พาณิชย์ย้ำไม่ต่ออายุเซฟการ์ดเหล็ก

นนทบุรี 14 ก.พ. – พาณิชย์ย้ำชัดไม่ขยายมาตรการปกป้องสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออื่น ๆ ระบุไม่พบความเสียหายอย่างร้ายแรงที่เกิดกับอุตสาหกรรมภายใน หรือคุกคามอุตสาหกรรมภายในจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น


นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยผลการทบทวนชั้นที่สุดของคณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้อง (คปป.)  โดยคณะกรรมการฯ พิจารณาข้อเท็จจริงที่ได้รับจากกระบวนการไต่สวนและผลจากการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งมีผู้เข้าร่วม 91 ราย ประกอบด้วย ผู้แทนรัฐบาลต่างประเทศ ผู้ผลิตต่างประเทศ ผู้ผลิตในประเทศ สมาคมผู้ใช้อุตสาหกรรมต่อเนื่อง และผู้นำเข้า โดยพิจารณาความเห็นทั้งจากกลุ่มผู้ผลิตอุตสาหกรรมเหล็กที่ต้องการให้ขยายเวลาใช้มาตรการออกไป เพราะกังวลสถานการณ์สงครามการค้าและผลกระทบที่อาจเกิดกับอุตสาหกรรมผู้ผลิตเหล็กในห่วงโซ่อุปทาน และความเห็นจากกลุ่มผู้ใช้ที่ไม่เห็นด้วยที่จะขยายเวลาการใช้มาตรการ ได้แก่ กลุ่มผู้ใช้อุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น ยานยนต์ ต่อเรือ ผู้ผลิตเครื่องมือเครื่องจักรกลการเกษตร เนื่องจากเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการใช้มาตรการ ประกอบกับ ผลการทบทวนที่ไม่พบความเสียหายอย่างร้ายแรงที่เกิดแก่อุตสาหกรรมภายในหรือที่คุกคามอุตสาหกรรมภายใน เนื่องมาจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น คณะกรรมการฯ จึงมีมติไม่ให้ขยายเวลาการใช้มาตรการปกป้อง (เซฟการ์ด)

ทั้งนี้ หลักการใช้มาตรการปกป้องมีวัตถุประสงค์เป็นมาตรการชั่วคราวให้ใช้เท่าที่จำเป็น เพื่อเยียวยาความเสียหายที่เกิดจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น ไม่ใช่ความเสียหายจากสาเหตุอื่น และมาตรการปกป้องมีต้นทุนสูง คือ ยิ่งใช้นานยิ่งมีต้นทุนจากการต้องชดเชยและการถูกตอบโต้ทางการค้า อย่างกรณีที่ไทยถูกตอบโต้จากตุรกี โดยขึ้นภาษีนำเข้าเครื่องปรับอากาศ เพราะไทยขยายเวลาการใช้มาตรการปกป้องสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนไม่เจือ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วรัฐบาลจึงจำเป็นต้องฟ้องร้องต่อองค์การการค้าโลก (WTO) เพื่อลดผลกระทบและกดดันให้ตุรกียุติการตอบโต้กับไทย โดยกลุ่มผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อน ซึ่งเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการขยายเวลาการใช้มาตรการปกป้องไม่สามารถเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับกลุ่มผู้ส่งออกเครื่องปรับอากาศไปตุรกีได้ และสำหรับกรณีนี้จากข้อมูลการส่งออกของไทย อุตสาหกรรมหลักหลายกลุ่มของไทย รวมทั้งสินค้าเกษตรมีโอกาสจะถูกตอบโต้จากหลายประเทศคู่ค้า ซึ่งในระหว่างการทบทวนมีประเทศเกาหลีใต้ อียิปต์ และตุรกี แสดงความเห็นคัดค้านการใช้มาตรการ โดยรัฐบาลเกาหลีใต้และรัฐบาลอียิปต์ได้แจ้งที่จะขอชดเชยหากต่ออายุมาตรการออกไปด้วย


อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีกระแสจากกลุ่มเหล็กว่ารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธาน คปป.ออกมาเผยทิศทางก่อนการประชุมว่าจะไม่พิจารณาขยายระยะเวลาการบังคับใช้อย่างแน่นอนนั้น ไม่เป็นความจริง โดยการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นเพียงการชี้แจงให้ทราบข้อมูลตาม “ร่าง” ผลการทบทวน ซึ่งเป็นผลตัดสินเบื้องต้น ที่ออกไปให้ผู้มีส่วนได้เสียได้มีโอกาสเข้ามาแสดงความคิดเห็น ไม่ใช่การชี้แจงผลขั้นสุดท้ายของการพิจารณา ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ประธานจะทราบว่าผลการพิจารณาจะเป็นเช่นไร ก่อนการประชุมพิจารณาผลชั้นที่สุด

สำหรับข้อร้องเรียนของกลุ่มผู้ผลิตเหล็ก 7 สมาคมที่มีหนังสือถึงท่านนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเรียกร้องให้คณะกรรมการฯ ขยายเวลาการใช้มาตรการปกป้องสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออื่น ๆ ต่อไปเป็นครั้งที่ 3 หลังจากไทยใช้มาตรการมาแล้ว 6 ปี คือ ครั้งแรกวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556 – 26 กุมภาพันธ์ 2559 และขยายเวลาครั้งที่ 2 ออกไปจนถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 โดยกลุ่ม 7 สมาคมอ้างถึงสถานการณ์สงครามทางการค้าสหรัฐและจีน และถ้าไม่มีการต่ออายุมาตรการปกป้องออกไปอีกจะทำให้อุตสาหกรรมเหล็กไทยไปไม่รอดนั้น ต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงว่ามาตรการปกป้องเป็นมาตรการเยียวยาความเสียหายจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น มิใช่มาตรการที่จะแก้ปัญหาเรื้อรังของอุตสาหกรรมเหล็กรีดร้อนไทยที่เป็นผลจากเหตุอื่น เช่น ปัญหาโครงสร้างการผลิต การบริหารจัดการ และการมีกำลังการผลิตที่เกินความต้องการใช้ในประเทศมากได้

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ประกอบด้วย ผู้แทนจากหลายหน่วยงานทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตร กระทรวงแรงงาน สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กระทรวงอุตสาหกรรม และผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่าง ๆ อีกหลายท่าน ซึ่งได้พิจารณาข้อมูลหลักฐานร่วมกันโดยรอบคอบแล้ว จึงมีมติเป็นความเห็นของที่ประชุมดังกล่าวข้างต้น ประธานไม่สามารถไปชี้นำหรือกำหนดความเห็นของที่ประชุมได้ การที่กลุ่มผู้ผลิตเหล็กรีดร้อนไปออกข่าวกดดันการพิจารณาทั้ง ๆ ที่ทราบตั้งแต่ต้นถึงหลักเกณฑ์เงื่อนไขของกรอบกฎหมายที่คณะกรรมการฯ ต้องยึดถือ จึงเป็นการดำเนินการที่ไม่เหมาะสมและไม่เป็นธรรมต่อคณะกรรมการฯ และผู้มีส่วนได้เสียฝ่ายอื่น ๆ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส