สุวรรณภูมิ เปิดแผนรองรับปิดซ่อมรันเวย์ฝั่งตะวันออก

สมุทรปราการ 15 ก.พ. – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเตรียมแผนรองรับปิดปรับปรุงทางวิ่งฝั่งตะวันออกและทางขับออกด่วน  เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการบริการผู้โดยสาร 


นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ตามที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีแผนปิดปรับปรุงทางวิ่ง ฝั่งตะวันออก (Runway 01R-19L) และทางขับออกด่วน (Rapid Exit Taxiway) เพื่อซ่อมแซมพื้นผิวทางวิ่งให้มีความคงทนแข็งแรงสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยในช่วงแรกจะเริ่มดำเนินการระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 15 พฤษภาคม 2562 และในช่วงที่ 2 จะเริ่มดำเนินการระหว่างวันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 – 6 เมษายน 2563 สำหรับการปิดซ่อมช่วงแรก ทสภ.จะดำเนินการในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนจนถึงรุ่งเช้า คือ ระหว่างเวลา 01.30 – 08.30 น. เพื่อให้ผู้รับจ้างรื้อและซ่อมแซมพื้นผิวใหม่ อย่างไรก็ตาม ทสภ.ยังคงให้บริการได้ตามปกติ โดยจะใช้ทางวิ่งฝั่งตะวันตกให้บริการขึ้น – ลงของเที่ยวบินเพียงทางวิ่งเดียว ซึ่งสามารถรองรับได้ 34 เที่ยวบินต่อชั่วโมงและภายหลังจากเวลา 08.30 น. จะเปิดใช้งานทางวิ่งฝั่งตะวันออก ทำให้มีทางวิ่งทั้ง 2 เส้นให้บริการรองรับเที่ยวบินได้ 68 เที่ยวบินตามปกติ 


นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ กล่าวว่า เพื่อให้การดำเนินการปรับปรุงทางวิ่งฝั่งตะวันออกและทางขับออกด่วน ช่วงที่ 1 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการเที่ยวบินและผู้โดยสาร ทสภ.ได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และได้มีการจัดทำแผนและมาตรการรองรับการดำเนินงาน แบ่งเป็น 5 แผนงาน ประกอบด้วย 1. แผนเตรียมความพร้อมและบำรุงรักษาทางวิ่ง ฝั่งตะวันตก 2. แผนการจัดการจราจรทางอากาศและภาคพื้น 3. แผนฉุกเฉินรองรับกรณีทางวิ่งฝั่งตะวันตกไม่สามารถให้บริการได้ ในระหว่างการปิดซ่อมทางวิ่งฝั่งตะวันออก 4. แผนรองรับผลกระทบในอาคารผู้โดยสาร กรณีเที่ยวบินเกิดความล่าช้า 5. แผนเคลื่อนย้ายอากาศยานที่เกิดเหตุขัดข้องออกจากทางวิ่ง กรณีมีอุบัติเหตุบนทางวิ่ง ทั้งนี้เพื่อให้มีความมั่นใจว่าการปิดปรับปรุงทางวิ่งฝั่งตะวันออกและทางขับด่วนครั้งนี้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและส่งผลกระทบต่อการให้บริการผู้โดยสารและเที่ยวบินน้อยที่สุด 

นาวาอากาศโท สุธีรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้การบริหารจัดการจราจรทางอากาศเป็นไปอย่างราบรื่น ทสภ. ได้มีการประสานการทำงานร่วมกับ บวท. และสายการบินอย่างใกล้ชิด โดยในช่วงที่มีการปิดซ่อมทางวิ่งฝั่งตะวันออก ทสภ. จะไม่อนุญาตให้สายการบินเพิ่มเที่ยวบินพิเศษในช่วงเวลาดังกล่าว รวมทั้งจะงดการปิดซ่อมทางวิ่ง ฝั่งตะวันออก เป็นการชั่วคราวในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 8 – 19 เมษายน 2562 ด้วย ทั้งนี้ เมื่อการปรับปรุงทางวิ่งฝั่งตะวันออกและทางขับออกด่วน ระยะที่ 1 แล้วเสร็จ จะส่งผลให้ ทสภ. มีทางวิ่ง ทางขับที่ได้มาตรฐานด้านความปลอดภัย สามารถรองรับการเจริญเติบโตของการขนส่งทางอากาศได้อย่างมี ประสิทธิภาพในอนาคตต่อไป 


นายทินกร ชูวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ปฏิบัติการ) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด เปิดเผยถึงมาตรการและแนวทางการบริหารจัดการ การให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศรองรับการปิดซ่อมแซมพื้นผิว ทางวิ่ง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 เพื่อรองรับการปิดซ่อมแซมพื้นผิวทางวิ่งฝั่งตะวันออก (ทางวิ่ง 19L/01R) ช่วงกึ่งกลางทางวิ่งระหว่างทางขับ B7 ถึง ทางขับ B10 ระยะทาง 900 เมตร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 15 พฤษภาคม 2562 ในช่วงเวลา 01.30 – 08.30 น. (7 ชั่วโมง) ของแต่ละวันยกเว้นคืนวันศุกร์ และในช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 8 – 18 เมษายน 2562 โดยในช่วงเวลาดังกล่าว วิทยุการบินฯ จะให้บริการแบบ Single Runway Operation  โดยใช้ทางวิ่งเส้นเดียวในการขึ้น/ลง ซึ่งเป็นมาตรการปกติที่วิทยุการบินฯ ใช้ในกรณีที่มีการปิดซ่อมแซมพื้นผิวทางวิ่ง  สำหรับค่าความสามารถในการรองรับปริมาณเที่ยวบิน ในช่วงวันและเวลาที่มีการปิดซ่อมทางวิ่งดังกล่าว คาดว่าจะลดลงจากช่วงเวลาปกติที่รองรับได้ 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เหลือ 34 เที่ยวบินต่อชั่วโมง คิดเป็น 50% ของช่วงเวลาปกติ โดยสามารถรองรับเที่ยวบินขาเข้าได้ 18 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และเที่ยวบินขาออกได้ 16 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้เกิดการล่าช้าของเที่ยวบินบ้าง

นอกจากนั้นวิทยุการบินฯ จะใช้หลักการบริหารความคล่องตัวการจราจรทางอากาศ Air Traffic Flow Management ในการบริหารจัดการปริมาณเที่ยวบิน โดยได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสายการบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งเตรียมแนวทางปฏิบัติรองรับกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และการใช้สนามบินสำรอง พร้อมมีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานการให้บริการจราจรทางอากาศรองรับการปิดซ่อมทางวิ่ง เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาปิดซ่อมแซมพื้นผิวทางวิ่งดังกล่าว อาจมีความล่าช้าของเที่ยวบินบ้าง จึงขอให้ผู้โดยสารติดตามข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์จากสายการบินอย่างใกล้ชิด ซึ่งวิทยุการบินฯ จะดำเนินการบริหารจัดการจราจรทางอากาศอย่างเต็มที่ โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสารและสายการบินเป็นสำคัญ

นายธีระ  บัวศรี ประธานคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพ กล่าวว่า การปิดซ่อมพื้นผิวในครั้งนี้เป็นการปิดซ่อมซึ่งอยู่ในแผนงานระยะยาวที่ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้มีการวางแผนเตรียมการปฏิบัติงาน และศึกษาผลกระทบร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งได้รับความร่วม มือเป็นอย่างดียิ่ง เนื่องจากทุกภาคส่วนต่างเข้าใจตรงกันว่าความปลอดภัยเป็นหัวใจสูงสุดในการปฏิบัติงาน ดังนั้น แม้ว่าในแผนการดำเนินงานจะต้องมีผลกระทบสายการบินและเที่ยวบินที่ทำการบินอยู่ในช่วงเวลาที่ปฏิบัติการปิดพื้นที่เพื่อซ่อมนั้นก็ตาม แต่การเตรียมการวางแผนด้วยความรัดกุม รวมทั้งการศึกษาข้อมูลจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็สามารถลดความเสี่ยงและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้ในส่วนของการเตรียมการของสายการบินนั้น ในแผนงานระยะที่ 1 จะเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 15 พฤษภาคม 2562 นี้ เมื่อรับทราบตารางการปฏิบัติงานการปิดซ่อมพื้นผิวจากฝ่ายสนามบิน และอาคารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว ก็ได้ประชุมเพื่อเตรียมความเข้าใจและแจ้งต่อสายการบินที่จะได้รับผลกระทบในช่วงเวลาดังกล่าว ในเบื้องต้นได้แจ้งให้ทุกสายการบิน รับทราบข้อมูลตารางงานการซ่อมแซมพื้นผิว เรื่องแผนการสำรองน้ำมันเพื่อเตรียมพร้อมในกรณีฉุกเฉิน ทั้งเฝ้าระวังการบริการเที่ยวบินของสายการบินและผู้ให้บริการภาคพื้น  การบริหารอาคารผู้โดยสารและหลุมจอดของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  พร้อมทั้งการบริหารห้วงอากาศของวิทยุการบิน (AEROTHAI) โดยทางบริษัท วิทยุการบินฯ ได้ให้ความร่วมมือโดยการขยายเวลาในการใช้ A-CDM (Airport Collaborative Decision Making) โดยเริ่มจากเวลา 03.00 – 12.00 น. ของทุกวัน 

ทั้งนี้ หลังจากการทำการปิดทางวิ่งไปแล้ว 2 อาทิตย์ (14 วัน) แต่ละสายการบินจะทำการปรับเพิ่มหรือลดน้ำมันตามความเหมาะสมต่อไปในส่วนของคณะทำงาน ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด หอบังคับการบิน ผู้แทนจากสายการบินในนามของคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพ หรือ AOC พร้อมด้วยผู้ให้บริการภาคพื้น (Ground Handling) รวมไปถึง ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ได้ร่วมกันจัดทำแผนเผชิญเหตุ โดยรวมถึงการจัดการเตรียมแผนสำรองในกรณีที่อากาศยานเกิดขัดข้องบนทางวิ่ง (01L/19R) เพื่อให้ทางวิ่งที่ (01R/19L) ที่มีการปิดซ่อม ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติให้เร็วที่สุด . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กต.ประณามกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ขัด กม.ระหว่างประเทศร้ายแรง

ก.ต่างประเทศ 20 ก.ค. – กต.ประณามกัมพูชาอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซัดขัด กม.ระหว่างประเทศร้ายแรง ละเมิดอธิปไตยไทย จี้ให้ความร่วมมือเก็บกู้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อ่านแถลงการณ์เรื่องการประท้วงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา ซึ่งเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ บริเวณช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดศรีสะเกษ จนเป็นเหตุให้กำลังพลของไทยได้รับบาดเจ็บ ว่า ตามที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 รวม 3 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนตามปกติ ในดินแดนของไทย บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลนั้น รัฐบาลไทยได้รับรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงว่า ภายหลังการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า ทุ่นระเบิดที่พบ ไม่มีการใช้ หรือมีอยู่ในคลังอาวุธของไทย และเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ เมื่อประกอบกับการประมวลข้อมูล และหลักฐานสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่หน่วยงานความมั่นคงตรวจพบ นำไปสู่การสรุปได้ว่า เป็นการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างชัดเจน ไทยในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาฯ จะดำเนินการตามกระบวนการภายใต้อนุสัญญาฯ โดยจะยังคงหาทางแก้ปัญหากับกัมพูชาผ่านกลไกทวิภาคีต่าง […]

มทภ.2 ยินดีเขมรขนคนเที่ยวโบราณสถานไทย เตือนเคารพกฎ

20 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 ฮึ่มป่วน “ปราสาทตาเมือนธม-ปราสาทตาควาย” เจอมาตรการเบาไปหนัก ยินดีเขมรขนคนมาชมสองโบราณสถานของไทย ส่วนโซเชียลรณรงค์คนไทยเจ้าบ้านใส่เสื้อไทยร่วมต้อนรับ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีกัมพูชาขนประชาชนกัมพูชาหลายรถบัสขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ว่า รู้สึกยินดีและขอต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาและประเทศอื่น ๆ ที่มาท่องเที่ยว เยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กองทัพภาคที่ 2 กำหนดไว้ โดยได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและดูแลนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ไม่ก่อความวุ่นวาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนเข้าเยี่ยมชมได้ตามปกติ ทั้งนี้ ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย เป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญของไทยและมีประวัติศาสตร์มายาวนาน “หากนักท่องเที่ยวคนใดก่อเหตุวุ่นวาย เจ้าหน้าที่มีมาตรการจากเบาไปหาหนักดำเนินการ ดังนั้นขออย่าให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะนักท่องเที่ยวทุกคนเข้ามาเยี่ยมชมโบราณสถานของไทย ต้องเคารพกฎระเบียบของไทย” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่ภาพคนไทย พร้อมข้อความภาษาไทยและภาษากัมพูชา ระบุว่า “รวมใจคนไทย ใส่เสื้อไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยวกัมพูชา ด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพจากเจ้าของบ้านตัวจริง” -สำนักข่าวไทย

ทบ.ส่งทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา

20 ก.ค.- ทหารช่างปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดพื้นที่ช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่กองทัพบกเตรียมมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม จากกรณีทหารไทยประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บาดเจ็บ 3 นาย ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุดเช้านี้ (20 ก.ค. 68) กองทัพภาคที่ 2 เสริมกำลังทหารช่างลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจพื้นที่และเก็บกู้ทุ่นระเบิดตลอดแนวชายแดน โดยใช้ยุทโธปกรณ์หนัก รถแทรกเตอร์หุ้มเกราะ ชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดชำนาญการ กำลังชุดทหารช่างตรวจค้นกวาดล้างทุ่นระเบิด (Mine Clearing) เขตทางพื้นที่สงสัยให้ปลอดภัย พร้อมใช้รถโกยตัก ถางขุดตอ และรถถากถางติดตั้งเกราะเหล็กป้องกันพลขับในการทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ปฏิบัติการดังกล่าว นอกจากดูแลความปลอดภัยของกำลังพลที่จะออกลาดตระเวนในพื้นที่เขตแดนไทยแล้ว ยังเป็นการเก็บหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติการณ์ที่ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ทางฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมรับ แต่กระทรวงการต่างประเทศ จะทำหนังสือเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านสหประชาชาติ (UN) และทางกองทัพบก จะมีมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

พฐ.เตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา

20 ก.ค.- เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ คาดเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานรับซื้อและแปรรูปยางพาราขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ตำบลโคกม้า อ.ประโคกชัย จ.บุรีรัมย์ โดยต้นเพลิงเป็นโกดังเก็บยางพาราอัดแท่ง จัดว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกไหม้รวดเร็วและรุนแรง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตอนเกิดเหตุช่วงแรก พนักงานช่วยกันดับแต่เอาไม่อยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ ตำรวจ สภ.ประโคนชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าฉีดสกัดนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดป้องกันไม่ให้ไฟปะทุลามไปจุดอื่นในโรงงาน พร้อมเคลื่อนย้ายถังแก๊ส ถังน้ำมัน จากอาคารใกล้เคียงไปไว้ยังจุดปลอดภัย เบื้องต้นไม่มีพนักงานได้รับบาดเจ็บ ด้านนายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าแม้จะควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่รถดับเพลิงก็ยังต้องฉีดน้ำเพื่อหล่อความเย็นจนกว่าไฟจะดับสนิท ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังไม่ทราบ ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ สำหรับมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน คาดหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวเคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้ว เมื่อปี 63 -สำนักข่าวไทย