รัฐสภา 23 เม.ย.-3 เอกชน แจง กมธ. กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญฯ ด้านตัวแทน ไมนฮาร์ท ยืนยัน ตรวจสอบแล้ว สาเหตุตึก สตง. ถล่ม ไม่ได้มาจากการออกแบบของเรา “พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ” ย้ำมีหน้าที่เพียงชี้ว่าจุดไหนบกพร่อง-ใครต้องรับผิดชอบ เผยไม่มีใครตอบเรื่องเหล็กได้ ส่วนปล่องลิฟต์เอกชนอ้างไม่ใช่สาเหตุการถล่ม เหตุการแก้แบบไม่ได้อยู่ในส่วนโครงสร้างหลัก
คณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ที่มีพลตำรวจตรี ฉัตรวรรษ แสงเพชร ประธานกรรมาธิการฯ ได้มีการพิจารณาเรื่องเหตุการณ์ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม โดยเชิญหน่วยงานที่้กี่ยวข้องกับการออกแบบตึก และผู้แทนกิจการร่วมค้า พีเคดับบลิว (PKW Joint Venture) จำนวน 8 คน, บริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำนวน 2 คน, บริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำนวน 6 คน
โดยในช่วงต้นการประชุม พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า กรรมาธิการฯ มีหน้าที่ในการศึกษาพิจารณาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นตั้งแต่การออกแบบ กระบวนการก่อสร้าง กระบวนการบริหารสัญญา การควบคุมการก่อสร้างและผลกระทบจากแผ่นดินไหว รวมถึงการทำ MOU ร่วมกับ สตง.เพื่อรวบรวมข้อเสนอส่งไปยังฝ่ายบริหารต่อไป จึงเป็นเอกสิทธิ์กับผู้ที่เกี่ยวข้อง สิ่งใดที่ให้การไปแล้วไม่เป็นประโยชน์กับตนเองหรือเป็นความลำบาก ยังไม่แน่ใจก็ไม่ต้องให้ถ้อยคำก็ได้ แต่หากทำโดยสุจริต เปิดเผย และเป็นไปตามระเบียบกฎหมายก็สามารถชี้แจงได้
ทั้งนี้ ระหว่างการชี้แจงของภาคเอกชน ทางคณะกรรมาธิการฯ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพและอยู่ฟังการชี้แจงด้วย ซึ่งภายหลังการประชุมนาน 3 ชม. ผู้สื่อข่าวได้พยายามเข้าไปสอบถาม นายธีระ วรรธนะทรัพย์ ตัวแทนของบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ออกแบบโครงสร้างตึก สตง. ว่าการออกแบบเป็นไปตามหลักวิศวกรรมใช่หรือไม่ หลังมีการให้ข้อมูลว่ามีการแก้แบบลดความหนาปล่องลิฟต์เหลือ 25 ซม. โดยนายธีระ ยืนยันว่า การออกเป็นไปตามหลักวิศวกรรม ซึ่งจากเราได้ตรวจสอบแล้วว่าตึกถล่มไม่ได้มาจากการออกแบบของเรา ซึ่งได้ให้ข้อมูลกับกรรมาธิการฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว และไม่กังวลที่หลายภาคส่วนเพ็งเล็งว่าสาเหตุที่ตึก สตง. ถล่ม มีสาเหตุมาจากการออกแบบ
ขณะที่พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ เปิดเผยว่า เรื่องนี้สังคมให้ความสนใจ จึงเข้ามาดำเนินการ เพื่อศึกษาข้อมูล ว่ามีส่วนไหนไม่ดำเนินการตามสัญญา และคณะกรรมาธิการฯ จะจัดทำรายงานในส่วนนี้ เพื่อส่งต่อต่อไป ในส่วนบริษัทกิจการคู่ค้า PKW ที่เป็นผู้ควบคุมการออกแบบก่อสร้างให้เป็นไปตามสัญญา ในการแก้ไขรายละเอียดสัญญา เป็นไปตามเงื่อนไข การควบคุมเวลาการก่อสร้าง ก็เป็นไปตามระยะการดำเนินงาน
สำหรับบริษัทผู้ออกแบบสถาปัตยกรรม บริษัทฟอ-รัม อาร์คิเทคจำกัด ก็ดำเนินการไปตามวัตถุประสงค์ของ สตง. ที่ได้ทำสัญญาไว้ ส่วนจะเกินจำเป็นหรือไม่นั้น บริษัท ชี้แจงว่า สตง.มีความประสงค์จะใช้งานทุกตารางนิ้วในพื้นที่ให้ได้ประโยชน์สูงสุด
