กทม. 20 ก.พ.- ตำรวจสืบนครบาล 2 จับหนุ่มอายุ 33 ลักทรัพย์ตู้เซฟบรรจุทองรูปพรรณหนักกว่า 220 บาท ในซอยลาดพร้าว 48
ทองคำแท่งหนัก 221 บาท เงินสด 995,290 บาทและทรัพย์สินอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง เป็นของกลางที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนนครบาล 2 ยึดได้ระหว่างจับกุมนายบรรจง ลิ้นจี่ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ในเคหะสถาน ที่ตำรวจสืบสวน สน.สุทธิสาร ได้รับคำร้องทุกข์จากประชาชนว่ามีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์บ้านพักภายในซอยลาดพร้าว 48 ได้ของกลางเป็นทรัพย์สินและตู้เซฟ ขนาด 20 กิโลกรัม จึงสืบสวนติดตามเส้นทางหลบหนีของคนร้ายจากกล้องวงจรปิดพบว่าผู้ต้องหานั่งรถแท็กซี่ไปยังซอยประชาสงเคราะห์ 27 เพื่อหาซื้ออุปกรณ์งัดตู้เซฟ แต่หาซื้อไม่ได้ สุดท้ายได้นำตู้เซฟมายังห้องพักซอยงามวงศ์วาน 18 และยืมอุปกรณ์เลื่อยตัดเหล็กกับชะแลง จาก รปภ. มางัดตู้เซฟเอาทองคำ จากนั้นผู้ต้องหาได้นำตู้เซฟไปทิ้งคลองใกล้ที่พัก ก่อนนำทองคำไปขายโรงรับจำนำย่านตลาดมีนบุรี 2 ครั้ง ครั้งแรกขายไปน้ำหนัก 20 บาท ครั้งที่ 2 ขายไปน้ำหนัก 50 บาท ราคาบาทละ 19,500 บาท
พลตำรวจโทสุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่าจากการขยายผลไปค้นห้องพักของเพื่อนผู้ต้องหาย่านตลาดมีนบุรี พบทองคำน้ำหนัก 221 บาท และทองคำรูปพรรณอีก 2 ชิ้น และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าทั้งสิ้นที่ถูกลักทรัพย์ไปกว่า 10 ล้านบาท
ตรวจสอบประวัติ นายบรรจง มีคดีลักทรัพย์ ในพื้นที่ สภ.พุทธมณฑล สน.ห้วยขวาง และคดีข่มขืนกระทำชำเรา ในพื้นที่ สน.ดินแดง เพิ่งออกจากเรือนจำมาเมื่อปี 2560
อีกคดีตำรวจ สน.มีนบุรี จับกุม 2 พ่อลูก คือนายสมบูรณ์ จงเจริญ อายุ 36 ปี และนายอุเทน จงเจริญ 25 ปี ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อให้เกิดความสะดวก หลังได้รับแจ้งจากบริษัททีโอที ว่ามีคนร้ายลักลอบตัดสายเคเบิ้ล หลายครั้ง โดยจากการตรวจสอบและลงพื้นที่สามารถจับกุม 2 พ่อลูกผู้ต้องหาได้ขณะกำลังลักลอบตัดสายเคเบิ้ล ได้สวมชุดคล้ายพนักงานของการไฟฟ้า โดยผู้ต้องหาสารภาพว่ากระทำมาแล้วหลายครั้ง.-สำนักข่าวไทย