กรุงเทพฯ 22 มี.ค. – กรมประมงปลื้ม ผลจากการปิดอ่าวไทยทำให้ปี 62 พบฝูงลูกปลาทูโผล่ชุกชุมที่อ่าวชุมพร เป็นสิ่งบ่งชี้ความสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำทางทะเล
นายอรุณชัย พุทธเจริญ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายชูศักดิ์ จงงาม หัวหน้าหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลชุมพร ซึ่งได้นำเรือตรวจการณ์ประมงออกสำรวจทรัพยากรสัตว์น้ำ หลังได้รับแจ้งจากชาวประมงในพื้นที่ว่า พบฝูงลูกปลาทูจำนวนมากโผล่ที่อ่าวชุมพร บริเวณเกาะเสม็ด ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ระยะห่างจากฝั่งประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูปลามีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน ฝั่งทะเลอ่าวไทยตอนกลาง ในที่จับสัตว์น้ำบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฏร์ธานี ระหว่างวันที่ 15 ก.พ. – 15 พ.ค. ของทุกปี (มาตรการปิดอ่าวไทย) ซึ่งมีการปรับปรุงกฎหมาย โดยออกประกาศ ลงวันที่ 31 มกราคม 2561 เพื่อกำหนดพื้นที่และระยะเวลาฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนในการปิดอ่าวไทยให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และได้กำหนดห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิด ที่อาจส่งผลต่อการแพร่ขยายพันธุ์ของพ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำ และสัตว์น้ำวัยอ่อนในท้องทะเลอ่าวไทย เพื่อรักษาและฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำให้เกิดความยั่งยืน โดยเฉพาะ “ปลาทู” ซึ่งเป็นสัตว์น้ำที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งผลจากการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวในปี 2562 ล่าสุดนี้ เริ่มเห็นผลของการฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำได้อย่างชัดเจน เนื่องจากหลังการประกาศปิดอ่าวไทยเพียง 1 เดือน พบฝูงลูกปลาทูจำนวนมากในบริเวณอ่าวไทย ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดความสมบูรณ์ของท้องทะเลได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ กรมประมง จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่มีการควบคุมบังคับใช้กฎหมายอย่างเข็มงวด เพื่อไม่ให้มีการจับทรัพยากรมาใช้ประโยชน์ก่อนวัยอันควร และขอความร่วมมือให้พี่น้องชาวประมงได้เสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวมโดยปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อร่วมกันสร้างผลผลิตให้ทรัพยากรสัตว์น้ำกลับคืนความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง ซึ่งจะเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับการประกอบอาชีพประมงได้อย่างยั่งยืนต่อไป . – สำนักข่าวไทย