ส่วนบริษัทออกแบบโครงสร้าง บริษัท ไมน์ฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด นั้น มีการประสานงานกับกรมโยธาธิการและผังเมือง และเอกชนยืนยันว่ามีการออกแบบ เพื่อรองรับการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว ส่วนกระแสข่าวมีการแก้แบบหรือโครงสร้างนั้น เป็นส่วนที่ไม่ได้อยู่ในโครงสร้างหลัก เป็นไปตามความเหมาะสมของการใช้งาน เป็นไปตามกฎหมาย และได้มาตรฐานสากล
เมื่อถามถึง กรณีบริษัทจีนที่รับงาน ซึ่งถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีการฮั้วกันหรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า กระบวนการที่จะว่าผิดถูก เป็นเรื่องของกระบวนการ มีหน่วยงานที่ตรวจสอบในเรื่องนี้อยู่แล้ว คณะกรรมาธิการฯ ไม่ขอเข้าไปก้าวก่าย แต่คณะกรรมาธิการฯ จะเริ่มการตรวจสอบว่า การออกแบบโครงสร้างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ มีผู้รับรองหรือไม่ และมีการตรวจสอบเป็นระยะหรือไม่ ไม่มีใครคาดการณ์ว่าจะมีการเกิดแผ่นดินไหว ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอน และมีการรับรองการออกแบบจากกรมโยธาธิการและผังเมืองไปแล้ว
เมื่อถามถึง เรื่องการแก้แบบปล่องลิฟต์ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ระบุว่า บริษัทเอกชนชี้แจงว่า เป็นการปรับลดเพิ่มเติมเพียงเล็กน้อย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงสร้าง เช่น มีการปรับเปลี่ยนกับผนัง ซึ่งกระบวนการการเปลี่ยนแปลงในแต่ละครั้ง ก็มีการประชุมหารือกันก่อน และการแก้แบบเพียงเล็กน้อยในแต่ละครั้ง ก็มีการดูทุกขั้นตอน
“แต่ไม่มีการยืนยันว่า การแก้แบบเฉพาะส่วนปล่องลิฟต์ ไม่ได้เป็นสาเหตุของการถล่ม เพียงยืนยันว่า ทุกอย่างสร้างตามแบบ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแบบ” พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าว
ส่วนการประเมินสาเหตุในเบื้องต้นนั้น คณะกรรมาธิการฯ ยังไม่สามารถที่จะสรุปได้ จะต้องมีการฟังรอบด้านก่อน ที่จะมีการประเมิน หรือพิจารณาในครั้งสุดท้าย เพราะต่อจากนี้ จะยังมีอีกหลายหน่วยงานที่ต้องเชิญเข้ามาชี้แจง กระทั่ง องค์กรที่เกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหว ฝ่ายนักวิชาการ นักธรณีวิทยา ฝ่ายกทม.เอง ก็ต้องมีการเชิญเข้ามาชี้แจงเช่นเดียวกัน ยืนยันว่า มีการออกแบบ เพื่อรองรับแผ่นดินไหว ตามที่กฎหมายกำหนด
สำหรับกรณีเหล็กเส้น ขณะนี้ ยังไม่มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรียกเข้าชี้แจง แม้จะมีการสอบถามในคณะกรรมาธิการฯ แล้วก็ตาม แต่บริษัทที่เข้ามาในวันนี้ตอบไม่ได้ ทั้งเรื่องเหล็กและคุณภาพของเหล็ก เพียงแต่ตอบว่า เหล็กที่ผลิตจากโรงงานก็มีคุณภาพหนึ่ง แต่เมื่อถล่มแล้วมีการยืดของเหล็ก มีการเปลี่ยนแปลงสภาพด้วยแรงตึงของเหล็ก เอกชนพูดได้เพียงเท่านี้ ขณะที่วิศวกรที่ควบคุมการก่อสร้าง ก็ไม่สามารถควบคุมคุณภาพเหล็กได้
การประชุมของคณะกรรมาธิการฯ คือการศึกษาคู่ขนานกันไป กับหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบกรณีต่างๆ คณะกรรมาธิการฯ มีหน้าที่เพียงการชี้ให้เห็นว่า จุดไหนที่บกพร่อง และใครต้องรับผิดชอบ ซึ่งต่อจากนี้จะมีการพิจารณาว่า จะมีการเชิญหน่วยงานใดเข้ามาบ้างเป็นลำดับ โดยเชื่อว่าทางตำรวจจะมีการตรวจสอบต่อไป รวมถึงหน่วยงานอื่น.-315.-สำนักข่าวไทย