่กับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานไว้รองรับด้วย พร้อมยกระดับเศรษฐกิจไทยสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น รองรับการสื่อสารระบบ 5G ในอนาคต 

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นโยบายแต่ละพรรคการเมืองตั้งเป้าที่จะทำให้คนไทยดีขึ้น รวยขึ้นและยั่งยืน แต่สิ่งที่ภาคเอกชนอยากเห็นและอยากให้เร่งดำเนินการ  คือ ต้องการให้มีการกระจายรายได้ กระตุ้นการท่องเที่ยว เร่งผลักดันการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในโครงการที่คุ้มค่า เช่น รถไฟฟ้าความเร็วสูง แก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัยและใบอนุญาตที่ไม่จำเป็น ยอมรับห่วงนโยบายประชานิยม เช่น การแจกเงินเพียงอย่างเดียว นั้นอาจจะช่วยได้เพียงระยะสั้น ควรมีวิธีการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนระยะยาว อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าภาคเอกชนต้องการรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตยมีความคิดที่จะพัฒนาไป . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ศาลตัดสินพิรงรอง

“พิรงรอง” รับกังวลใจ วันนี้ศาลตัดสิน คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช.

“พิรงรอง” ถึงศาล รับกังวลใจ คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช. ปมส่งใบเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก ยืนยันทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

ผู้สมัคร นายก อบจ.สมุทรปราการ หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง ร้อง ปธ.สภา

ผู้สมัคร นายก อบจ. สมุทรปราการ พรรคประชาชน หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง อบจ.ร้องประธานสภา จี้ กกต.สอบให้ความเป็นธรรม ลั่นจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

บุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

ตำรวจนครบาลบุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน สร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานตำรวจ และ ปปง. หลอกเหยื่อว่าสามารถติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืนได้ ค้นบ้านพบซิมบ็อกซ์โทรศัพท์ และ QR Code ปลอม จำนวนมาก

ข่าวแนะนำ

ปล้นร้านสะดวกซื้อ

รวบ 6 เยาวชน ก่อเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อปัตตานี

รวบแล้ว 6 โจร ปล้นร้านสะดวกซื้อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินกว่า 4,000 บาท พบผู้ก่อเหตุทั้งหมด เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-16 ปี

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟเมื่อวาน

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ขอทำไปประเมินไป อย่าทำให้เป็นประเด็น มองเป็นสิทธิฝั่งเมียนมาซื้อไฟฟ้าจากลาว ลั่นเดี๋ยวต้องคุยอีก ย้ำตัดไฟครั้งนี้ไม่ได้ใช้อารมณ์ รู้อยู่กระทบเศรษฐกิจบ้าง แต่แค่ 0.1%