แถลงการณ์ FTA Watch ย้ำม. 44 สิทธิบัตรกัญชา ไม่ได้แก้ปัญหา แต่เป็นการหมกเม็ด

สำนักข่าวไทย.29 มค..-กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch)ออกแถลงการณ์  ย้ำมาตรา 44 สิทธิบัตรกัญชา ไม่ได้แก้ปัญหา แต่เป็นการหมกเม็ด  ขอให้ภาควิชาการ ภาคประชาสังคมและสื่อมวลชนช่วยกันจับตาเรื่องนี้อย่างเข้มแข็ง เข้มข้นต่อไป


โดยแถลงการณ์มีใจความว่า  ตามที่หัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งที่ 1/2562 เรื่องแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยสิทธิบัตรและมาตรการด้านสิทธิบัตรเป็นกรณีพิเศษ โดยระบุว่า เพื่อสนับสนุนและรองรับการอนุญาตให้นำกัญชามาวิจัยด้านการแพทย์ และแก้ปัญหาข้อห่วงกังวลเกี่ยวกับคำขอสิทธิบัตรกัญชาที่กรมทรัพย์สินทางปัญญารับคำขอสิทธิบัตรที่เกี่ยวกับกัญชาเข้ามาอยู่ในระบบการพิจารณาให้สิทธิบัตรแล้วนั้น

ทางกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอ ว็อทช์) วิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 1/2562 ดังกล่าว ไม่ได้แก้ปัญหาการละเลยหน้าที่ของกรมทรัพย์สินทางปัญญาในการรับคำขอและตรวจสอบคำขอสิทธิบัตร ตาม พ.ร.บ.สิทธิบัตร แต่อย่างใด มิหนำซ้ำยังมีเงื่อนปมบางประการที่ทำให้สงสัยได้ว่านี่คือ การหมกเม็ดเอื้อประโยชน์ต่อผู้ขอสิทธิบัตรในอนาคตหรือไม่ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้


1. ข้อ 1 ตามคำสั่งฯ ระบุเพื่อประโยชน์ในการพิจารณาตรวจสอบคำขอรับสิทธิบัตรตามคำสั่งนี้ การประดิษฐ์ดังต่อไปนี้หากนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ให้ถือเป็นการประดิษฐ์ที่ไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 9 (5) แห่งพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสิทธิบัตร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535

ความในข้อนี้ เพื่อให้ชัดเจนว่ากัญชาและสารสกัดสารที่มีโครสร้างทางเคมีเดียวกัน เกลือ เอสเทอร์ และอีเทอร์ใดๆ ไม่ได้รับการคุ้มครอง แต่มีเงื่อนไขเชื่อมโยงกับข้อ 4 ในคำสั่งฯ คือ จนกว่า พ.ร.บ.ยาเสพติดปรับปรุงแก้ไขที่ให้ปลดล็อคการใช้กัญชาจะมีผลบังคับใช้เท่านั้น

การที่เนื้อหาในคำสั่งฯข้อ 1 ไม่มีการกำหนดให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาต้องดำเนินการยกคำขอที่มีลักษณะดังกล่าวในทันที ทำให้กรมฯอาจประวิงเวลาไม่ดำเนินการใดๆต่อคำขอรับสิทธิบัตรในลักษณะดังกล่าว ซึ่งแตกต่างจากคำสั่งข้อ 2 ที่ชัดเจนกว่า


อีกทั้ง คำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับนี้ ไม่ได้แก้ไขปัญหาสำคัญที่สุดกรณีสิทธิบัตร คือ กรมทรัพย์สินทางปัญญาไม่ใช้มาตรา 28 ตาม พ.ร.บ.สิทธิบัตรในการตรวจสอบคำขอสิทธิบัตรตั้งแต่ต้น ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการละเลยหน้าที่ ไม่เพียงเท่านั้น ยังเท่ากับเปิดทางให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาไม่ปฎิเสธคำขอสิทธิบัตรที่ขัดมาตรา 9(1)(2) (3) (4) และ (5) โดยใช้มาตรา 28 ตั้งแต่ต้นอย่างเคร่งครัด ซึ่งนี่เป็นสาเหตุพื้นฐานที่ทำให้มีคำขอสิทธิบัตรคั่งค้างและล้นเกินความสามารถในการทำงานของผู้ตรวจสอบ

2. ข้อ 2 ตามคำสั่งฯ เพื่อแก้ปัญหาคำขอสิทธิบัตรที่กรมฯได้ประกาศโฆษณาไปแล้วที่ยังไม่ได้ยื่นคำขอให้ตรวจสอบ กรมฯสามารถแจ้งยกเลิกคำขอ/ตัดข้อถือสิทธิ์เกี่ยวกับกัญชาตามข้อ 1 โดยไม่ต้องรอ 5 ปีตามมาตรา 29 เดิม กรณีที่มีการตัดข้อถือสิทธิ์บางข้อออก ผู้ยื่นมีเวลา 90 วันในการดำเนินการกรณียกคำขอผู้ยื่นสามารถขออุทธรณ์ได้อีกภายในเวลา 60 วัน ตามมาตรา 72 

ซึ่งนี่เป็นข้อดีเพียงข้อเดียวในประกาศที่ใช้แก้ปัญหาที่ผู้ขอสิทธิบัตรที่เกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ทางเคมีหรือยามักจะถ่วงเวลายื่นตรวจสอบออกไปให้ได้มากที่สุด คือเกือบ 5 ปีเต็ม เพื่อลากการคุ้มครองชั่วคราวออกไปด้วยการยื่นโนติสไปตามหน่วยงานหรืออุตสาหกรรมยาชื่อสามัญไม่ให้วิจัย พัฒนา หรือขายผลิตภัณฑ์ที่ตัวเองยื่นขอสิทธิบัตรอยู่ แม้จะไม่แน่ใจว่าในที่สุดสิทธิบัตรนั้นสมควรได้หรือไม่ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม การที่ให้อธิบดีสั่งยกคำขอ หรือสั่งให้ผู้ขอรับสิทธิบัตรตัดข้อถือสิทธิเกี่ยวกับกัญชาตามข้อ 1 ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากอธิบดี และยังให้ผู้ขอรับฯอาจอุทธรณ์ได้ตามมาตรา 72 ทำให้ไม่เป็นการยกคำขอในทันที ทำให้ยืดระยะเวลาการดำเนินการออกไปอีกโดยไม่มีการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด

3. ข้อ 4 ในคำสั่งฯ มีใจความสำคัญที่สุด เนื่องจากเมื่อมีการแก้ไขเพิ่มเติมให้มีการนำกัญชาไปศึกษาวิจัยเพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์ ข้อ 1 และ 2 จะถูกยกเลิก และคำขอดังกล่าวจะได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาใหม่อีกครั้ง โดยถือว่าไม่ขัดมาตรา 9 แล้ว 

อย่างไรก็ตาม การเขียนคำสั่งที่ไม่ชัดเจน เป็นที่สงสัยว่า อาจเกิดกรณีที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาใช้การประวิงเวลาในการดำเนินการตามข้อ 1 และ 2 เพื่อรอคอยการแก้ไข พ.ร.บ.ยาเสพติด  ในขณะที่ภาคประชาสังคมต้องการให้ พ.ร.บ.ยาเสพติดได้รับการแก้ไขโดยเร็ว แต่จะกลายเป็นการปลดล็อคให้แก่สิทธิบัตรกัญชาโดยอัตโนมัติ

4.ข้อ 5 ตามคำสั่งฯที่ยกเลิกและแก้ไขมาตรา 30 ตาม พ.ร.บ.สิทธิบัตรนั้น นี่น่ากังวลว่า เป็นการหมกเม็ดของกรมทรัพย์สินทางปัญญาและพวกที่เกี่ยวข้องหรือไม่

1) มีการแก้ไขมาตรา 30 เดิมที่ให้อำนาจอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาสามารถยกเลิกคำขอที่ประกาศโฆษณาแล้วได้เลย โดยไม่ต้องรอการยื่นคำขอให้ตรวจสอบการประดิษฐ์

2) แต่มาตรา 30 ใหม่กลับเขียนว่า อธิบดีสามารถยกเลิกถ้าไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตราต่างๆ (5/9/10/11/14) ได้เมื่อ ได้ประกาศโฆษณาและยื่นให้ตรวจสอบการประดิษฐ์แล้ว

นั่นหมายความว่า ต้องรออย่างน้อย 5 ปีจนกว่าผู้ขอที่คำขอประกาศโฆษณาจะยื่นขอให้ตรวจสอบการประดิษฐ์ 

ดังนั้น ทางกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch) จึงมองว่า การออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 1/2562 เรื่องสิทธิบัตรกัญชา ไม่ได้แก้ปัญหา แต่หมกเม็ด จึงขอให้ภาควิชาการ ภาคประชาสังคมและสื่อมวลชนช่วยกันจับตาเรื่องนี้อย่างเข้มแข็ง เข้มข้นต่อไป 29 ม.ค.2562.-  สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]

สามียิงภรรยาดับคารถ ซอยเพชรเกษม 67

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจปิดล้อมจับกุมสามีวัย 40 ยิงภรรยาวัย 36 เสียชีวิตคารถ ก่อนหนีไปหลบในบ้าน ซอยเพชรเกษม 67 ตรวจค้นที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 3 กระบอก ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุ พบศพภายในรถเก๋ง HRV ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายมีพาพัฒน์ อายุ 40 ปี สามี ส่วนผู้เสียชีวิต น.ส.นันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยา ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านพัก จึงตรึงกำลังปิดล้อมบ้านพักซึ่งลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ระหว่างนั้นญาติของผู้ตายได้เดินทางมาเพื่อสอบถามเหตุ ทันทีที่รับรายงานจากตำรวจ ญาติก็มีสีหน้าเครียด น้ำตาคลอ ให้ข้อมูลว่านายมีพาพัฒน์ คบหากับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ตำรวจปิดล้อมพื้นที่นานกว่า […]

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

ข่าวแนะนำ

ทหาร-ตร.วางกำลังแน่นตลอดแนวชายแดน จ.สระแก้ว

สระแก้ว 10 มิ.ย. – ทหารพราน-ตำรวจ วางกำลังแน่นตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว เพิ่มความเข้มงวดลาดตระเวน-ตั้งจุดตรวจคัดกรอง ขณะที่ตลาดโรงเกลือยังเปิดทำการ แต่บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา ด้านชาวบ้าน จ.บุรีรัมย์ เริ่มคลายกังวล ออกทำไร่ทำสวน ใช้ชีวิตปกติ บรรยากาศบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ อ.โคกสูง และ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ยังคงเคร่งครัดมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 12-13 ตชด. จัดกำลังออกลาดตระเวนตลอดแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โคกสูง ซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนเพียงไม่กี่กิโลเมตร นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ได้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบตามแนวถนนสีเพ็ญ เส้นทางที่เชื่อมชายแดนไทยกับกัมพูชา ใกล้ตลาดโรงเกลือ จุดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ แม้จะมีการวางกำลังแน่นหนา แต่ในช่วงเช้าวันนี้ (10 มิ.ย.) ตลาดโรงเกลือยังคงเปิดทำการตามปกติ พ่อค้าแม่ค้านำสินค้านานาชนิดมาวางขาย เช่น เสื้อผ้า รองเท้า และของใช้ทั่วไป มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินจับจ่ายซื้อของอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บรรยากาศโดยรวมยังค่อนข้างเงียบเหงากว่าช่วงก่อนหน้า เนื่องจากความวิตกของนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับความปลอดภัย หลังเกิดข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ ทางการมีการปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดด่านพรมแดน ส่งผลให้การเดินทางเข้า-ออกของนักท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด บรรดานักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งยังคงรู้สึกไม่มั่นใจในการเดินทางเข้ามาในพื้นที่ชายแดน […]

ปิดตำนาน “บิ๊กสุ” นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย

กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชรา สิริอายุ 91 ปี นอกจากบทบาททางการทหารแล้ว พล.อ.สุจินดา ยังมีส่วนสำคัญต่อสถานการณ์การเมืองไทย.-สำนักข่าวไทย

จ่อให้ออกจากราชการไว้ก่อน “พญ.” แอบอ้างสั่งยานอนหลับ

10 มิ.ย.- จ่อสั่งแพทย์หญิงคนดัง ให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีถูกจับกุม แอบอ้างคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ พบก่อนหน้านี้เคยถูกสั่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ปมเอี่ยวจีนเทา กรณีตำรวจ ปส. และ อย. เข้าตรวจสอบคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ ก่อนเชื่อมโยงถึงแพทย์หญิงคนดัง พร้อมจับกุมชายรายหนึ่ง ซึ่งรับเป็นผู้ดูแลห้องพักภายในแฟลตตำรวจ ยึดของกลางกลุ่มยานอนหลับ บรรจุอยู่ในกล่องลังกว่า 10 กล่อง เบื้องต้นพบเงินหมุนเงินกว่า 80 ล้านบาท และมีเงินหมุนเวียนร่วมกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกว่า 400 ล้านบาท ล่าสุดมีรายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง จากการตรวจสอบพบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2565 มีผู้เสียหายร้องเรียนแพทย์หญิงคนดังเกี่ยวกับกรณีที่ผู้เสียหายได้นำเงินมามอบให้ เพื่อให้ช่วยต่อวีซ่าการพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการฟ้องศาลคดีอาญา โดยศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 7 ปี และมีการยื่นอุทธรณ์ ซึ่งทราบว่าสามารถตกลงกับคู่กรณีได้ อย่างไรก็ตาม กระบวนการทางวินัยยังคงดำเนินต่อ โดยทางโรงพยาบาลตำรวจ มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงในกรณีนี้ และอยู่ระหว่างการนัดประชุมเพื่อพิจารณาผลวินัยร้ายแรงในเร็วๆ นี้ ส่วนกรณีที่มีการจับกุมสั่งซื้อ-ขายยานอนหลับ ในวันนี้ ล่าสุดชุดทำคดีได้ทำหนังสือส่งมายังต้นสังกัดว่า แพทย์หญิงคนดัง ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1 และมีความเห็นว่า หากให้รับราชการต่อไปอาจเกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ซึ่งจะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง […]

นายกฯ คุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี

ทำเนียบ 10 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำผลเจรจาชายแดนไทย-กัมพูชา เรียบร้อยดี เผยคุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี งัดเทคนิค จริงใจเจรจา จนกัมพูชาปรับทัพ บอกรับทราบ “สนธิ” ยื่นหนังสือจี้รัฐบาลรักษาอธิปไตย ลั่นแก้ทีละปม ไม่เหมารวม MOU 44 พร้อมขอบคุณ จนท.ทุกหน่วย ขอ ปชช.มั่นใจไม่เกิดความรุนแรงแน่นอน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายผลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการคลี่คลายสถานการณ์ ที่มีความขัดแย้งกัน และปฏิบัติงานร่วมกันหลายภาคส่วน ซึ่งผลออกมาค่อนข้างสงบเรียบร้อยดี โดยในระดับนโยบาย รัฐบาลได้ให้หน่วยงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะกองทัพในพื้นที่ ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ตามกรอบความร่วมมือทวิภาคี ได้พูดคุยกันภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ย้ำว่าทุกหน่วยงานได้มีการพูดคุยกัน ทั้งไทยและกัมพูชา และตนเองก็ได้พูดคุยกับพลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และสมเด็จฯฮุน เซน ประธานองคมนตรี ประธานวุฒิสภากัมพูชา ก็มีการประสานงานและเจรจากันเพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ และผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน […]