“อุตตม” มั่นใจผลงานดีน่าได้รับการสนับสนุน

กรุงเทพฯ 29 ม.ค. – “อุตตม” อำลาข้าราชการ พร้อมฝากสานงานนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 มั่นใจผลงานที่ทำเป็นเรื่องดี มีประโยชน์จริง และน่าจะได้รับการสนับสนุนในอนาคต 



นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แถลงภายหลังประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่ออำลาตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมฝากข้าราชการและหน่วยงานภายใต้สังกัดช่วยสานต่องานสำคัญ ๆ ต่อเนื่องไปตามนโยบายขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0 และการพัฒนาเอสเอ็มอี พัฒนาคนและนวัตกรรม เพื่อให้ประเทศไทยมีความก้าวหน้าทัดเทียมโลกทันโลกและในทิศทางที่ยั่งยืน เพราะในระบบเศรษฐกิจมีอุตสาหกรรมอยู่อย่างชัดเจน และการพัฒนาทุกด้านยังไม่สิ้นสุดจะต้องเดินหน้าต่อไป เช่น ด้านเอสเอ็มอี ต้องการช่วยกลุ่มผู้ประกอบการไมโครเอสเอ็มอี และฟื้นฟูผู้ประกอบการที่ล้มไปแล้ว ต้องการให้การช่วยเหลือเข้มข้นยิ่งขึ้น การทำงานต้องต่อเนื่องและทำให้เร็วพอสมควร ซึ่งที่ผ่านมาทำได้เร็วเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ต้องการให้เร็วและกว้างยิ่งขึ้น เพราะถ้าทำงานช้าจะไม่ทันการ และภาคอุตสาหกรรมเป็นหัวใจของเศรษฐกิจ ซึ่งหลายประเทศประสบผลสำเร็จในการยกระดับประเทศไม่ว่าจะเป็นจีน มาเลเซีย และสิงคโปร์  


“นโยบายหรือสิ่งใดที่ดำเนินการในปัจจุบันและเป็นสิ่งที่ดี เช่น อุตสาหกรรม 4.0 อุตสาหกรรมเป้าหมาย การดูแลด้านการก่อมลพิษ ยุทธศาสตร์ใหม่ ยานยนต์ไฟฟ้า E Factory เป็นต้น  ทำต่อไปเลยไม่ต้องคิดว่า รัฐบาลไหนจะมา  เรื่องเหล่านี้เป็นประโยชน์กับคนไทยและประเทศ ส่วนรัฐบาลหน้าก็มาว่ากัน แต่คิดว่า ด้วยตัวมันเอง หากมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเห็นคิดว่ามีแรงสนับสนุนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นค่อนข้างมั่นใจว่าเรื่องที่ทำดีมีประโยชน์จริง ๆ น่าจะได้รับการสนับสนุนในอนาคต” นายอุตตม กล่าว  

นายอุตตม กล่าวว่า วันนี้ (29 ม.ค.) ทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นวันสุดท้าย ส่วนผู้ที่จะมาทำหน้าที่รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมนั้น เป็นเรื่องที่อยู่ในดุลพินิจของนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณา  

สำหรับรายละเอียดงานที่ฝากให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมและข้าราชการหน่วยงานในสังกัด ช่วยกันขับเคลื่อนต่อไป  เช่น การพัฒนา 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น โครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV การพัฒนาเทคโนโลยี การขับเคลื่อนศูนย์ปฎิรูปอุตสาหกรรมหรือ Industry Transformation Center:ITC การพัฒนาเอสเอ็มอีและธุรกิจสตาร์อัพและนวัตกรรมผ่านบริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ InnoSpace (Thailand) Co., Ltd.  การพัฒนา E factory  การพัฒนาคน เป็นต้น การขับเคลื่อน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เพราะหากอุตสาหกรรมเป้าหมายไม่ขับเคลื่อนการมุ่งไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ที่จะช่วยปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศก็จะเกิดขึ้นไม่ได้ ซึ่งขณะนี้ปัญหามลพิษเกิดขึ้น กระทรวงอุตสาหกรรมไม่เพียงดูแลผู้ประกอบการโรงงาน ขอให้ใช้โอกาสนี้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรถ EV และยังได้ขอความร่วมมือให้ทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) มาร่วมยกร่างกฎหมายดูแลเรื่องมลพิษดูแลสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรมที่เชื่อมต่อกับการผลิต EV  ซึ่งทางกระทรวงพลังงานพร้อมจะสนับสนุนนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป 


สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายอื่น ๆ เช่น อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ซึ่งที่ผ่านมาให้มีการขยายผลมากขึ้น และเกี่ยวข้องกับการพัฒนาคน โดยสร้างแพลทฟอร์มในการเสริมสร้างทักษะใหม่ให้แรงงาน บุคลากรของประเทศให้ตอบโจทย์อุตสาหกรรมยุค 4.0 โดยมีภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม ส่วนการสร้างแรงจูงใจสามารถนำเสนอมาตรการมายังรัฐบาลให้พิจารณาได้แพลทฟอร์มการพัฒนาทักษะ เช่น นักศึกษาระดับอาชีวะจะเสริมทักษะองค์ความรู้ที่ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม มีการผลิตผู้ชำนาญและช่างสาขาต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชนเป็นการสร้างงานสร้างโอกาสในระดับชุมชน ล่าสุดนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย ได้เสนอในเรื่องแพลทฟอร์มการพัฒนาทักษะนักศึกษาระดับอาชีวะศึกษาแล้ว โดยการทำงานจะยึดโยงกับกระทรวงศึกษาธิการ  

ส่วนการสร้างนวัตกรรมและพัฒนาผู้ประกอบการสตาร์อัพ มีการก่อตั้งบริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ InnoSpace (Thailand) Co., Ltd. ปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้จะมีการลงนาม โดยมี Hong Kong CyberPort และหน่วยงานส่งเสริมสตาร์ทอัพของอิสราเอล ผู้นำ startup ของโลกมาร่วมมือด้วยกับฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นอีกแพลทฟอร์มในการเตรียมคนไทยในการก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 ของภาคอุตสาหกรรมไทย 

นายอุตตม ยังขอให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เป็นหน่วยงานหลักในการช่วยส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ต่อไป ที่ผ่านมาออกมาตรการช่วยเหลือ 9 มาตรการทั้งด้านการและความช่วยเหลืออื่น ๆ แต่ยังไม่พอจะต้องทำเพิ่มเติมอีก สำหรับผลการดำเนินการล่าสุดสามารถพัฒนาผู้ประกอบการใหม่เชิงสร้างสรรค์ที่เป็นธุรกิจสตาร์ทอัพ การเพิ่มผลิตภาพให้เอสเอ็มอี เพิ่มการเชื่อมโยงสู่ตลาดสากล 27,000 รายในเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา แต่ยังถือว่าเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการพัฒนาสู่อุตสาหกรรม 4.0 เท่านั้นต้องสานต่อ 

นายอุตตม ยังฝากให้ กสอ.เดินหน้าการพัฒนาโครงข่าย ศูนย์ปฎิรูปอุตสาหกรรมหรือ Industry Transformation Center:ITC  ที่มีเครื่องมือ บุคลากร รวม 102 โดยร่วมมือกับสถานบันการศึกษาให้มีการขับเคลื่อนให้กว้างขางและมีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น หากต้องการงบประมาณเพิ่มเติมสามารถขออนุมัติจากรัฐบาลได้ เพราะจะเป็นการช่วยเหลือที่เข้าถึงคนตัวเล็กในพื้นที่ และยังยึดโยงกับการพัฒนาหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industry Village:CIV) หรือ“หมู่บ้าน CIV” ล่าสุดมีจำนวนรวม 107 ชุมชน ขอให้ขยายเพิ่มเติมมากขึ้น จากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีเพียง 30 กว่าหมู่บ้านเท่านั้น 

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าพัฒนา E Factory โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในโรงงาน พร้อมเข้มงวดการดูแลสิ่งแวดล้อมรวมถึงการมีบทบาทช่วยพัฒนาชุมชนโดยรอบโรงงาน รวมถึงการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ที่มีโรงงานตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ มาก ให้ช่วยนำเทคโนโลยีและทรัพยากรที่มีอยู่นำออกมาใช้ช่วยพัฒนาชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ  

ด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ ขอให้เดินหน้าต่อไปอย่างจริงจัง เพราะเป็นจุดแข็งของประเทศ และจะช่วยปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไทยได้อย่างแท้จริง อีกส่วนที่ฝากให้ขับเคลื่อนต่อ คือ เศรษฐกิจหมุนเวียน หากดำเนินการ 2 อุตสาหกรรมนี้ได้จะช่วยให้ประเทศไทยมีพลังมากในอาเซียนในฐานะศูนย์กลางไบโอฮับของอาเซียน โดยภายใน 5 ปีน่าจะเห็นภาพนี้ชัดเจนนี้และจะต้องสร้างโอกาสสร้างอาชีพ เพื่อดึงประชาชนให้อยู่ในพื้นที่ โดยนำอุตสาหกรรมเข้าไปในพื้นที่ ไม่ใช่ดึงคนเข้าไปสู่ในอุตสาหกรรม และจะต้องเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคน 

นอกจากนี้ ยังต้องเดินหน้าเพิ่มการอำนวยความสะดวกผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ที่ผ่านมาดำเนินการไปแล้ว คือ การยกเลิกอายุใบ รง.4 เรื่องของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล มีประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมในการลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมเศรษฐกิจชีวภาพทำให้สามารถทำได้จริง ซึ่งเรื่องผ่านการพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไปแล้ว เป็นการปลดล็อคให้สามารถเดินหน้าอุตสาหกรรมชีวภาพได้แล้ว ด้านการให้บริการของหน่วยงานกระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องเร่งดำเนินการไปสู่การให้บริการแบบ e-services มากขึ้น 

นายอุตตม ยังเสนอให้มีการเดินหน้าอย่างจริงจังในเรื่องการจัดทำบิ๊กดาต้า เพราะขณะนี้มีข้อมูลมากอยู่แล้ว โดยให้เริ่มทำในกลุ่มผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมและกลุ่มเอสเอ็มอี เพราะเมื่อมีฐานข้อมูลต่าง ๆ แล้ว จะเป็นประโยชน์ในวงกว้างต่อไป 

ด้านการเชื่อมโยงกับต่างประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรมได้มีความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมโดยได้มีข้อตกลงความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม (METI) ของญี่ปุ่นภายใต้กรอบความร่วมมือพัฒนา Thailand 4.0 มีการการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมจังหวัดมิเอะ – ประเทศไทย โดยมีเป้าหมาย “ขับเคลื่อนการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารไทยให้เป็นผู้นำได้ในระดับสากล” ซึ่งได้ขอให้มีการใช้ที่สอดรับการพัฒาคนและอุตสาหกรรมเป้าหมาย และโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้ขอให้ทางปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมประสานงานทำงานต่อเนื่องโดยประสานงานกับสำนักงานอีอีซี ที่จะมีการสร้างสมาร์ทซิตี้โดยมีการเชื่อมโยงภาคอุตสาหกรรม ด้านการพัฒนาการศึกษาระดับอาชีวะศึกษาที่ขณะนี้ทางสำนักงานอีอีซีได้เดินหน้าโครงการไปแล้ว เป็นต้น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กเต่า” สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่

กทม. 19 ก.ค. – รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่ ระบุข้อมูลคดีใหม่ เป็นพระในพื้นที่ต่างจังหวัด และไม่เกี่ยวกับคดี “กอล์ฟ” พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า เพิ่งรับทราบจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับกระแสข่าวลือพาดพิงถึงพระชั้นผู้ใหญ่บางรูป ซึ่งไม่ต้องการให้มีการเผยแพร่ข่าวลือจนสร้างความเสียหาย โดยยืนยันว่าที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีพระชั้นผู้ใหญ่มีความเกี่ยวข้องสีกาอีก แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกอล์ฟ เป็นพระที่มีสมณศักดิ์สูงกว่าพระในคดีกอล์ฟ แต่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการกระทำเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับคดีกอล์ฟ และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้หลักฐานชัดเจนก่อน ส่วนการตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระโดยเฉพาะ ขณะนี้ มีประชาชนแจ้งเบาะแสมาแล้วหลายร้อยสาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังคัดแยกข้อมูล จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะมีเรื่องที่เกี่ยวกับกอล์ฟอีกหรือไม่.-412-สำนักข่าวไทย

กัมพูชา ทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก

กัมพูชา 19 ก.ค.-กัมพูชาทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก ลั่นยึดมั่นอนุสัญญาออตตาวา ประณามคัดค้าน การผลิต และแสดงความเสียใจผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมผลักดันสู่กระบวนการพิสูจน์ เพื่อรักษามิตรภาพ ความปลอดภัย ไม่กล่าวหาซึ่งกัน เมื่อวันที่ 19 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชอาณาจักรกัมพูชา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ทำหนังสือ ถึงทางการไทย เรื่อง การปฏิเสธต่อการนําเสนอของสื่อมวลชนไทยจำนวนหนึ่ง กรณีทหารไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) สำานักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิคและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (สํานักงานทุ่นระเบิด) ขอแจ้งว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีสื่อมวลชนไทยจํานวนหนึ่งได้อ้างอิงแหล่งข้อมูลจากข้าราชการระดับสูงของไทย และเผยแพร่เกี่ยวกับทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากระเบิด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 บริเวณพิกัด WA 220861 (ยืนยันโดยฝ่ายไทย) อยู่ในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) การเผยแพร่ดังกล่าว มีเจตนา กล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริงและไม่มีการตรวจสอบที่ชัดเจนว่ากัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ ในการนี้สํานักงานทุ่นระเบิด ขอชี้แจงดังนี้ 1.สํานักงานทุ่นระเบิดขอปฏิเสธและปัดตกทั้งหมดต่อเนื้อหาข่าวที่เผยแพร่โดยมีเจตนากล่าวหาว่า กัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ 2.กัมพูชา […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]