ฆ่าปาดคอ”พยาบาล” รพ.ภาชี ดับคารถ

กรุงเทพฯ 10 มี.ค.- พบศพพยาบาลโรงพยาบาลภาชี ถูกแทงเสียชีวิตภายในรถเก๋ง จอดทิ้งขวางทางเข้าออกในซอย ตำรวจเร่งสืบหาเบาะสตัวคนร้าย


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณี พบศพพยาบาลหญิงนอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์ ในเขตพื้นที่ สภ.ภาชี  ภ.จว พระนครศรีอยุธยา  ว่า เวลาประมาณ 08.00 น.วันนี้(10 มี.ค.) ได้รับแจ้งเหตุมีผู้พบศพผู้หญิงนอนเสียชีวิตอยู่ในรถยนต์เก๋งทะเบียน ญฉ5426 กทม บริเวณ ซอยตรงข้ามหน้าโรงพยาบาล ม.4 ต.ภาชี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน แพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบศพ ผู้ตายเป็นหญิงจำนวน 1 ราย ลักษณะนอนคว่ำหน้าอยู่บริเวณเบาะหลังของตัวรถ โดยทราบชื่อภายหลังคือ นางสาวศรีสุภางค์ สุวรรณศิลป์ อายุ49 ปี โดยจากการตรวจสอบพบว่า ผู้ตายเป็นพยาบาลวิชาชีพอยู่ที่โรงพยาบาลภาชี   จากนั้นจึงได้ร่วมกับแพทย์ชันสูตรพลิกศพผู้ตายในสถานที่เกิดเหตุ  โดยพบว่าลักษณะศพถูกทำร้าย และถูกแทงด้วยของมีคมตามบริเวณร่างกายหลายแห่ง จากนั้นจึงส่งศพไปผ่าชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป 

โดยจากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ พยานผู้พบเห็นศพคนแรก  แจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ตนนั้นขับรถจะออกบ้านซึ่งอยู่ในซอยที่เกิดเหตุ เพื่อไปทำงาน เมื่อขับมาถึงใกล้กันกับปากซอย ได้พบ รถยนต์คันเกิดเหตุ จอดขวางอยู่ ตนจึงได้ลงไปตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต จึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบโดยทันที


ทั้งนี้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง  และทำการถ่ายภาพ  วาดแผนที่เกิดเหตุ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกำลังลงพื้นที่หาเบาะแส ข้อมูลของคนร้าย และเร่งรัดตรวจสอบไล่กล้องวงจรปิด และ ติดตามนำตัวมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป   

รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า  คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ   โดยพนักงานสอบสวนได้เร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องและสอบปากคำพยาน  ซึ่งสันนิษฐานปมในการก่อเหตุในครั้งนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน  ขณะนี้รอผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์อย่างละเอียด   ขอให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการลงพื้นที่เพื่อหาพยานหลักฐานและจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป     ซึ่งตนได้รายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับทราบแล้ว ท่านได้ กำชับพนักงานสอบให้ดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน อย่างตรงไปตรงไปมา ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย  อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ พร้อมทั้งฝ่ายสืบสวนให้เร่งรัดติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฏหมายโดยเร็ว เพื่อเยียวยาความเสียหาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม    ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชน มีข้อมูลหรือพบเบาะแสสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคนร้ายในคดีดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สภ.ภาชี  หมายเลขโทรศัพท์ 035-311-163  และ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) หมายเลขโทรศัพท์ 1599 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นักวิชาการชี้เลือกตั้งนายก อบจ.ไม่ใช่ภาพสะท้อนเลือกตั้งใหญ่

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผ่านพ้นไปแล้วทั้ง 47 จังหวัด ขณะนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. แต่ผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครที่มีเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนได้ชัยชนะหลายจังหวัด แต่นักวิชาการชี้ว่ายังไม่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงผลสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ ไม่สิ้นเคยหวัง เชื่อว่าต้องได้กลับบ้านในสักวัน เผยอยากกินลาบ-ซอยจุ๊

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน หลายประเทศทะลุ 190 AQI

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน “เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย” หลายประเทศทะลุ 190 AQI ส่วนไทย อีก 2 วัน มีลมแรงช่วยพัดฝุ่นกระจายตัวดีขึ้น ด้าน ปภ.ช. สั่งพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ดีเดย์ ทุกหน่วยทั่วประเทศเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ฝ่าฝืนจับสถานเดียว