สุวรรณภูมิ เปิดแผนรองรับปิดซ่อมรันเวย์ฝั่งตะวันออก

สมุทรปราการ 15 ก.พ. – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเตรียมแผนรองรับปิดปรับปรุงทางวิ่งฝั่งตะวันออกและทางขับออกด่วน  เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการบริการผู้โดยสาร 


นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ตามที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีแผนปิดปรับปรุงทางวิ่ง ฝั่งตะวันออก (Runway 01R-19L) และทางขับออกด่วน (Rapid Exit Taxiway) เพื่อซ่อมแซมพื้นผิวทางวิ่งให้มีความคงทนแข็งแรงสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยในช่วงแรกจะเริ่มดำเนินการระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 15 พฤษภาคม 2562 และในช่วงที่ 2 จะเริ่มดำเนินการระหว่างวันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 – 6 เมษายน 2563 สำหรับการปิดซ่อมช่วงแรก ทสภ.จะดำเนินการในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนจนถึงรุ่งเช้า คือ ระหว่างเวลา 01.30 – 08.30 น. เพื่อให้ผู้รับจ้างรื้อและซ่อมแซมพื้นผิวใหม่ อย่างไรก็ตาม ทสภ.ยังคงให้บริการได้ตามปกติ โดยจะใช้ทางวิ่งฝั่งตะวันตกให้บริการขึ้น – ลงของเที่ยวบินเพียงทางวิ่งเดียว ซึ่งสามารถรองรับได้ 34 เที่ยวบินต่อชั่วโมงและภายหลังจากเวลา 08.30 น. จะเปิดใช้งานทางวิ่งฝั่งตะวันออก ทำให้มีทางวิ่งทั้ง 2 เส้นให้บริการรองรับเที่ยวบินได้ 68 เที่ยวบินตามปกติ 


นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ กล่าวว่า เพื่อให้การดำเนินการปรับปรุงทางวิ่งฝั่งตะวันออกและทางขับออกด่วน ช่วงที่ 1 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการเที่ยวบินและผู้โดยสาร ทสภ.ได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และได้มีการจัดทำแผนและมาตรการรองรับการดำเนินงาน แบ่งเป็น 5 แผนงาน ประกอบด้วย 1. แผนเตรียมความพร้อมและบำรุงรักษาทางวิ่ง ฝั่งตะวันตก 2. แผนการจัดการจราจรทางอากาศและภาคพื้น 3. แผนฉุกเฉินรองรับกรณีทางวิ่งฝั่งตะวันตกไม่สามารถให้บริการได้ ในระหว่างการปิดซ่อมทางวิ่งฝั่งตะวันออก 4. แผนรองรับผลกระทบในอาคารผู้โดยสาร กรณีเที่ยวบินเกิดความล่าช้า 5. แผนเคลื่อนย้ายอากาศยานที่เกิดเหตุขัดข้องออกจากทางวิ่ง กรณีมีอุบัติเหตุบนทางวิ่ง ทั้งนี้เพื่อให้มีความมั่นใจว่าการปิดปรับปรุงทางวิ่งฝั่งตะวันออกและทางขับด่วนครั้งนี้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและส่งผลกระทบต่อการให้บริการผู้โดยสารและเที่ยวบินน้อยที่สุด 

นาวาอากาศโท สุธีรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้การบริหารจัดการจราจรทางอากาศเป็นไปอย่างราบรื่น ทสภ. ได้มีการประสานการทำงานร่วมกับ บวท. และสายการบินอย่างใกล้ชิด โดยในช่วงที่มีการปิดซ่อมทางวิ่งฝั่งตะวันออก ทสภ. จะไม่อนุญาตให้สายการบินเพิ่มเที่ยวบินพิเศษในช่วงเวลาดังกล่าว รวมทั้งจะงดการปิดซ่อมทางวิ่ง ฝั่งตะวันออก เป็นการชั่วคราวในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 8 – 19 เมษายน 2562 ด้วย ทั้งนี้ เมื่อการปรับปรุงทางวิ่งฝั่งตะวันออกและทางขับออกด่วน ระยะที่ 1 แล้วเสร็จ จะส่งผลให้ ทสภ. มีทางวิ่ง ทางขับที่ได้มาตรฐานด้านความปลอดภัย สามารถรองรับการเจริญเติบโตของการขนส่งทางอากาศได้อย่างมี ประสิทธิภาพในอนาคตต่อไป 


นายทินกร ชูวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ปฏิบัติการ) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด เปิดเผยถึงมาตรการและแนวทางการบริหารจัดการ การให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศรองรับการปิดซ่อมแซมพื้นผิว ทางวิ่ง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 เพื่อรองรับการปิดซ่อมแซมพื้นผิวทางวิ่งฝั่งตะวันออก (ทางวิ่ง 19L/01R) ช่วงกึ่งกลางทางวิ่งระหว่างทางขับ B7 ถึง ทางขับ B10 ระยะทาง 900 เมตร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 15 พฤษภาคม 2562 ในช่วงเวลา 01.30 – 08.30 น. (7 ชั่วโมง) ของแต่ละวันยกเว้นคืนวันศุกร์ และในช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 8 – 18 เมษายน 2562 โดยในช่วงเวลาดังกล่าว วิทยุการบินฯ จะให้บริการแบบ Single Runway Operation  โดยใช้ทางวิ่งเส้นเดียวในการขึ้น/ลง ซึ่งเป็นมาตรการปกติที่วิทยุการบินฯ ใช้ในกรณีที่มีการปิดซ่อมแซมพื้นผิวทางวิ่ง  สำหรับค่าความสามารถในการรองรับปริมาณเที่ยวบิน ในช่วงวันและเวลาที่มีการปิดซ่อมทางวิ่งดังกล่าว คาดว่าจะลดลงจากช่วงเวลาปกติที่รองรับได้ 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เหลือ 34 เที่ยวบินต่อชั่วโมง คิดเป็น 50% ของช่วงเวลาปกติ โดยสามารถรองรับเที่ยวบินขาเข้าได้ 18 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และเที่ยวบินขาออกได้ 16 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้เกิดการล่าช้าของเที่ยวบินบ้าง

นอกจากนั้นวิทยุการบินฯ จะใช้หลักการบริหารความคล่องตัวการจราจรทางอากาศ Air Traffic Flow Management ในการบริหารจัดการปริมาณเที่ยวบิน โดยได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสายการบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งเตรียมแนวทางปฏิบัติรองรับกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และการใช้สนามบินสำรอง พร้อมมีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานการให้บริการจราจรทางอากาศรองรับการปิดซ่อมทางวิ่ง เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาปิดซ่อมแซมพื้นผิวทางวิ่งดังกล่าว อาจมีความล่าช้าของเที่ยวบินบ้าง จึงขอให้ผู้โดยสารติดตามข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์จากสายการบินอย่างใกล้ชิด ซึ่งวิทยุการบินฯ จะดำเนินการบริหารจัดการจราจรทางอากาศอย่างเต็มที่ โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสารและสายการบินเป็นสำคัญ

นายธีระ  บัวศรี ประธานคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพ กล่าวว่า การปิดซ่อมพื้นผิวในครั้งนี้เป็นการปิดซ่อมซึ่งอยู่ในแผนงานระยะยาวที่ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้มีการวางแผนเตรียมการปฏิบัติงาน และศึกษาผลกระทบร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งได้รับความร่วม มือเป็นอย่างดียิ่ง เนื่องจากทุกภาคส่วนต่างเข้าใจตรงกันว่าความปลอดภัยเป็นหัวใจสูงสุดในการปฏิบัติงาน ดังนั้น แม้ว่าในแผนการดำเนินงานจะต้องมีผลกระทบสายการบินและเที่ยวบินที่ทำการบินอยู่ในช่วงเวลาที่ปฏิบัติการปิดพื้นที่เพื่อซ่อมนั้นก็ตาม แต่การเตรียมการวางแผนด้วยความรัดกุม รวมทั้งการศึกษาข้อมูลจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็สามารถลดความเสี่ยงและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้ในส่วนของการเตรียมการของสายการบินนั้น ในแผนงานระยะที่ 1 จะเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 15 พฤษภาคม 2562 นี้ เมื่อรับทราบตารางการปฏิบัติงานการปิดซ่อมพื้นผิวจากฝ่ายสนามบิน และอาคารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว ก็ได้ประชุมเพื่อเตรียมความเข้าใจและแจ้งต่อสายการบินที่จะได้รับผลกระทบในช่วงเวลาดังกล่าว ในเบื้องต้นได้แจ้งให้ทุกสายการบิน รับทราบข้อมูลตารางงานการซ่อมแซมพื้นผิว เรื่องแผนการสำรองน้ำมันเพื่อเตรียมพร้อมในกรณีฉุกเฉิน ทั้งเฝ้าระวังการบริการเที่ยวบินของสายการบินและผู้ให้บริการภาคพื้น  การบริหารอาคารผู้โดยสารและหลุมจอดของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  พร้อมทั้งการบริหารห้วงอากาศของวิทยุการบิน (AEROTHAI) โดยทางบริษัท วิทยุการบินฯ ได้ให้ความร่วมมือโดยการขยายเวลาในการใช้ A-CDM (Airport Collaborative Decision Making) โดยเริ่มจากเวลา 03.00 – 12.00 น. ของทุกวัน 

ทั้งนี้ หลังจากการทำการปิดทางวิ่งไปแล้ว 2 อาทิตย์ (14 วัน) แต่ละสายการบินจะทำการปรับเพิ่มหรือลดน้ำมันตามความเหมาะสมต่อไปในส่วนของคณะทำงาน ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด หอบังคับการบิน ผู้แทนจากสายการบินในนามของคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพ หรือ AOC พร้อมด้วยผู้ให้บริการภาคพื้น (Ground Handling) รวมไปถึง ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ได้ร่วมกันจัดทำแผนเผชิญเหตุ โดยรวมถึงการจัดการเตรียมแผนสำรองในกรณีที่อากาศยานเกิดขัดข้องบนทางวิ่ง (01L/19R) เพื่อให้ทางวิ่งที่ (01R/19L) ที่มีการปิดซ่อม ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติให้เร็วที่สุด . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.ยัน ‘มทภ.2’ ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย

11 ส.ค.- โฆษกกองทัพบกโต้กัมพูชา ยันแม่ทัพภาค 2 ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย ย้ำไทยไม่มีความพยายาม “ยั่วยุ-วางแผน” ใช้กำลังทางทหารตามที่เขมรกล่าวอ้าง พลตรี​ วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงการณ์ถึงคำสัมภาษณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เรื่องของปราสาทตาควาย ว่า “ยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาคที่ 2 พูด ไม่ได้มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลัง เพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา สิ่งที่ท่านได้กล่าวในวันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่มีการปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ จึงได้ทำการวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร แต่ในอนาคตจะต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสม พร้อมกล่าวว่าเตรียมนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงเจรจาในกรอบการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม ขอยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่องการใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ใช่ความพยายามที่มีการยั่วยุและมีการวางแผนใช้กำลังทางทหารต่อกรณีปราสาทตาควายอย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด” -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเล็ก​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “มทภ.2” ยึดรอบคอบ

11 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” แต่ต้องพิจารณารอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสเติบโตก้าวหน้า พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวเรียกร้องให้มีการต่ออายุราชการทหาร ของ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2  โดยยืนยันว่า รับฟังกระแสเรียกร้องดังกล่าว ที่มีมาจากคนไทยที่รักประเทศ และห่วงใยในสถานการณ์ หลังการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาเพิ่งผ่านไป ซึ่งในฐานะผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่ารับฟังข้อเรียกร้องดังกล่าว อย่างไรก็ตามเรี่องนี้ ยืนยันว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ สิ่งสำคัญ ต้องพิจารณาภาพรวมขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสก้าวหน้าเติบโตต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาสถานการร์การสู้รบ ทั้งแม่ทัพภาค 2 เอง และผู้บังคับบัญชาระดับรอง ต่างก็ทำภารกิจอย่างเต็มกำลัง และมีความสามารถทั้งหมด นักวิชาการไม่เห็นด้วยปมต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” ผศ. ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  ได้โพสท์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงประเด็นดังกล่าวว่า เรื่องการขอเสนอการต่ออายุราชการ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ออกไปนั้น ตนไม่เห็นด้วย ขอให้วางใจวางสติให้ดี ว่าเราต้องไม่ตกหลุมกับดักของคนภายในและภายนอก […]

