กรุงเทพฯ 8 มี.ค. – ขสมก.ยกเลิกใช้ระบบ E-Ticket เหตุไม่เสถียร-ใช้งานไม่ได้ พร้อมนำเครื่องอีดีซีมาใช้บนรถโดยสารทุกคัน รองรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกชนิด เริ่ม 8 มี.ค.นี้
นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า วันนี้ ขสมก.ได้ยกเลิกการใช้งานเครื่องอ่านบัตรโดยสารแบบ E-Ticket ที่ติดบนรถโดยสาร หลังจากไม่สามารถตรวจรับงานระบบดังกล่าวจากบริษัท ช ทวี ได้ เพราะอุปกรณ์ไม่เสถียร ไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่ง ขสมก.เตรียมยกเลิกสัญญาเช่าอุปกรณ์ดังกล่าวแล้ว โดยจะรอดูเวลาที่เหมาะสม เพื่อแจ้งบริษัท ช ทวี ให้รับทราบ
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าแม้จะมีการยกเลิกอุปกรณ์เก็บค่าโดยสารอัตโนมัติบนรถ โดยการใช้เครื่องอีดีซี ซึ่งจะมีพนักงานเก็บค่าโดยสารเป็นคนถือในช่วงนี้ แต่ในอนาคต ขสมก.ยืนยันว่าจะต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์เก็บค่าโดยสารบนรถแน่นอนตามนโยบายสังคมไร้เงินสดและเกิดความสะดวกแก่ผู้โดยสาร เนื่องจากบนรถโดยสารหากมีการติดตั้งอุปกรณ์เก็บค่าโดยสารอัตโนมัติก็ไม่จำเป็นต้องมีพนักงานเก็บค่าโดยสารตามแผนงานที่ ขสมก.จะมีการลดพนักงานส่วนนี้ เพื่อนำไปปฏิบัติงานในส่วนอื่น
นอกจากนี้ ขสมก.ได้รับความร่วมมือจากธนาคารกรุงไทยนำเครื่องอีดีซีมาใช้บนรถโดยสารของ ขสมก.ทุกคัน ทั้งรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศ ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป เพื่อรองรับการใช้สิทธิ์บริการรถโดยสารของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรุ่นแรก บัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ลงทะเบียนกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเวอร์ชั่น 4.0 และในอนาคต ขสมก.และธนาคารกรุงไทยจะมีการพัฒนาเครื่องอีดีซีให้สามารถรองรับการชำระค่าโดยสารผ่านระบบ QR Code และบัตร EMV ของธนาคารต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการ
ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องแจ้งจุดหมายปลายทางที่จะลงแก่พนักงานเก็บค่าโดยสาร เพื่อให้พนักงานระบุค่าโดยสารบนเครื่องอีดีซีตรงกับอัตราค่าโดยสารตามจุดหมายปลายทางที่จะลง ก่อนนำบัตรไปแตะที่หน้าจอบนเครื่องอีดีซี เพื่อให้เครื่องหักค่าโดยสารออกจากวงเงินในบัตร ซึ่งพนักงานเก็บค่าโดยสารจะคอยให้คำแนะนำ วิธีการใช้งานแก่ผู้ใช้บริการ สำหรับผู้ใช้บริการที่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถใช้บริการโดยชำระค่าโดยสารด้วยเงินสด ส่วนผู้ที่มีบัตรโดยสารล่วงหน้าสามารถใช้บัตรดังกล่าวในการใช้บริการได้ตามปกติ.-สำนักข่าวไทย