สุวรรณภูมิ เปิดแผนรองรับปิดซ่อมรันเวย์ฝั่งตะวันออก

สมุทรปราการ 15 ก.พ. – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเตรียมแผนรองรับปิดปรับปรุงทางวิ่งฝั่งตะวันออกและทางขับออกด่วน  เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการบริการผู้โดยสาร 


นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ตามที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีแผนปิดปรับปรุงทางวิ่ง ฝั่งตะวันออก (Runway 01R-19L) และทางขับออกด่วน (Rapid Exit Taxiway) เพื่อซ่อมแซมพื้นผิวทางวิ่งให้มีความคงทนแข็งแรงสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยในช่วงแรกจะเริ่มดำเนินการระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 15 พฤษภาคม 2562 และในช่วงที่ 2 จะเริ่มดำเนินการระหว่างวันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 – 6 เมษายน 2563 สำหรับการปิดซ่อมช่วงแรก ทสภ.จะดำเนินการในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนจนถึงรุ่งเช้า คือ ระหว่างเวลา 01.30 – 08.30 น. เพื่อให้ผู้รับจ้างรื้อและซ่อมแซมพื้นผิวใหม่ อย่างไรก็ตาม ทสภ.ยังคงให้บริการได้ตามปกติ โดยจะใช้ทางวิ่งฝั่งตะวันตกให้บริการขึ้น – ลงของเที่ยวบินเพียงทางวิ่งเดียว ซึ่งสามารถรองรับได้ 34 เที่ยวบินต่อชั่วโมงและภายหลังจากเวลา 08.30 น. จะเปิดใช้งานทางวิ่งฝั่งตะวันออก ทำให้มีทางวิ่งทั้ง 2 เส้นให้บริการรองรับเที่ยวบินได้ 68 เที่ยวบินตามปกติ 


นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ กล่าวว่า เพื่อให้การดำเนินการปรับปรุงทางวิ่งฝั่งตะวันออกและทางขับออกด่วน ช่วงที่ 1 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการเที่ยวบินและผู้โดยสาร ทสภ.ได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และได้มีการจัดทำแผนและมาตรการรองรับการดำเนินงาน แบ่งเป็น 5 แผนงาน ประกอบด้วย 1. แผนเตรียมความพร้อมและบำรุงรักษาทางวิ่ง ฝั่งตะวันตก 2. แผนการจัดการจราจรทางอากาศและภาคพื้น 3. แผนฉุกเฉินรองรับกรณีทางวิ่งฝั่งตะวันตกไม่สามารถให้บริการได้ ในระหว่างการปิดซ่อมทางวิ่งฝั่งตะวันออก 4. แผนรองรับผลกระทบในอาคารผู้โดยสาร กรณีเที่ยวบินเกิดความล่าช้า 5. แผนเคลื่อนย้ายอากาศยานที่เกิดเหตุขัดข้องออกจากทางวิ่ง กรณีมีอุบัติเหตุบนทางวิ่ง ทั้งนี้เพื่อให้มีความมั่นใจว่าการปิดปรับปรุงทางวิ่งฝั่งตะวันออกและทางขับด่วนครั้งนี้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและส่งผลกระทบต่อการให้บริการผู้โดยสารและเที่ยวบินน้อยที่สุด 

นาวาอากาศโท สุธีรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้การบริหารจัดการจราจรทางอากาศเป็นไปอย่างราบรื่น ทสภ. ได้มีการประสานการทำงานร่วมกับ บวท. และสายการบินอย่างใกล้ชิด โดยในช่วงที่มีการปิดซ่อมทางวิ่งฝั่งตะวันออก ทสภ. จะไม่อนุญาตให้สายการบินเพิ่มเที่ยวบินพิเศษในช่วงเวลาดังกล่าว รวมทั้งจะงดการปิดซ่อมทางวิ่ง ฝั่งตะวันออก เป็นการชั่วคราวในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 8 – 19 เมษายน 2562 ด้วย ทั้งนี้ เมื่อการปรับปรุงทางวิ่งฝั่งตะวันออกและทางขับออกด่วน ระยะที่ 1 แล้วเสร็จ จะส่งผลให้ ทสภ. มีทางวิ่ง ทางขับที่ได้มาตรฐานด้านความปลอดภัย สามารถรองรับการเจริญเติบโตของการขนส่งทางอากาศได้อย่างมี ประสิทธิภาพในอนาคตต่อไป 


นายทินกร ชูวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ปฏิบัติการ) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด เปิดเผยถึงมาตรการและแนวทางการบริหารจัดการ การให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศรองรับการปิดซ่อมแซมพื้นผิว ทางวิ่ง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 เพื่อรองรับการปิดซ่อมแซมพื้นผิวทางวิ่งฝั่งตะวันออก (ทางวิ่ง 19L/01R) ช่วงกึ่งกลางทางวิ่งระหว่างทางขับ B7 ถึง ทางขับ B10 ระยะทาง 900 เมตร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 15 พฤษภาคม 2562 ในช่วงเวลา 01.30 – 08.30 น. (7 ชั่วโมง) ของแต่ละวันยกเว้นคืนวันศุกร์ และในช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 8 – 18 เมษายน 2562 โดยในช่วงเวลาดังกล่าว วิทยุการบินฯ จะให้บริการแบบ Single Runway Operation  โดยใช้ทางวิ่งเส้นเดียวในการขึ้น/ลง ซึ่งเป็นมาตรการปกติที่วิทยุการบินฯ ใช้ในกรณีที่มีการปิดซ่อมแซมพื้นผิวทางวิ่ง  สำหรับค่าความสามารถในการรองรับปริมาณเที่ยวบิน ในช่วงวันและเวลาที่มีการปิดซ่อมทางวิ่งดังกล่าว คาดว่าจะลดลงจากช่วงเวลาปกติที่รองรับได้ 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เหลือ 34 เที่ยวบินต่อชั่วโมง คิดเป็น 50% ของช่วงเวลาปกติ โดยสามารถรองรับเที่ยวบินขาเข้าได้ 18 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และเที่ยวบินขาออกได้ 16 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้เกิดการล่าช้าของเที่ยวบินบ้าง

นอกจากนั้นวิทยุการบินฯ จะใช้หลักการบริหารความคล่องตัวการจราจรทางอากาศ Air Traffic Flow Management ในการบริหารจัดการปริมาณเที่ยวบิน โดยได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสายการบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งเตรียมแนวทางปฏิบัติรองรับกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และการใช้สนามบินสำรอง พร้อมมีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานการให้บริการจราจรทางอากาศรองรับการปิดซ่อมทางวิ่ง เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาปิดซ่อมแซมพื้นผิวทางวิ่งดังกล่าว อาจมีความล่าช้าของเที่ยวบินบ้าง จึงขอให้ผู้โดยสารติดตามข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์จากสายการบินอย่างใกล้ชิด ซึ่งวิทยุการบินฯ จะดำเนินการบริหารจัดการจราจรทางอากาศอย่างเต็มที่ โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสารและสายการบินเป็นสำคัญ

นายธีระ  บัวศรี ประธานคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพ กล่าวว่า การปิดซ่อมพื้นผิวในครั้งนี้เป็นการปิดซ่อมซึ่งอยู่ในแผนงานระยะยาวที่ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้มีการวางแผนเตรียมการปฏิบัติงาน และศึกษาผลกระทบร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งได้รับความร่วม มือเป็นอย่างดียิ่ง เนื่องจากทุกภาคส่วนต่างเข้าใจตรงกันว่าความปลอดภัยเป็นหัวใจสูงสุดในการปฏิบัติงาน ดังนั้น แม้ว่าในแผนการดำเนินงานจะต้องมีผลกระทบสายการบินและเที่ยวบินที่ทำการบินอยู่ในช่วงเวลาที่ปฏิบัติการปิดพื้นที่เพื่อซ่อมนั้นก็ตาม แต่การเตรียมการวางแผนด้วยความรัดกุม รวมทั้งการศึกษาข้อมูลจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็สามารถลดความเสี่ยงและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้ในส่วนของการเตรียมการของสายการบินนั้น ในแผนงานระยะที่ 1 จะเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 15 พฤษภาคม 2562 นี้ เมื่อรับทราบตารางการปฏิบัติงานการปิดซ่อมพื้นผิวจากฝ่ายสนามบิน และอาคารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว ก็ได้ประชุมเพื่อเตรียมความเข้าใจและแจ้งต่อสายการบินที่จะได้รับผลกระทบในช่วงเวลาดังกล่าว ในเบื้องต้นได้แจ้งให้ทุกสายการบิน รับทราบข้อมูลตารางงานการซ่อมแซมพื้นผิว เรื่องแผนการสำรองน้ำมันเพื่อเตรียมพร้อมในกรณีฉุกเฉิน ทั้งเฝ้าระวังการบริการเที่ยวบินของสายการบินและผู้ให้บริการภาคพื้น  การบริหารอาคารผู้โดยสารและหลุมจอดของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  พร้อมทั้งการบริหารห้วงอากาศของวิทยุการบิน (AEROTHAI) โดยทางบริษัท วิทยุการบินฯ ได้ให้ความร่วมมือโดยการขยายเวลาในการใช้ A-CDM (Airport Collaborative Decision Making) โดยเริ่มจากเวลา 03.00 – 12.00 น. ของทุกวัน 

ทั้งนี้ หลังจากการทำการปิดทางวิ่งไปแล้ว 2 อาทิตย์ (14 วัน) แต่ละสายการบินจะทำการปรับเพิ่มหรือลดน้ำมันตามความเหมาะสมต่อไปในส่วนของคณะทำงาน ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด หอบังคับการบิน ผู้แทนจากสายการบินในนามของคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพ หรือ AOC พร้อมด้วยผู้ให้บริการภาคพื้น (Ground Handling) รวมไปถึง ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ได้ร่วมกันจัดทำแผนเผชิญเหตุ โดยรวมถึงการจัดการเตรียมแผนสำรองในกรณีที่อากาศยานเกิดขัดข้องบนทางวิ่ง (01L/19R) เพื่อให้ทางวิ่งที่ (01R/19L) ที่มีการปิดซ่อม ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติให้เร็วที่สุด . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้