แถลงการณ์ FTA Watch ย้ำม. 44 สิทธิบัตรกัญชา ไม่ได้แก้ปัญหา แต่เป็นการหมกเม็ด

สำนักข่าวไทย.29 มค..-กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch)ออกแถลงการณ์  ย้ำมาตรา 44 สิทธิบัตรกัญชา ไม่ได้แก้ปัญหา แต่เป็นการหมกเม็ด  ขอให้ภาควิชาการ ภาคประชาสังคมและสื่อมวลชนช่วยกันจับตาเรื่องนี้อย่างเข้มแข็ง เข้มข้นต่อไป


โดยแถลงการณ์มีใจความว่า  ตามที่หัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งที่ 1/2562 เรื่องแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยสิทธิบัตรและมาตรการด้านสิทธิบัตรเป็นกรณีพิเศษ โดยระบุว่า เพื่อสนับสนุนและรองรับการอนุญาตให้นำกัญชามาวิจัยด้านการแพทย์ และแก้ปัญหาข้อห่วงกังวลเกี่ยวกับคำขอสิทธิบัตรกัญชาที่กรมทรัพย์สินทางปัญญารับคำขอสิทธิบัตรที่เกี่ยวกับกัญชาเข้ามาอยู่ในระบบการพิจารณาให้สิทธิบัตรแล้วนั้น

ทางกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอ ว็อทช์) วิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 1/2562 ดังกล่าว ไม่ได้แก้ปัญหาการละเลยหน้าที่ของกรมทรัพย์สินทางปัญญาในการรับคำขอและตรวจสอบคำขอสิทธิบัตร ตาม พ.ร.บ.สิทธิบัตร แต่อย่างใด มิหนำซ้ำยังมีเงื่อนปมบางประการที่ทำให้สงสัยได้ว่านี่คือ การหมกเม็ดเอื้อประโยชน์ต่อผู้ขอสิทธิบัตรในอนาคตหรือไม่ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้


1. ข้อ 1 ตามคำสั่งฯ ระบุเพื่อประโยชน์ในการพิจารณาตรวจสอบคำขอรับสิทธิบัตรตามคำสั่งนี้ การประดิษฐ์ดังต่อไปนี้หากนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ให้ถือเป็นการประดิษฐ์ที่ไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 9 (5) แห่งพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสิทธิบัตร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535

ความในข้อนี้ เพื่อให้ชัดเจนว่ากัญชาและสารสกัดสารที่มีโครสร้างทางเคมีเดียวกัน เกลือ เอสเทอร์ และอีเทอร์ใดๆ ไม่ได้รับการคุ้มครอง แต่มีเงื่อนไขเชื่อมโยงกับข้อ 4 ในคำสั่งฯ คือ จนกว่า พ.ร.บ.ยาเสพติดปรับปรุงแก้ไขที่ให้ปลดล็อคการใช้กัญชาจะมีผลบังคับใช้เท่านั้น

การที่เนื้อหาในคำสั่งฯข้อ 1 ไม่มีการกำหนดให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาต้องดำเนินการยกคำขอที่มีลักษณะดังกล่าวในทันที ทำให้กรมฯอาจประวิงเวลาไม่ดำเนินการใดๆต่อคำขอรับสิทธิบัตรในลักษณะดังกล่าว ซึ่งแตกต่างจากคำสั่งข้อ 2 ที่ชัดเจนกว่า


อีกทั้ง คำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับนี้ ไม่ได้แก้ไขปัญหาสำคัญที่สุดกรณีสิทธิบัตร คือ กรมทรัพย์สินทางปัญญาไม่ใช้มาตรา 28 ตาม พ.ร.บ.สิทธิบัตรในการตรวจสอบคำขอสิทธิบัตรตั้งแต่ต้น ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการละเลยหน้าที่ ไม่เพียงเท่านั้น ยังเท่ากับเปิดทางให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาไม่ปฎิเสธคำขอสิทธิบัตรที่ขัดมาตรา 9(1)(2) (3) (4) และ (5) โดยใช้มาตรา 28 ตั้งแต่ต้นอย่างเคร่งครัด ซึ่งนี่เป็นสาเหตุพื้นฐานที่ทำให้มีคำขอสิทธิบัตรคั่งค้างและล้นเกินความสามารถในการทำงานของผู้ตรวจสอบ

