กฟผ.เตรียมแผนลงทุน 600,000 ล้านบาท 10 ปีข้างหน้า

สุราษฎร์ธานี18 ก.พ.-กฟผ.เตรียมแผนลงทุนโรงไฟฟ้าและสายส่ง 10 ปีข้างหน้า 600,000 ล้านบาทเน้นพัฒนาระบบไฟฟ้าให้มีความยืดหยุ่น
รองรับพลังงานหมุนเวียน เสริมความมั่นคง


นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.
)กล่าวว่า ตามแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว
20ปี (ปี 2561-2580) หรือพีดีพี2018 กฟผ.ได้รับมอบหมายสร้างโรงไฟฟ้าหลัก
8 โรง 5,400 เมกะวัตต์
สร้างโรงไฟฟ้าโซลาร์ลอยน้ำ ลงทุนระบบสายส่งรองรับพลังงานทดแทน
เป็นศูนย์กลางซื้อขายอาเซียน รวมทั้งระบบกักเก็บพลังงาน
การพัฒนาโรงไฟฟ้าและระบบส่งไฟฟ้าให้มีความยืดหยุ่น รองรับพลังงานหมุนเวียน
ซึ่งจะมีวงเงินลงทุน
10 ปีแรกรวม6แสนล้านบาท.
โดยในส่วนเงินกู้ลงทุนจะมาจากในประเทศทั้งหมดแต่จะเป็นรูปแบบไหน
คงจะพิจารณาให้เหมาะสมกับรูปแบบในช่วงนั้นๆซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนหลักในช่วง
5 ปีข้างหน้า.
และเขื่อนรัชชประภาก็จะเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมแผนสร้างโซลาร์ลอยน้ำเพื่อทำให้การผลิตไฟฟ้าเสริมระบบได้ยาวนานขึ้นจากการผลิตไฟฟ้าจากน้ำได้
3-6 ชั่วโมงต่อวันก็จะยืดเวลาได้อีก 8 ชั่วโมงต่อวัน

สำหรับโรงไฟฟ้าหลักแต่ละภาค ทุกโรงใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ยกเว้นแม่เมาะยังคงใช้ถ่านหิน โดยตามแผนประกอบไปด้วย โรงไฟฟ้าน้ำพอง 650 MW เข้าระบบปี 2568, โรงไฟฟ้าพระนครใต้ 2โรง กำลังผลิต700 MW ,1,400 MW เข้าระบบปี2569 และปี2570 , โรงไฟฟ้าแม่เมาะ600 MW เข้าระบบปี 2569, โรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี 2 โรง โรงละ 700 MW เข้าระบบปี 2570,2572  และโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ 2 โรง โรงละ 700 MW. เข้าระบบปี 2571 และ2578


ส่วนโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้จะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ขึ้นกับการประเมินสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์(SEA) ที่รัฐบาลกำลังดำเนินการ
และถึงแม้หากดูสัดส่วนกำลังผลิตไฟฟ้าจากพีดีพี
2018 โดยปี2580
สัดส่วนกำลังผลิตไฟฟ้า กฟผ. จะลดลงจากปัจจุบันที่ร้อยละ 35 เหลือร้อยละ 24
แต่สัดส่วนของกำลังผลิตโรงไฟฟ้าภาคเอกชนขนาดใหญ่( ไอพีพี) ก็ลดลงเช่นกันจากร้อยละ
33เหลือร้ายละ13 ดังนั้น โอกาสของ กฟผ.ยังมีเพื่อการผลิตเพิ่มสร้างความมั่นคงของประเทศ
และคาดว่าการปรับแผนพีดีพีก็ต้องเกิดขึ้นในอนาคต

ทิศทางการขับเคลื่อนของ กฟผ.
ยังคงมุ่งสู่การเป็นองค์กรนวัตกรรมพลังงานไฟฟ้า
เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่ทำให้รูปแบบการผลิตไฟฟ้ามีความหลากหลายมากขึ้น
การดูแลความมั่นคงระบบไฟฟ้าในราคาที่เป็นธรรมและสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก
ผู้ว่าการ กฟผ.กล่าว

ทั้งนี้แผนพีดีพี 2018 ภารกิจของกฟผ. แบ่งเป็น 3
ภารกิจสำคัญ คือ
1.การดูแลความมั่นคงของระบบไฟฟ้ารายภูมิภาค
โดยการพัฒนาโรงไฟฟ้าใหม่จะเป็นโรงไฟฟ้าที่มีความยืดหยุ่น (
Flexible Power
Plant) สามารถเริ่มเดินเครื่องได้รวดเร็ว
ปรับการทำงานให้เป็นระบบอัตโนมัติมากขึ้น
เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าในแต่ละช่วงเวลาที่มีความผันผวนค่อนข้างสูง 
ควบคู่กับการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนให้มีความเสถียรมากขึ้น เช่น โครงการโซลาร์ลอยน้ำในเขื่อนของ
กฟผ. ซึ่งเป็นระบบผลิตไฟฟ้าแบบผสมผสานระหว่างพลังงานแสงอาทิตย์กับน้ำในเขื่อน
โดยจะนำร่องในเขื่อนสิรินธร จำนวน
45 เมกะวัตต์
โซลาร์เซลล์จะช่วยผลิตไฟฟ้าเสริมพีคในช่วงกลางวัน
และโรงไฟฟ้าพลังน้ำจะช่วยผลิตไฟฟ้าเสริมพีคในช่วงกลางคืน รวมถึงยังเป็นต้นแบบการศึกษาเรื่องความยืดหยุ่นของระบบไฟฟ้าจากความไม่เสถียรของพลังงานหมุนเวียนภายในระบบส่งไฟฟ้าด้วย
ในขณะเดียวกัน กฟผ.เสนอสร้างโซลาร์ลอยน้ำตามพื้นที่เขื่อนต่างๆ เช่น
เขื่อนรัชชประภา รวม
2,700 MW จากศักยภาพทุกเขื่อนผลิตได้ 10,000
MW โดยจะก่อสร้างในช่วงครึ่งหลังของแผนพีดีพี 2018


2.การพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าเพื่อเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน
รองรับการเป็นศูนย์กลางซื้อขายไฟฟ้า (
Grid Connection) ในภูมิภาค
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาเพิ่มเติมทางด้านเทคนิค กฎระเบียบ ภาษี และการพาณิชย์
 
3.การเตรียมการรองรับพลังงานหมุนเวียน
(
Grid Modernization) กฟผ. ได้พัฒนาระบบกักเก็บพลังงาน (Battery
Energy Storage System : BESS) ที่สถานีไฟฟ้าแรงสูง 2 แห่ง คือ สถานีไฟฟ้าแรงสูงบำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ขนาด 16 เมกะวัตต์ และสถานีไฟฟ้าแรงสูงชัยบาดาล จ.ลพบุรี ขนาด 21 เมกะวัตต์ กำหนดแล้วเสร็จในปี 2563 ลงทุนแห่งละ800 ล้านบาทถือเป็นเป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
เพื่อช่วยลดความผันผวนของพลังงานทดแทนและบริหารจัดการสายส่งให้สามารถนำไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ กฟผ. ยังพัฒนาระบบการจัดการพลังงาน (
EGAT Micro Energy
Management System : EGAT Micro-EMS) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ในการบริหารจัดการระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ
(
Micro grid) ช่วยมอนิเตอร์ในภาพรวมและรักษาความมั่นคงของระบบไฟฟ้าหลักไว้
สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร