ผลวิเคราะห์โคลนพุโคราชไม่ควรดื่ม-ใช้น้ำ สารปนเปื้อนสูง

นครราชสีมา 25 ก.พ.- กรมทรัพยากรธรณีนำคณะนักวิชาการลงโคราช แจงโคลนพุที่อำเภอบ้านเหลื่อมเกิดเองตามธรรมชาติ ผลตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำ-ดินโคลน ไม่ควรใช้น้ำอุปโภคบริโภค พบค่าสารหนูเกินมาตรฐาน เป็นด่างสูง  ดินชั้นล่างยังอ่อนนิ่มเสี่ยงอันตราย มีจุดลึกถึง 5 เมตร


เมื่อเวลา 13.00 น. (25 ก.พ.) นายนิวัติ  มณีขัติย์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา แถลงร่วมกับนายสมบุญ  โฆษิตานนท์  ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร นางอัปสร  สะอาดสุด ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรธรณี นายประดิษฐ์  นูเล นักธรณีวิทยาชำนาญการ สำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 2 และนายพัฒนวิทย์  จิตต์พิทักษ์ ผู้อำนวยการส่วนวิชาการ สำนักงานทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 5 นครราชสีมา เกี่ยวกับผลการวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำ ดิน และโคลน  มาทดสอบด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์ภายในห้องปฏิบัติการกองวิเคราะห์และตรวจสอบทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรธรณี หลังเกิดปรากฎการณ์โคลนพุบ้านหนองกุงน้อย ต.โคกกระเบื้อง อ.บ้านเหลื่อม 


นายนิวัติ  กล่าวว่า บริเวณโคลนพุเป็นเนินดินสูงประมาณ 1 เมตร มีรูปทรงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-5 เมตร เมื่อหยั่งด้วยไม้ลงไปตรงกลางหลุมมีความลึกประมาณ 5 – 6 เมตร มักพบในแอ่งที่เกษตรกรใช้ทำนาปลูกข้าวหรือในทางน้ำและที่ราบน้ำท่วมถึงในภาคอีสาน ดินบริเวณโดยรอบจะมีความอ่อนนิ่มไม่สามารถรับน้ำหนักที่กดทับได้มาก บริเวณจุดศูนย์กลางจะมีลักษณะคล้ายปล่องขนาดเล็กมีน้ำไหลผุดออกมาพร้อมกับดินเหนียวปนดินทราย เมื่อแห้งโคลนดังกล่าวจะแตกเป็นระแหง นอกจากนี้บางหลุมที่แห้งไปนานแล้วจะพบคราบเกลือสีขาวเกาะบนผิวดิน มีรสขม น้ำที่ไหลออกมาจากปากหลุมจะมีค่าความเป็นด่างค่อนข้างสูง 

ส่วนสาเหตุการเกิด เป็นลักษณะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ผ่านกระบวนการทางธรณีวิทยา ที่เรียกว่า “โคลนพุ” โดยมีสาเหตุและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง 3 ประการคือ

1. มีแรงดันของน้ำใต้ดินสูง 


2. มีรอยแตกและรอยแยกที่ยอมให้น้ำที่มีแรงดันดังกล่าวไหลขึ้นสู่ผิวดินได้ 

3. สภาพธรณีวิทยาด้านล่างมีกลุ่มดินหรือแร่ที่ทำปฏิกิริยากับน้ำแล้วเกิดการพองตัวมีสภาพนิ่มและเหลว ไหลขึ้นมาพร้อมกับน้ำ  

ผลกระทบของโคลนพุต่อประชาชน แบ่งเป็น 2 ประเด็น คือ 1. ผลกระทบที่เกิดจากสภาพของดินที่ใช้ในการเพาะปลูก เนื่องจากดินและน้ำที่เกิดจากโคลนพุ มีสภาพความเป็นด่างสูง ทำให้ไม่สามารถเพาะปลูกพืชได้ 2. ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อชีวิตทรัพย์สินและสัตว์เลี้ยงที่อาจตกลงไปในหลุมโคลน เนื่องจากพื้นดินด่านล่างมีความอ่อนนิ่มหากคนหรือสัตว์เลี้ยงพลัดตกลงไปอาจจะเกิดอันตรายได้  

นายนิวัติ  กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวทางการลดผลกระทบ เบื้องต้นควรทำแนวกั้นไม่ให้ประชาชนและสัตว์เลี้ยงเข้าไปใกล้บริเวณที่โคลนพุขึ้นมา เนื่องจากอาจพลัดตกลงได้ สำหรับการแก้ไขปัญหาระยะยาว ควรศึกษาถึงปัจจัยและสาเหตุของการเกิดโดยละเอียด เพื่อวางแผนการใช้ประโยชน์พื้นที่ เช่น การลดระดับแรงดันของน้ำร่วมกับการปรับปรุงสภาพดินให้สามารถกลับมาปลูกพืชได้ หรืออาจวางแผนพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ต่อการศึกษาปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาโคลนพุตามธรรมชาติ หรือเพื่อการวิจัยศึกษาการใช้ประโยชน์จากโคลนพุให้ถูกต้องตามหลักวิชาการต่อไป

สำหรับพื้นที่ที่เคยเกิดในประเทศไทย จากการศึกษาและสำรวจของกรมทรัพยากรธรณี พบพื้นที่ที่เคยเกิดเหตุการณ์โคลนพุในประเทศไทย  ประกอบด้วย 1. จังหวัดหนองบัวลำภู 2. จังหวัดขอนแก่น 3. จังหวัดเลย 4. จังหวัดชัยภูมิ 5. จังหวัดนครราชสีมา 6. จังหวัดลพบุรี และ 7. จังหวัดสระแก้ว

ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน กรมทรัพยากรธรณี มีคำแนะนำ ดังนี้ ผลการวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำ พบค่าสารหนูเกินค่ามาตรฐาน (0.01 mg/l) เล็กน้อย ไม่ควรนำน้ำมาอุปโภค บริโภค หากร่างกายได้รับสารหนูในปริมาณมาก อาจส่งผลให้เกิดอาการแสบร้อนปาก ลำคอ คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้องรุนแรง แน่นหน้าอก ผื่นคัน ผมร่วง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ชาปลายมือปลายเท้า และก่อให้เกิดมะเร็งได้ในที่สุด ผลการตรวจสอบโคลนพุ ไม่เกินค่ามาตรฐานคุณภาพดินแต่มีค่าความเป็นด่างสูง (pH 9.20) หากสัมผัสผิวหนังอาจเกิดการระคายเคือง มีผื่นคันได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่