2. ข้อ 2 ตามคำสั่งฯ เพื่อแก้ปัญหาคำขอสิทธิบัตรที่กรมฯได้ประกาศโฆษณาไปแล้วที่ยังไม่ได้ยื่นคำขอให้ตรวจสอบ กรมฯสามารถแจ้งยกเลิกคำขอ/ตัดข้อถือสิทธิ์เกี่ยวกับกัญชาตามข้อ 1 โดยไม่ต้องรอ 5 ปีตามมาตรา 29 เดิม กรณีที่มีการตัดข้อถือสิทธิ์บางข้อออก ผู้ยื่นมีเวลา 90 วันในการดำเนินการกรณียกคำขอผู้ยื่นสามารถขออุทธรณ์ได้อีกภายในเวลา 60 วัน ตามมาตรา 72 

ซึ่งนี่เป็นข้อดีเพียงข้อเดียวในประกาศที่ใช้แก้ปัญหาที่ผู้ขอสิทธิบัตรที่เกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ทางเคมีหรือยามักจะถ่วงเวลายื่นตรวจสอบออกไปให้ได้มากที่สุด คือเกือบ 5 ปีเต็ม เพื่อลากการคุ้มครองชั่วคราวออกไปด้วยการยื่นโนติสไปตามหน่วยงานหรืออุตสาหกรรมยาชื่อสามัญไม่ให้วิจัย พัฒนา หรือขายผลิตภัณฑ์ที่ตัวเองยื่นขอสิทธิบัตรอยู่ แม้จะไม่แน่ใจว่าในที่สุดสิทธิบัตรนั้นสมควรได้หรือไม่ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม การที่ให้อธิบดีสั่งยกคำขอ หรือสั่งให้ผู้ขอรับสิทธิบัตรตัดข้อถือสิทธิเกี่ยวกับกัญชาตามข้อ 1 ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากอธิบดี และยังให้ผู้ขอรับฯอาจอุทธรณ์ได้ตามมาตรา 72 ทำให้ไม่เป็นการยกคำขอในทันที ทำให้ยืดระยะเวลาการดำเนินการออกไปอีกโดยไม่มีการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด

3. ข้อ 4 ในคำสั่งฯ มีใจความสำคัญที่สุด เนื่องจากเมื่อมีการแก้ไขเพิ่มเติมให้มีการนำกัญชาไปศึกษาวิจัยเพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์ ข้อ 1 และ 2 จะถูกยกเลิก และคำขอดังกล่าวจะได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาใหม่อีกครั้ง โดยถือว่าไม่ขัดมาตรา 9 แล้ว 

อย่างไรก็ตาม การเขียนคำสั่งที่ไม่ชัดเจน เป็นที่สงสัยว่า อาจเกิดกรณีที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาใช้การประวิงเวลาในการดำเนินการตามข้อ 1 และ 2 เพื่อรอคอยการแก้ไข พ.ร.บ.ยาเสพติด  ในขณะที่ภาคประชาสังคมต้องการให้ พ.ร.บ.ยาเสพติดได้รับการแก้ไขโดยเร็ว แต่จะกลายเป็นการปลดล็อคให้แก่สิทธิบัตรกัญชาโดยอัตโนมัติ

4.ข้อ 5 ตามคำสั่งฯที่ยกเลิกและแก้ไขมาตรา 30 ตาม พ.ร.บ.สิทธิบัตรนั้น นี่น่ากังวลว่า เป็นการหมกเม็ดของกรมทรัพย์สินทางปัญญาและพวกที่เกี่ยวข้องหรือไม่

1) มีการแก้ไขมาตรา 30 เดิมที่ให้อำนาจอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาสามารถยกเลิกคำขอที่ประกาศโฆษณาแล้วได้เลย โดยไม่ต้องรอการยื่นคำขอให้ตรวจสอบการประดิษฐ์

2) แต่มาตรา 30 ใหม่กลับเขียนว่า อธิบดีสามารถยกเลิกถ้าไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตราต่างๆ (5/9/10/11/14) ได้เมื่อ ได้ประกาศโฆษณาและยื่นให้ตรวจสอบการประดิษฐ์แล้ว

นั่นหมายความว่า ต้องรออย่างน้อย 5 ปีจนกว่าผู้ขอที่คำขอประกาศโฆษณาจะยื่นขอให้ตรวจสอบการประดิษฐ์ 

ดังนั้น ทางกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch) จึงมองว่า การออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 1/2562 เรื่องสิทธิบัตรกัญชา ไม่ได้แก้ปัญหา แต่หมกเม็ด จึงขอให้ภาควิชาการ ภาคประชาสังคมและสื่อมวลชนช่วยกันจับตาเรื่องนี้อย่างเข้มแข็ง เข้มข้นต่อไป 29 ม.ค.2562.-  สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คุมได้แล้ว! เพลิงไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร

สมุทรสาคร 7 ก.ค. – คุมได้แล้ว! ไฟไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร พบต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมัน หวั่นอาคารพังถล่ม หลังโหมไหม้รุนแรง ภาพจากมุมสูงจะเห็นอาคารที่เกิดเหตุมีขนาดใหญ่เนื้อที่ราวๆ 3-4 ไร่ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ของบริษัทประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำของ อบต.บ้านเกาะ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 20 คัน ฉีดน้ำสกัดเพลิงที่โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ควันสีดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า มีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ จุดต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการผลิตภายในโรงงาน เนื่องจากมีเชื้อเพลิงไวไฟ ประกอบกับภายในมีสินค้าประเภทยางที่ผลิตแล้วเป็นจำนวนมาก ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนอาคารเริ่มทรุดตัว มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงงาน 1 คน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 คน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ไฟยังดับไม่สนิท เนื่องจากภายในมีทั้งเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต วัตถุดิบไวไฟ และสินค้ายางยืดที่ผลิตเสร็จแล้วจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงนำอุปกรณ์เข้าไปดับไฟด้านใน ทั้งนี้ ต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยจากตัวอาคารที่อาจพังถล่มลงมาได้ เนื่องจากถูกไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงจนเสียหายเกือบทั้งหมด คนงานเล่าว่าเพลิงลุกที่ท่อส่งน้ำมันที่ส่งไปยังเครื่องจักร ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าประเภทยาง แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร […]

หนุ่มวัย 24 สารภาพผลักลูกเลี้ยงหัวฟาดพื้นดับ คุมทำแผนฯ

นนทบุรี 7 ก.ค. – ตำรวจคุมตัวพ่อเลี้ยงโหด ผลักลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบ ล้มศีรษะฟาดพื้นเสียชีวิต ทำแผนฯ หลังเค้นสอบกว่า 6 ชั่วโมง จนยอมรับ อ้างโมโหเด็กส่งเสียงดังรบกวน ตำรวจ สภ.บางบัวทอง คุมตัวนายธนวัฒน์ อายุ 24 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพทำร้ายร่างกาย “น้องขงเบ้ง” อายุ 2 ขวบ 5 เดือน ลูกเลี้ยง จนเสียชีวิตภายในบ้านพัก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมให้การว่า เด็กส่งเสียงดังรบกวนจึงเกิดความโมโหผลักจนล้ม ทำให้บริเวณท้ายทอยกระแทกกับพื้น กระทั่งแน่นิ่งไป เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 18.00-20.00 น. เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) ส่วนบาดแผลรอยจ้ำตามร่างกายและบาดแผลอื่นๆ นายธนวัฒน์ยังไม่รับสารภาพ ต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบอีกครั้ง แม่ของเด็ก อายุ 25 ปี เล่าว่า ตนออกไปทำงานทุกวัน เวลา 4 โมงเย็น […]

“บิ๊กเต่า” เผย “สีกา ก.” ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ เลือกเหยื่อรวย-เข้าถึงง่าย

7 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เรียกประชุมแบ่งภารกิจให้กองใต้สังกัด สืบสวนสอบสวนหาข้อมูลเพิ่ม เผยคืบหน้ากรณี “ทิดอาชว์” และนางสาว ก. เจ้าตัวยอมรับเลือกแต่คนรวย-เข้าถึงง่าย อ้างสำนึกผิด ยอมร่วมมือกับตำรวจ พร้อมจี้สำนักพุทธฯ ทำงานให้มากกว่านี้ เพื่อเรียกศรัทธาวงการสงฆ์กลับมา ความคืบหน้าในประเด็น อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ ทิดอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เจ้าคณะภาค 14-15 สายธรรมยุต มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนางสาว ก. จนถูกแบล็กเมล์รีดไถ่เงิน 7.3 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้ เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ได้เรียกคณะทำงานเข้าประชุมวางแผนการทำงานในกรณีของทิดอาชว์และนางสาว ก. ซึ่งใช้เวลาประมาณกว่า 3 ชั่วโมง โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ออกมาเผยความคืบหน้าว่า วันนี้เป็นการเรียกประชุมกองงานต่าง ๆ เพื่อแบ่งสายงานมอบหมายภารกิจให้แต่ละกองไปสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ทำการสอบสวนนางสาว ก. และได้ข้อมูลมามากพอสมควร […]

Cambodia strongly rejects Thailand’s baseless claim over Ta Krabei Temple

กัมพูชาโต้ไทยอ้างปราสาทตาควายอยู่ในไทย

พนมเปญ 7 ก.ค.- กัมพูชาคัดค้านอย่างหนักว่า ไทยอ้างโดยไร้มูลว่า ปราสาทตาควายอยู่ในดินแดนไทย และตำหนิไทยว่าห้ามชาวกัมพูชาคล้องผ้าขาวม้าขึ้นปราสาทตาควาย เว็บไซตขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า กระทรวงกลาโหมแห่งชาติของกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์แสดงความคัดค้านอย่างหนักต่อการกล่าวอ้างอย่างไร้มูลและโอหังของสื่อไทย เจ้าหน้าที่ทหารไทย และพลเรือนชาวไทยบางกลุ่มที่ว่า ปราสาทตาควายตั้งอยู่ในดินแดนอธิปไตยของไทย แถลงการณ์ของกัมพูชาระบุว่า การกล่างอ้างดังกล่าวเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะไทยอ้างแผนที่ฝ่ายเดียวที่ไม่มีคุณค่าทางกฎหมายตามหลักการกฎหมายสากล กัมพูชายืนยันว่า ในทางภูมิศาสตร์แล้วปราสาทตาควายตั้งอยู่ในเทือกเขาดงรัก อำเภอบันเตียอัมปึล จังหวัดอุดรเมียนเจยหรืออุดรมีชัย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในดินแดนและอธิปไตยของกัมพูชา โดยเป็นไปตามกฎหมายที่ได้รับการรับรองจากสากล แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชายังระบุว่า ทหารไทยห้ามนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาคล้องผ้ากรอมาหรือผ้าขาวม้าติดธงชาติกัมพูชาขึ้นปราสาทตาควาย แต่กลับอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสวมเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับติดธงชาติไทย ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงทวิภาคีที่เคยตกลงกันไว้.-814.-สำนักข่าวไทย