กรุงเทพฯ 5 มี.ค. – กรมประมงยืนยันปลากระเบนนกเป็นสัตว์ควรค่าแก่การอนุรักษ์ให้อยู่คู่กับท้องทะเล ไม่เห็นด้วยรายการแข่งขันทำอาหารนำมาเป็นวัตถุดิบเพื่อบริโภค ระบุองค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติสากลชี้เป็นสัตว์น้ำใกล้สูญพันธุ์
นายอรุณชัย พุทธเจริญ รองอธิบดีกรมประมง กล่าวถึงข้อโจมตีอย่างร้อนแรงในโลกโซเชียลมีเดีย รายการแข่งขันทำอาหารชื่อดังนำ “ปลากระเบนนก” มาเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหาร ว่า แม้ไม่ผิดกฎหมาย แต่ควรช่วยกันอนุรักษ์มากกว่านำมาบริโภค เนื่องจากสหภาพสากลเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN) จัดให้เป็นสัตว์น้ำชนิดที่มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ควรค่าแก่การอนุรักษ์ให้อยู่คู่กับท้องทะเล
รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ปลากระเบนที่ปรากฏอยู่ในรายการแข่งขันทำอาหาร จากการตรวจสอบ มี 2 ชนิดพันธุ์คือ กระเบนหินและกระเบนนกจุดขาว สำหรับปลากระเบนนกจุดขาวหรือปลากระเบนค้างคาวหรือปลากระเบนยี่สนอยู่ในวงศ์ปลากระเบนนก (Myliobatidae) เป็นปลากระเบนทะเลที่พบได้ในมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิกและอีกหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ รวมถึงน่านน้ำประเทศไทยที่สามารถพบเห็นได้ทั้งฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน มีลักษณะเด่นมีผิวหนังเรียบ ด้านหลังมีสีดำมีจุดขาวกระจาย ด้านท้องมีสีขาว หางเรียวยาวมาก มีส่วนหัวแยกออกจากครีบเห็นได้ชัดเจน ทำให้ว่ายน้ำไปมาได้อย่างอิสระเหมือนนกบิน มีขนาดกว้างได้ถึง 1.5 เมตร เคยพบสูงสุดถึง 3 เมตร น้ำหนัก 230 กิโลกรัม อาศัยบริเวณใกล้ผิวน้ำถึงใกล้พื้นท้องทะเลตามชายฝั่งทะเลแนวปะการัง ส่วนปลาขนาดเล็กอาจพบได้ในเขตน้ำกร่อยปากแม่น้ำ กินปลาขนาดเล็กหอยปลาหมึกกุ้งและปูเป็นอาหาร
สำหรับประเทศไทยปลากระเบนนกเป็นสัตว์น้ำพลอยได้จากการทำประมง ไม่อยู่ในเป้าหมายการจับของชาวประมง รวมถึงไม่มีเครื่องมือที่ใช้จับเป็นการเฉพาะ แม้ว่าปลากระเบนนกจะเป็นสัตว์น้ำที่ไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครองหรือบัญชีแนบท้ายอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) แต่ทาง IUCN สำรวจและประเมินสถานภาพรายชื่อปลาฉลามและปลากระเบนทั่วโลก 1,038 ชนิด ขึ้นใน IUCN Red List สำหรับปลากระเบนนกชนิดนี้แสดงสถานะให้เป็นสัตว์น้ำชนิดพันธุ์ที่มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ (VU) โดยขอความร่วมมือประเทศที่เป็นเจ้าของสัตว์น้ำในบัญชี IUCN Red List ให้ความสำคัญทั้งด้านบริหารจัดการและการอนุรักษ์เนื่องจากการประเมินสถานภาพพบว่ามีแนวโน้มลดลงจากการทำประมงและการท่องเที่ยว
“เพื่อช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำไม่ให้ลดน้อยลงจนถึงขั้นสูญพันธุ์ จึงขอความร่วมมือชาวประมงหากจับสัตว์น้ำที่ไม่ใช่สัตว์น้ำเศรษฐกิจ ขอให้ช่วยกันปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ แม้ไทยจะกำหนดมาตรการบริหารทรัพยากรสัตว์น้ำ โดยเน้นการทำการประมงที่ยั่งยืนมากขึ้น ด้านการอนุรักษ์สัตว์น้ำเป็นเรื่องที่กรมประมงให้ความสำคัญมาโดยตลอด เนื่องจากบางชนิดอาจไม่ใช่สัตว์น้ำเศรษฐกิจและไม่ถูกนิยมมาบริโภค แต่สามารถเป็นดัชนีชี้วัดความสมบูรณ์ของท้องทะเลไทยได้เป็นอย่างดี” รองอธิบดีกรมประมง กล่าว.-สำนักข่าวไทย