พรรคเพื่อชาติส่ง “สงคราม” เป็นแคดิเดตนายกฯเพียงคนเดียว

กรุงเทพฯ 1 ก.พ.-พรรคเพื่อชาติส่ง “สงคราม” เป็นแคดิเดตนายกฯ เพียงคนเดียว พร้อมส่งผู้สมัคร ส.ส.ครบทั้ง 350เขต ลั่นไม่เป็นศรัตรูกับใคร ย้ำพรรคพร้อมทำตามกฎหมาย ระบุหากพา “ทักษิณ” กลับประเทศ จะต้องรื้อคดีพิจารณาใหม่ โดยบุคคลที่พิจารณาจะต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคณะรัฐประหาร


นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงความพร้อมในการเลือกตั้งของพรรค ว่า พรรคเพื่อชาติพร้อมที่จะส่งผู้สมัคร ส.ส.ครบทั้ง 350 เขต และบัญชีรายชื่อครบตามจำนวน ส่วนรายชื่อแคดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคจะมีเพียงคนเดียว คือ ตน และจะนำสมาชิกทุกคนสมัครรับเลือกตั้งพร้อมกันในวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดรับสมัคร 

“พรรคเพื่อชาติไม่ได้ตั้งเป้าจำนวน ส.ส.ว่าจะต้องได้เท่าไหร่ แต่ตั้งเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาของชาติบ้านเมืองมากกว่า พร้อมเชื่อว่าจะได้จำนวน ส.ส.ที่ไม่น่าเกลียดมาก โดยกลยุทธ์พรรคจะเน้นแก้ปัญหา เข้าถึงประชาชน ตามนโยบายทั้ง 9 ข้อที่นำเสนอในวันนี้ ขอยืนยันพรรคเพื่อชาติไม่มีนโยบายไปทะเลาะกับใคร และไม่เป็นศัตรูกับพรรคใด” นายสงคราม กล่าว


ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา เรื่องความแตกแยกถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นเงื่อนไข และ 5 ปีหลังการยึดอำนาจ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้มีการเชิญทุกฝ่ายเข้าไปพูดคุยเรื่องความปรองดอง ซึ่งเห็นว่าทุกฝ่ายได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และตนคาดหวังว่าจะสำเร็จ โดยเฉพาะครั้งสุดท้ายที่ให้ปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นประธานรวบรวมความคิดเห็นจากทุกฝ่าย และหากประชาชนไม่ต้องการรัฐประหาร ก็จะต้องไม่สร้างเงื่อนไขในเรื่องของขัดแย้งขึ้นมาอีก

ส่วนกรณีพรรคพลังประชารัฐ เตรียมเทียบเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคดิเดตนายกรัฐมนตรี นายจตุพร กล่าวว่า ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะตอบรับหรือไม่ จะถือว่าเป็นจุดหักเหสำคัญ ซึ่งตนเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยุติบทบาททั้งหมด เพื่อไม่ให้บอบช้ำไปมากกว่านี้ แต่หาก พล.อ.ประยุทธ์ ตอบรับและไม่ลาออก จะเกิดการเอาเปรียบในสนามการเลือกตั้งขึ้น 

ขณะที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา ย้ำถึงสาเหตุที่วันนี้ทุกคนมารวมตัวกันในนามพรรคเพื่อชาติ ว่า ทุกคนต้องการทำเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน ส่วนแนวคิดเรื่องการปรองดองที่เคยเสนอเรื่องการพานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับบ้านนั้น ต้องบอกว่าเป็นคนละเงื่อนไข เนื่องจากกรณีนายทักษิณ ในอดีตถูกยึดอำนาจและถูกแจ้งข้อกล่าวหาจากคณะรัฐประหาร ซึ่งการตั้งข้อกล่าวหาจากคณะรัฐประหาร ทั่วโลกทราบดีว่าหากไปอยู่ต่างประเทศจะได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ลี้ภัย โดยนโยบายของพรรคเพื่อชาติจะทำเรื่องของกฎหมายความยุติธรรมให้เป็นมาตรฐานสากล โดยแนวทางของพรรคเพื่อชาติต้องการให้ทุกคนหันหน้าเข้าหากันเพื่อพูดคุย เพื่อหาทางออกของปัญหา แต่สำหรับกรณีของนายทักษิณนั้น เห็นว่าควรต้องมีการรื้อคดีพิจารณาใหม่ ด้วยพยานหลักฐานใหม่ และบุคคลที่พิจารณาจะต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคณะรัฐประหาร ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ส่วนตัวเชื่อว่านายทักษิณอยากที่จะกลับมาต่อสู้คดี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย