เชียงใหม่ 7 ก.พ.- ตำรวจจับหนุ่มพนักงานต้อนรับโรงแรมกลางเมืองเชียงใหม่ อ้างถูก 3 คนร้าย ใช้อาวุธมีดทำร้าย และปล้นเงินสดของโรงแรมไปกว่า 30,000 บาท พร้อมนำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปด้วย หลังใช้เวลาสอบปากคำนานหลายชั่วโมง สุดท้ายยอมรับกุเรื่องขึ้นมา ต้องการเงินไปใช้ส่วนตัว
นายยศกร เด็ดเดี่ยวยิ่ง อายุ 30 ปี หนุ่มพนักงานต้อนรับโรงแรมใน ต.หายยา กลางเมืองเชียงใหม่ กุเรื่องขึ้นมาอ้างกับตำรวจ ก่อนจะถูกสอบเค้นจนรับสารภาพ และดำเนินคดี 2 ข้อหา ทั้งลักทรัพย์นายจ้างในเวลากลางคืน และแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน พร้อมทั้งนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในโรงแรม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้แจ้งความตำรวจว่า ขณะเข้าเวรเช้ามืดวันนี้ ถูกคนร้าย 3 คน ใช้มีดบุกปล้นได้เงินไป 35,000 บาท แต่สุดท้ายถูกตำรวจเค้นหนัก จนรับสารภาพว่ากุเรื่องขึ้นเอง
นายยศกร สารภาพว่า ก่อเหตุเพราะต้องการเงินไปใช้หนี้ส่วนตัว โดยใช้มีดปอกผลไม้กรีดแขนตัวเอง ทำให้ดูเหมือนถูกทำร้าย จากนั้นไปเปิดลิ้นชักที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ได้เงินไป 35,000 บาท และเดินไปที่ห้องผู้จัดการที่อยู่ด้านหลังแคชเชียร์ แล้วถอดเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดออกไปเก็บในรถเก๋งของตัวเองที่จอดภายในโรงแรม ก่อนกลับเข้ามาด้านใน โทรศัพท์แจ้งตำรวจ หลังจากตำรวจเข้าสอบสวนเสร็จในตอนเช้า ก็ไปนำเงินเข้าธนาคาร ก่อนทยอยโอนไปใช้จ่ายส่วนตัวทั้งหมด ก่อนที่จะถูกตำรวจเชิญตัวไปสอบสวนอีกครั้ง จนต้องยอมรับสารภาพในที่สุด
พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า คดีนี้คำให้การมีพิรุธแต่แรก ทั้งร่องรอยบาดแผลที่ดูไม่เหมือนถูกทำร้ายจากผู้อื่น ภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงที่ไม่พบรถจักรยานยนต์คนร้ายตามคำให้การ ส่วนเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดต้องใช้เวลาถอดพอสมควร ซึ่งโดยปกติคนร้ายจะไม่เสียเวลามาหมุนออกทีละสาย ทำให้ชุดสืบสวนเชื่อว่าจะเป็นการสร้างเรื่องขึ้นมาเอง คดีนี้ถือเป็นบทเรียน ไม่ให้ใครทำเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะตำรวจมีเทคนิคในการตรวจสอบข้อเท็จจริง และตรวจสอบพยานหลักฐาน.-สำนักข่าวไทย