ทบ.ยันคุมตัว 18 ทหารเขมร ยึดหลักกฎหมายสากล

11 ส.ค.- โฆษกกองทัพบก แถลงโต้กัมพูชาอาจไม่เข้าใจหลักปฏิบัติสากล ยืนยันควบคุมตัวทหารกัมพูชา 18 นาย เป็นไปตามหลักกฎหมายสากล พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีกัมพูชายื่นข้อเรียกร้องต่อทางการไทย เพื่อให้ส่งตัวทหารที่ถูกควบคุมตัวไว้กลับประเทศ ขอเรียนว่าฝ่ายกัมพูชาอาจไม่เข้าใจหลักปฏิบัติในระบบของสากล ยืนยันการปฏิบัติของฝ่ายไทยเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามหลักกฎหมายและหลักมนุษยธรรมสากล ซึ่งเชื่อว่าประเทศพันธมิตรและองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ มีความเข้าใจ และไม่ได้มีความกังวลใดๆ อย่างที่กัมพูชากล่าวอ้าง โดยเฉพาะการที่ฝ่ายไทยได้เปิดโอกาสให้องค์กรสากลที่เกี่ยวข้องสามารถประสานขอเข้าเยื่ยมชมได้ตลอดตั้งแต่วันแรกๆ ที่ฝ่ายไทยได้มีการควบคุมตัว   อย่างเช่นเมื่อ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้มีคณะผู้แทนจาก ICRC ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ด้านการคุ้มครอง ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เจ้าหน้าที่โครงการของ ICRC และล่าม รวม 4 คน เพิ่งมาเยื่ยมชมไป จึงขอยืนยันว่าการควบคุมทหารกัมพูชาทั้ง 18 คนนั้น เป็นไปตามหลักกฎหมายสากล ที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาเจนีวา ไม่ใช่การควบคุมตัวอย่างผิดกฎหมายตามที่ กระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้กล่าวอ้าง ทั้งนี้การถูกควบคุมตัวดังกล่าว จำเป็นต้องคงไว้ จนกว่าสถานะการณ์การหยุดยิงหรือสถานการณ์การสู้รบ จะมีความสมบูรณ์เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนแล้วเป็นหลัก ทั้งนี้เพื่อผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมด จะไม่หวนกลับมาทำการสู้รบกับฝ่ายไทยอีก ซึ่งเป็นไปตามแนวทางหลักสากล และเชื่อว่าด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน ฝ่ายกัมพูชายังมีเรื่องสำคัญอื่น ที่ควรให้ความสำคัญอย่างมากด้วยเช่นกัน […]

ทหารกล้าเล่านาทีระทึก รอดตายจากระเบิดชายแดน

11 ส.ค.- ทหารกล้า เล่าเหตุการณ์ ลูกระเบิดจากฝั่งกัมพูชา ร่วงใส่จุดที่กำลังพลอยู่พอดี จนได้รับบาดเจ็บ ทีมข่าวลงพื้นที่อำเภอลานสัก จ.อุทัยธานี บ้านของ สิบโทปรีชา เสือบัว อายุ 24 ปี หัวหน้าชุดหมู่ปืนเล็กหมวดปืนเล็ก กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 4 ค่ายจิรประวัติ จังหวัดนครสวรรค์ เล่านาทีรอดชีวิตจากเหตุระเบิดที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ขณะประจำการอยู่ในบังเกอร์ ได้ยินเสียงปืนครกจากฝั่งกัมพูชา จึงรีบถอยตัวออกครึ่งหนึ่งเพื่อให้ลูกน้องหลบเข้าไปด้านในบังเกอร์  แต่จังหวะนั้นกระสุนระเบิดตกใส่ทันทีจนร่างกระเด็นและหมดสติ เหตุระเบิดทำให้สิบโทปรีชา ได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาซ้าย ขณะปฏิบัติหน้าที่พร้อมเพื่อนทหารอีก 3 นาย สิบโทปรีชา ยังบอกอีกว่า “หากต้องบาดเจ็บอวัยวะส่วนไหน ก็ยอม แต่จะไม่ยอมเสียชาติ” พร้อมเผยว่าได้ติดต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อขอกลับไปปฏิบัติหน้าที่ต่อ แม้ได้รับคำสั่งให้พักรักษาตัวก่อน แต่หากมีความจำเป็น เขาพร้อมกลับไปสู้เพื่อประเทศชาติทันที ทั้งนี้ ตัว สิบโทปรีชา และครอบครัวเชื่อว่า เป็นบารมี หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อยูร และหนังเสือ วัดพนมเศษเหนือ จังหวัดนครสวรรค์ รวมถึงหลวงพ่อเคลือบ วัดหนองกระดี่ […]