หอการค้าไทยเผยตรุษจีนเงินสะพัดกว่า 5.8 หมื่นล้าน

กรุงเทพฯ 1 ก.พ. – หอการค้าไทยเผยตรุษจีนคนใช้จ่ายคึกคัก เงินสะพัด 5.8 หมื่นล้าน สูงสุดในรอบ 11 ปี เหตุประชาชนแห่ซื้อของไหว้-ทำบุญเพิ่ม ประเมินฝุ่น PM 2.5 กระทบเศรษฐกิจ 8,000 – 10,000 ล้านบาท


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายผู้บริโภคในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ที่สำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 1,207 ตัวอย่างทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 21 – 27 มกราคม 2562 ว่า คาดจะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 58,398 ล้านบาท มูลค่าสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มสำรวจค่าใช้จ่ายช่วงตรุษจีนเมื่อประมาณ 11 ปีที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 จากปีก่อน แต่ขยายตัวน้อยที่สุดในรอบ 7 ปี เพราะประชาชนยังมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ โดยผู้ที่มีรายได้น้อยยังกังวลเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะข้าวและยางพารา ส่วนผู้ที่มีรายได้ปานกลางกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจากมาตรการกำแพงภาษีสหรัฐและจีน รวมทั้งการที่สหราชอาณาจักรถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit 

ขณะเดียวกันยังพบว่าปริมาณการซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ ร้อยละ 63.1 บอกว่าการซื้อไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนแหล่งซื้อสินค้าสำหรับไหว้เจ้า ส่วนใหญ่ร้อยละ 67.8 ซื้อที่ตลาดสด รองลงมา คือ ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ร้อยละ  20.1 และห้างสรรพสินค้าร้อยละ 10.2 ตามลำดับ


สำหรับการวางแผนใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีน พบว่าส่วนใหญ่จะซื้อของเซ่นไหว้เฉลี่ย 3,570 บาท ทำบุญ 1,811 บาท ซื้อสินค้าอุปโภคและบริโภค 2,287 บาท ให้แต๊ะเอีย 3,575บาท  ซื้อเสื้อผ้า รองเท้า 1,626 บาท ท่องเที่ยว 28,790 บาท ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น เครื่องประดับ ทองคำ 12,252 บาท ซื้อสินค้าคงทน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเรือน 5,268 บาท เป็นต้น

ขณะที่สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 นั้น ส่วนใหญ่ร้อยละ 61.9 บอกว่าไม่ส่งผลต่อการซื้อของในช่วงเทศกาลตรุษจีน แต่ประชาชนถึงร้อยละ 71.5 จะเผากระดาษเงินกระดาษทองลดลง และจุดประทัดน้อยลง ขณะเดียวกันมีประชาชนประมาณร้อยละ 2 เลือกซื้อสินค้าผ่านออนไลน์หรือเลือกร้านที่มีบริการจัดส่งถึงบ้านทดแทนการออกไปเลือกซื้อสินค้า และบางส่วนเลือกที่จะไปท่องเที่ยวในจังหวัดที่มีฝุ่นน้อยแทน โดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ประเมินว่าสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่อาจจะต่อเนื่องถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์นั้น จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมูลค่าประมาณ 8,000 – 10,000 ล้านบาท จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่น้อยลง เพราะหลายหน่วยงานประกาศหยุดงาน ประกาศปิดโรงเรียน และเลี่ยงเข้ากรุงเทพฯ แต่ยังไม่กระทบการท่องเที่ยว และยังไม่พบยอดการยกเลิกที่พักของนักท่องเที่ยว . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล