29 ก.ค. – ไทย-กัมพูชา ตกลงหยุดยิงพร้อมกัน 24.00 น.ที่ผ่านมา โดยไม่มีเงื่อนไข ถือเป็นก้าวแรกสำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ รวมถึงฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง ส่วนเช้าวันนี้ (29 ก.ค.) มีการประชุมระหว่างแม่ทัพของทั้งสองประเทศ และการประชุมระดับรัฐมนตรีกลาโหม 4 ส.ค.
วานนี้ (28 ก.ค.) ที่ประชุมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่มีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เป็นคนกลางในการเจรจา สมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี
ที่ประชุมบรรลุข้อตกลง 3 ข้อโดยเฉพาะ “ข้อตกลงหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข” มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ และฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง เช้าวันนี้ (29 ก.ค.) มีการจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างผู้บัญชาการกองกำลังของ 2 ประเทศ ได้แก่ กองทัพภาคที่ 1 และ 2 ของฝ่ายไทย และกองทัพภาคที่ 4 และ 5 ของฝ่ายกัมพูชา เวลา 07.00 น. จากนั้นจะมีการประชุมกับผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร โดยมีประธานอาเซียนเป็นผู้จัด หากทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน
ส่วนวันที่ 4 ส.ค. 68 จะมีการจัดการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป โดยกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังตกลงฟื้นฟูช่องทางการสื่อสารโดยตรงระหว่างนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของแต่ละประเทศ
นอกจากนี้ นายอันวาร์ ประธานอาเซียน ยังได้จัดตั้งทีมผู้สังเกตการณ์เพื่อตรวจสอบและรับรองการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงนี้ด้วย ทั้งนี้ นายอันวาร์ กล่าวขอบคุณและพอใจในบรรยากาศของการหารือที่เต็มไปด้วยความจริงใจของทั้งสองฝ่าย ที่ได้แสดงความต้องการหยุดยิงทันที เป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการสร้างสันติภาพ การเจรจา และเสถียรภาพในภูมิภาค
ฮุน มาเนต แถลงหยุดยิงทันที
ขณะที่ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แถลงว่า ทั้งสองฝ่ายหวังที่จะหยุดยิงกันโดยทันที เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียที่เกิดจากการสู้รบ รวมทั้งส่งผลให้คนของทั้ง 2 ประเทศ ราว 300,000 คน ต้องอพยพจากที่อยู่อาศัย ขอบคุณนายกฯ อันวาร์ อิบราฮิม ที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม และยังขอบคุณประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รัฐบาลจีน ที่ร่วมดำเนินความพยายามในการช่วยหาทางออก และขอบคุณนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ร่วมหารือกันอย่างสร้างสรรค์
“ภูมิธรรม” ยันเจรจาหยุดยิง มอบผู้นำทหาร 2 ฝ่ายหาข้อยุติร่วมกัน
ขณะที่ฝ่ายไทย นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเจรจาหยุดยิงกับทางกัมพูชา ว่าการคุยกันวันนี้ไม่ได้คุยถึงเรื่องการเปิดด่าน แต่คุยเรื่องการหยุดยิงเพื่อลดความเสียหายของพลเมือง และจากนี้จะเข้าสู่กลไกของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC)
ส่วนผลสรุปการหารือโดยรวม ฝ่ายคนกลาง คือ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ได้แจ้งให้ทางอาเซียนทราบและทุกฝ่ายดีใจกับข้อสรุป ขณะที่จีนและสหรัฐอเมริกา รู้สึกพึงพอใจ ส่วนไทยก็รู้สึกว่าได้ยุติปัญหาเรื่องการสูญเสียชีวิตของพลเมือง
นายภูมิธรรม ยังเล่าว่า ในที่ประชุมเจรจา ไทยได้พูดถึงอะไรบ้าง นายภูมิธรรมได้เล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าไทยอยู่มาอย่างสงบ แต่เมื่อเกิดความขัดแย้งทำให้ลุกลามบานปลาย และพยายามหาข้อยุติ ซึ่งพูดคุยได้ข้อยุติร่วมกันว่าจะไม่พูดเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้า แต่ตอนนี้จะพูดถึงเรื่องความเร่งด่วนคือการหยุดยิง เพื่อไม่ให้พลเรือนไทยเกิดความสูญเสีย เชื่อว่าประชาคมโลกเข้าใจเรา และรู้ว่าไทยเป็นฝ่ายถูกกระทำ ผลการพูดคุยวันนี้ถือว่าบรรลุข้อตกลง ไม่สูญเสียเอกราชของประเทศ และไม่มีอะไรกระทบกระเทือนเรื่องเขตแดนหรืออธิปไตย
ด้าน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ในส่วนของกองทัพพร้อมดำเนินการตามผลการเจรจา และพร้อมปกป้องประชาชนและอธิปไตยของชาติอย่างเต็มความสามารถ และขณะนี้ไม่พบการรุกล้ำอธิปไตย
“มาริษ” ชี้นิมิตหมายดี “กัมพูชา” ยอมกลับมาพูดคุยทวิภาคี
ขณะที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาชาวโลกมีภาพลักษณ์ที่ดีมาโดยตลอดว่าเราเป็นประเทศที่สนับสนุนความสันติ และเราสามารถทำให้กัมพูชากลับมาพูดคุยผ่านกลไกแบบทวิภาคี
“ทรัมป์” ต่อสาย “ภูมิธรรม” ชื่นชมไทยเป็ยตัวอย่าง ส่งผลดีเจรจาภาษี
เวลา 21.03 น. ที่ บน.6 กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งว่านายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะโทรหานายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ทำให้นายภูมิธรรมที่เพิ่งกลับจากการเจรจาชายแดนไทย-กัมพูชา ใช้เวลาที่ห้องรับรองพูดคุยนานประมาณครึ่งชั่วโมง
จากนั้นนายภูมิธรรม เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้โทรมาแสดงความชื่นชมยินดีว่าประเทศไทยเราได้เต็มใจที่จะรักษาสันติภาพให้เกิดขึ้นใน 2 ประเทศ และชื่นชมในสิ่งที่เราทำว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งตนเองได้ตอบไปว่ายืนยันถึงความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาที่เป็นหุ้นส่วนด้วยกัน และชื่นชมประธานาธิบดีทรัมป์ ที่มีบทบาทในการเจรจาบทบาทระหว่างประเทศทำให้เกิดความร่วมมือนำไปสู่สันติสุข และเป็นการแก้ไขปัญหาที่มุ่งเน้นสันติสุข นายโดนัลด์ ทรัมป์ ถือเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเรื่องนี้ ขณะเดียวกันประชาคมโลกทั้งหมดชื่นชมประเทศไทย ที่ก้าวไปสู่การไม่ทำความรุนแรง และทำให้ประชาชนประเทศไทยไม่สูญเสียไปมากกว่านี้ ทำให้การดำเนินการต่างๆ ไปได้
“หลังจากนี้จะเริ่มเจรจาภาษี ซึ่งจะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ และเป็นสิ่งที่เราจะได้รับอย่างดียิ่ง โดยเขาจะทำให้ดีที่สุดและเท่าที่มากและมากได้ เขาก็อยากมาเห็นเมืองไทย ในฐานะที่เราเองเป็นประเทศที่น่าชื่นชม และมีสิ่งดีๆ หลายอย่าง ทางวัฒนธรรมความรู้สึกนึกคิดต่างๆ ซึ่งเขาชื่นชมเรื่องนี้และผมก็ชื่นชมเขาด้วยใจ และสิ่งที่ผมได้รับจากเขาครั้งนี้ที่มีส่วนช่วยให้ประเทศไทยพ้นจากวิกฤต เป็นความรู้สึกในใจที่มีต่อกัน”
ส่วนการเจรจาภาษีจะเป็นบวกกับประเทศไทยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เท่าที่ฟังคิดว่าน่าจะเป็นบวกเยอะ เพราะเขาปรารถนาอยากให้เราสร้างสันติภาพในอาเซียนไปด้วยกัน และการพูดคุยกับอาเซียนทั้งหมดก็มีความรู้สึกดีต่อกัน ดังนั้น นายทรัมป์ เห็นว่าเป็นประโยชน์ เขาชื่นชมสิ่งที่เรากล้าตัดสิน ใจหาทางออก และเป็น สิ่งที่ดีกับประชาชน ทั้งนี้ เชื่อว่าเขาน่าจะเริ่มต้นจากความรู้สึกที่ดีที่จะสร้างสันติภาด้วยกัน และประชาชนคนไทย ก็จะได้ผลประโยชน์สูงสุด อีกอย่างประธานาธิบดีมาคง ก็ชื่นชมยินดีด้วยเช่นกัน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความระบุว่า ได้พูดคุยกับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย และนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา
“ผมรู้สึกยินดีที่จะประกาศว่า หลังจากที่ผมได้เข้ามามีบทบาท ทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงและสันติภาพ ขอแสดงความยินดีกับทุกฝ่าย การยุติสงครามครั้งนี้ช่วยชีวิตผู้คนไปนับพันราย ผมได้สั่งการให้ทีมการค้าของผมเริ่มต้นการเจรจาการค้าอีกครั้ง และในช่วงเวลาเพียง 6 เดือน ผมสามารถยุติสงครามได้หลายแห่ง ผมภูมิใจที่ได้เป็นประธานาธิบดีแห่งสันติภาพ”.-สำนักข่าวไทย