โดน 3 ข้อหา แท็กซี่เรียกค่าโดยสารโหด หมอชิต-รังสิต 1,800 บาท

กทม. 8 มี.ค. – ตำรวจตั้ง 3 ข้อหาคนขับแท็กซี่โก่งค่าโดยสาร 2 วัยรุ่น ที่เรียกจากหมอชิตไปลงรังสิต เป็นเงินถึง 1,800 บาท ขณะที่คนขับอ้างเรียกเหมาจ่ายแค่ 900 บาท แต่ผู้โดยสารจ่ายให้มาเอง จึงเก็บเพื่อเอาไปรักษาพ่อที่ป่วย และผู้โดยสารก็ไม่ได้ต่อรองราคาอะไร 


สังคมออนไลน์ฮือฮา หลังผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ตรัย นุ่มแก้ว โพสต์ข้อความเล่าถึงหลาน 2 คน เดินทางจากสงขลามาลงหมอชิตเพื่อมาสอบ เรียกแท็กซี่จากหมอชิตมาลงรังสิต ถูกแท็กซี่เรียกเก็บเงินค่าโดยสาร 900 บาท ต่อคน 2 คน เป็นเงิน 1,800 บาท (ซึ่งปกติแล้วแท็กซี่มิเตอร์หมอชิต-รังสิต ราคาอยู่ประมาณ 100 กว่าบาทไม่เกิน 200) เด็กทั้งสองคนต้องยอมจ่าย เพราะเพิ่งมากรุงเทพฯ ครั้งแรก ไม่รู้ว่าหมอชิต-รังสิต มันไกลแค่ไหน อยู่ตรงไหน ทั้งฝากคนในสังคมออนไลน์ช่วยแชร์ เพื่อติดตามหาแท็กซี่คันนี้ 

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (8 มี.ค.) นายประจันทร์ สิงห์ขรณ์ เจ้าของรถแท็กซี่คันดังกล่าวได้พาบุตรชาย คือ นายศุภโชค สิงห์ขรณ์ ซึ่งเป็นคนขับรถแท็กซี่ในวันดังกล่าว เข้าพบตำรวจที่สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต นายศุภโชคให้การว่า เรียกค่าโดยสารเป็นลักษณะเหมาจ่าย 900 บาท แต่ผู้โดยสารทั้งสองคนจ่ายมา 1,800 บาทเอง ตนกำลังต้องการเงินเก็บไว้รักษาพ่อที่ป่วยเลยไม่ได้ทักท้วง จึงเก็บเงินไว้ และได้จ่ายค่าทางด่วนให้เป็นบริการเสริม ตนเองเห็นว่าวัยรุ่นทั้งสองคนไม่เดือดร้อนอะไร และไม่ทราบว่าญาติ ๆ ของวัยรุ่นจะมาแจ้งความให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต ตนเองก็เป็นคนทำมาหากิน ต้องขอโทษทุกคน โดยเฉพาะพ่อที่ทำให้ต้องเดินทางมาโรงพัก และมีคนโพสต์ต่อว่าจำนวนมาก 


ด้านประจันทร์ สิงห์ขรณ์ พ่อของนายศุภโชค และเป็นเจ้าของรถแท็กซี่เขียวเหลือง หมายเลขทะเบียน มฎ 3630 กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขอโทษสังคมมาก ๆ ตนเองเป็นโรคไขมันอุดตัน ทำให้กล้ามเนื้อซีกขวาอ่อนแรงมา 2 ปี แต่ก็สามารถประคับประคองเดินได้ จึงให้ลูกชายขับรถแท็กซี่แทน ลูกชายมีใบขับขี่และใบอนุญาตขับรถแท็กซี่ถูกต้อง มาทราบข่าวก็เสียใจ เมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้วก็ต้องยอมรับผิด สิ่งไหนที่ลูกชายทำผิดก็ต้องยอมรับ 

หลังสอบสวนเสร็จสิ้น ตำรวจพาทั้งสองคนเดินทางไปเปรียบเทียบปรับที่ขนส่งหมอชิต เนื่องจากการเรียกค่าโดยสารเกินราคาตามที่ขนส่งกำหนด และไม่กดมิเตอร์ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ขนส่ง  เบื้องต้นโดน 3 ข้อหา คือ ขับรถสาธารณะในระหว่างใบอนุญาตขาดอายุ ปรับสูงสุด 2,000 บาท 2. ไม่ใช้มาตรมิเตอร์ ปรับสูงสุด 1,000 บาท และปรับเจ้าของรถสาธารณะไม่ส่งประวัติคนขับรถ โดยปรับอัตราโทษสูงสุด 1,000 บาท ทั้งส่งอบรม 3 ชั่วโมง และบันทึกประวัติ ขณะที่นายศุภโชคสำนักผิดและยกมือไหว้ขอโทษ. – สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง