คสช.ออกมาตรา 44 คืนคลื่นทีวีดิจิทัล ยืดเวลาจ่ายคลื่น 900 MHz

กทม. 11 เม.ย. – คนไทยรอลุ้นใช้ 5G หลัง คสช. ออกมาตรา 44 ยืดเวลาจ่ายค่าคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์-คืนไลเซนส์ ทีวีดิจิทัล ด้านเอกชนสำรองค่าใช้จ่ายเพิ่มรับกฎหมายคุ้มครองแรงงานฉบับใหม่





หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่ง ที่ 4/2562 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม โดยคำสั่งออกประมาณเที่ยงเศษ และ หลังจากนั้น นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือ กสทช. ก็ออกมาแถลง ทำความเข้าใจถึงแนวทางปฏิบัติ คำสั่งนี้ก็มีส่วนเกี่ยวข้อง 2 กลุ่มผู้ประกอบการ คือ กลุ่มทีวีดิจิทัล หรือ คลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์ ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเทคโนโลยี ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผลประกอบการส่วนใหญ่ขาดทุน และเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการค่ายมือถือ ทั้ง 3 ค่ายยักษ์ ที่ประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ไปก่อนหน้านี้ ใจความหลักๆ คือ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลคืนคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์ แล้วนำมาประมูลเพื่อให้เกิดการพัฒนา 5G โดยกลุ่มที่จะประมูล คลื่น 700 ก็เป็นกลุ่มโทรคมนาคมค่ายมือถือ ดังนั้น เพื่อลดภาระและจูงใจให้เกิดการประมูลคลื่น 700 จึงขยายเวลาชำระค่าธรรมเนียมของค่ายมือถือคลื่น 900 เพื่อจะได้มีทุนรอนมาประมูลคลื่น 700 แต่ทั้งนี้จะผ่อนผันให้เฉพาะผู้เข้าประมูลคลื่น 700 เท่านั้น


โดย กสทช. ระบุว่าการประมูลคลื่นความถี่ 700 เมกกะเฮิรตซ์ทั้ง 45 เมกกะเฮิรตซ์ที่จะนำออกประมูลได้ภายในปลายเดือนมิถุนายนนี้ และประเมินว่าจะมีผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลจะคืนใบอนุญาต 4-5 ราย

สำหรับ คำสั่ง คสช.ส่งผลให้ผู้ประอบการทีวีดิจิทัลไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตที่เหลืองวดที่ 5 และ 6 รวม 13,622 ล้านบาท หรือร้อยละ 30 ของมูลค่าใบอนุญาต และให้คืนใบอนุญาตได้  โดยยต้องทำหนังสือแจ้งไป กสทช.ภายใน 30 วัน และ กสทช.จะตั้งอนุกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์ในการจ่ายค่าชดเชยที่เหมาะสม ส่งผลให้เหลือช่องทีวีน้อยลงและอุตสาหกรรมสามารถทำธุรกิจต่อไปได้

ในรายละเอียดของ คำสั่ง คสช.ในส่วนของทีวีดิจิทัล 22 ราย ยังระบุด้วยว่า ผู้รับใบอนุญาตไม่ต้องนำเงินค่าประมูล 2 งวดสุดท้าย คือ งวดที่ 5 และ 6 มาชำระให้กับ กสทช. ส่วนรายใดที่นำเงินมาชำระไปแล้ว ก็มาขอคืนได้ และรายใดที่ยังชำระงวดที่ 4 ไม่ครบตามจำนวน ก็ให้นำเงินมาชำระค่าประมูลให้ครบตามถ้วน และตามวันเวลาครบรอบการชำระค่าประมูล ซึ่งจะครบชำระในเดือน พ.ค.2562 นี้

ส่วนค่าเช่าโครงข่ายทีวีดิจิทัล (MUX) นั้น กสทช.จะช่วยสนับสนุนออกเงินค่าใช้จ่ายให้ โดยจะนำเงินไปชำระให้ผู้ประกอบการโครงข่าย คือ สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 กรมประชาสัมพันธ์ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) รวมเป็นเงินปีละ 1,960 ล้านบาท จนสิ้นสุดอายุใบอนุญาต

ส่วนผู้ประกอบการโทรคมนาคมนั้น เอไอเอส ดีแทค และทรู ที่ประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ไปก่อนหน้านี้ รวมเงินประมูลประมาณ 190,000 ล้านบาท จะได้รับความช่วยเหลือด้วยการขยายระยะเวลาการชำระเงินค่าประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ออกไปจาก 4 งวดเป็น 10 งวด โดยจากเดิมต้องจ่ายหมด แยกเป็น เอไอเอสปี 2562 ทรู จ่ายงวดสุดท้าย 2568 ส่วนดีแทคที่ประมูลหลังสุด งวดสุดท้ายปี 2570

ไปอีก 1 เรื่องใหญ่ และใหม่เป็นผลดีต่อผู้ใช้แรงงานภาคเอกชน ที่ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ฉบับที่ 7 จะเริ่มมีผลบังคับใช้ วันที่ 5 พ.ค.นี้ เรื่องนี้ มีการสอบถามกันในที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัท ใน กลุ่ม ปตท. ว่าจะมีผลกระทบต่อการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายอย่างไร เพราะตามกฎหมายใหม่ลูกจ้างได้ผลตอบแทนดีขึ้น เช่น กรณีการเปลี่ยนแปลงตัวนายจ้างต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง-ลูกจ้างมีสิทธิลาเพื่อธุระอันจำเป็นปีหนึ่งไม่น้อยกว่า 3 วันทำงาน (โดยไม่โดนหักค่าจ้าง) เพิ่มอัตราค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบ 20 ปีขึ้นไป ให้นายจ้างจ่าย 400 วัน จากเดิม 300 วัน และกำหนดให้วันลาคลอด ให้รวมถึงวันลาเพื่อตรวจครรภ์ก่อนคลอดบุตรด้วย โดยสามารถลาเพื่อคลอดบุตรได้ไม่เกิน 98 วัน ซึ่งรวมถึงวันลาเพื่อตรวจครรภ์ก่อนคลอดบุตรและให้นับรวมวันหยุดที่มีระหว่างวันลาด้วย จากเดิมลาคลอดบุตรได้ 90 วัน ซึ่งประเด็นเหล่านี้ เอกชนต้องตั้งสำรองจ่ายในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น ปตท.สผ. ตั้งสำรองจ่าย 572 ล้านบาท จีพีเอสซี 40.3 ล้านบาท ไออาร์พีซี 760 ล้านบาท จีซี 800 ล้านบาท ไทยออยล์ 300 ล้านบาท ใครตั้งสำรองจ่ายมากน้อยขึ้นกับ พนักงาน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ ปตท.ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจจึงไม่ได้อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองแรงงาน เพราะใช้ พ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ จึงไม่ต้องตั้งสำรองจ่ายในส่วนนี้ มากขึ้น แต่จากบริษัทลูกมีภาระสำรองจ่ายเพิ่มขึ้นก็จะทำให้กระทบมายังงบดำเนินการรวมของ ปตท. ในไตรมาส 2 นี้ ประมาณ 2,900 ล้านบาท .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

ปลัด อบต. ถูกหลอกลงทุน สูญ 4 ล้าน

บุรีรัมย์ 5 ก.ค. – ปลัด อบต.สาวชาวบุรีรัมย์ ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นหมอเกษียณ ทักมาจีบ แล้วหลอกร่วมลงทุนอ้างผลตอบแทนสูง หลงเชื่อสูญ 4 ล้าน นำที่ดินไปจำนอง รถเข้าไฟแนนซ์ นางสาวปลา ปลัด อบต.แห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ นำหลักฐานข้อความแชทสนทนา และรูปโปร์ไฟล์ของชายที่เชื่อว่าเป็นอดีตนายแพทย์ รพ.ดัง ร้องเรียนสื่อหลังถูกหลอกลวงฉ้อโกง โดยอีกฝ่ายทักเฟซบุ๊กมาจีบ พร้อมหยอดคำหวาน ทำให้หลงเชื่อ ก่อนหลอกล่อให้ร่วมลงทุนผ่านแพลตฟอร์มหนึ่ง อ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูง ยิ่งลงทุนมากยิ่งผลตอบแทนมาก แม้จะลงทุนได้ยอดเงินสูงถึง 28 ล้าน แต่เบิกมาไม่ได้ สุดท้ายสูญเงินไปถึง 4 ล้านบาท แล้วถูกบล็อกการติดต่อ ทำให้เดือดร้อนหนัก เพราะเงินที่นำไปลงทุน เป็นเงินเก็บสะสม นำรถยนต์ไปเข้าไฟแนนซ์ และนำที่ดินไปจำนอง แจ้งความตำรวจแล้ว พบบัญชีที่โอนเงินเป็นบัญชีม้า พร้อมฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ อย่าหลงเชื่อใครง่ายๆ.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

เด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่

กทม. 5 ก.ค. – สั่งเด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่ ขณะที่เช้านี้เจ้าหน้าที่คุมตัว 72 นักพนัน ไปฝากขังศาลแขวงดอนเมือง พบส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.2 รรท.ผบก.น.2 ลงนามในคำสั่ง กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ที่ 183/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเมื่อวันที่ 4 ก.ค.68 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าทำการสืบสวนสถานที่ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าเป็นบ่อนการพนัน บริเวณอาคารพาณิชย์ กลางซอยพหลโยธิน 52 แยก 3 แขวงคลงถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และได้จับกุมผู้ต้องหากับพวกในข้อหา “ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันไฮโล เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต”และ “ร่วมกันเข้าเล่นหรือเล่นการพนันโฮโลเพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของสน.บางเขน เพื่อให้การบริหารงานในภาพรวมของ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเรียบร้อย […]

ค้นบ้านพักสีกา คนสนิท “ทิดอาชว์” พบจีวรหลายผืน

กทม. 5 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” รับเมื่อวาน ปปป. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำหมายศาลค้นบ้านพักสีกา ก.ไก่ คนสนิท “ทิดอาชว์” อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ พบภายในบ้านมีจีวรหลายผืน เวลา 10.00 น. พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บช.ก. เปิดเผยถึงความคืบหน้า การสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลและหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับวัดตรีทศเทพ ว่าเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านดังของสีกาไฮโซ อักษรย่อ ก.ไก่ หญิงสาวคนสนิทของทิดอาชว์ เพื่อค้นหาพยานหลักฐาน พร้อมสอบปากคำสีกาคนดังกล่าว จากการตรวจค้นภายในบ้านพัก พบพยานหลักฐานจำนวนหนึ่ง โดย 1 ในนั้นเป็นจีวรพระหลายพื้น แต่จะเป็นของพระรูปไหนอย่างไร ยังไม่ทราบ เพราะเจ้าตัวยังไม่เปิดเผย จากการสอบปากคำสีกา ก. ให้การเป็นประโยชน์เป็นที่น่าพอใจ สามารถขยายผลนำไปสู่การสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตในอนาคตได้ นอกจากนี้ สีกาไฮโซ ก. ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ได้ ซึ่งถือว่าเป็นให้ความร่วมมือในทิศทางที่ดี อย่างไรก็ตาม หลังหมดเวลาตรวจค้น 18.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว […]