“อุตตม” มั่นใจผลงานดีน่าได้รับการสนับสนุน

กรุงเทพฯ 29 ม.ค. – “อุตตม” อำลาข้าราชการ พร้อมฝากสานงานนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 มั่นใจผลงานที่ทำเป็นเรื่องดี มีประโยชน์จริง และน่าจะได้รับการสนับสนุนในอนาคต 



นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แถลงภายหลังประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่ออำลาตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมฝากข้าราชการและหน่วยงานภายใต้สังกัดช่วยสานต่องานสำคัญ ๆ ต่อเนื่องไปตามนโยบายขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0 และการพัฒนาเอสเอ็มอี พัฒนาคนและนวัตกรรม เพื่อให้ประเทศไทยมีความก้าวหน้าทัดเทียมโลกทันโลกและในทิศทางที่ยั่งยืน เพราะในระบบเศรษฐกิจมีอุตสาหกรรมอยู่อย่างชัดเจน และการพัฒนาทุกด้านยังไม่สิ้นสุดจะต้องเดินหน้าต่อไป เช่น ด้านเอสเอ็มอี ต้องการช่วยกลุ่มผู้ประกอบการไมโครเอสเอ็มอี และฟื้นฟูผู้ประกอบการที่ล้มไปแล้ว ต้องการให้การช่วยเหลือเข้มข้นยิ่งขึ้น การทำงานต้องต่อเนื่องและทำให้เร็วพอสมควร ซึ่งที่ผ่านมาทำได้เร็วเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ต้องการให้เร็วและกว้างยิ่งขึ้น เพราะถ้าทำงานช้าจะไม่ทันการ และภาคอุตสาหกรรมเป็นหัวใจของเศรษฐกิจ ซึ่งหลายประเทศประสบผลสำเร็จในการยกระดับประเทศไม่ว่าจะเป็นจีน มาเลเซีย และสิงคโปร์  


“นโยบายหรือสิ่งใดที่ดำเนินการในปัจจุบันและเป็นสิ่งที่ดี เช่น อุตสาหกรรม 4.0 อุตสาหกรรมเป้าหมาย การดูแลด้านการก่อมลพิษ ยุทธศาสตร์ใหม่ ยานยนต์ไฟฟ้า E Factory เป็นต้น  ทำต่อไปเลยไม่ต้องคิดว่า รัฐบาลไหนจะมา  เรื่องเหล่านี้เป็นประโยชน์กับคนไทยและประเทศ ส่วนรัฐบาลหน้าก็มาว่ากัน แต่คิดว่า ด้วยตัวมันเอง หากมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเห็นคิดว่ามีแรงสนับสนุนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นค่อนข้างมั่นใจว่าเรื่องที่ทำดีมีประโยชน์จริง ๆ น่าจะได้รับการสนับสนุนในอนาคต” นายอุตตม กล่าว  

นายอุตตม กล่าวว่า วันนี้ (29 ม.ค.) ทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นวันสุดท้าย ส่วนผู้ที่จะมาทำหน้าที่รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมนั้น เป็นเรื่องที่อยู่ในดุลพินิจของนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณา  

สำหรับรายละเอียดงานที่ฝากให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมและข้าราชการหน่วยงานในสังกัด ช่วยกันขับเคลื่อนต่อไป  เช่น การพัฒนา 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น โครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV การพัฒนาเทคโนโลยี การขับเคลื่อนศูนย์ปฎิรูปอุตสาหกรรมหรือ Industry Transformation Center:ITC การพัฒนาเอสเอ็มอีและธุรกิจสตาร์อัพและนวัตกรรมผ่านบริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ InnoSpace (Thailand) Co., Ltd.  การพัฒนา E factory  การพัฒนาคน เป็นต้น การขับเคลื่อน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เพราะหากอุตสาหกรรมเป้าหมายไม่ขับเคลื่อนการมุ่งไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ที่จะช่วยปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศก็จะเกิดขึ้นไม่ได้ ซึ่งขณะนี้ปัญหามลพิษเกิดขึ้น กระทรวงอุตสาหกรรมไม่เพียงดูแลผู้ประกอบการโรงงาน ขอให้ใช้โอกาสนี้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรถ EV และยังได้ขอความร่วมมือให้ทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) มาร่วมยกร่างกฎหมายดูแลเรื่องมลพิษดูแลสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรมที่เชื่อมต่อกับการผลิต EV  ซึ่งทางกระทรวงพลังงานพร้อมจะสนับสนุนนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป 


สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายอื่น ๆ เช่น อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ซึ่งที่ผ่านมาให้มีการขยายผลมากขึ้น และเกี่ยวข้องกับการพัฒนาคน โดยสร้างแพลทฟอร์มในการเสริมสร้างทักษะใหม่ให้แรงงาน บุคลากรของประเทศให้ตอบโจทย์อุตสาหกรรมยุค 4.0 โดยมีภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม ส่วนการสร้างแรงจูงใจสามารถนำเสนอมาตรการมายังรัฐบาลให้พิจารณาได้แพลทฟอร์มการพัฒนาทักษะ เช่น นักศึกษาระดับอาชีวะจะเสริมทักษะองค์ความรู้ที่ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม มีการผลิตผู้ชำนาญและช่างสาขาต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชนเป็นการสร้างงานสร้างโอกาสในระดับชุมชน ล่าสุดนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย ได้เสนอในเรื่องแพลทฟอร์มการพัฒนาทักษะนักศึกษาระดับอาชีวะศึกษาแล้ว โดยการทำงานจะยึดโยงกับกระทรวงศึกษาธิการ  

ส่วนการสร้างนวัตกรรมและพัฒนาผู้ประกอบการสตาร์อัพ มีการก่อตั้งบริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ InnoSpace (Thailand) Co., Ltd. ปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้จะมีการลงนาม โดยมี Hong Kong CyberPort และหน่วยงานส่งเสริมสตาร์ทอัพของอิสราเอล ผู้นำ startup ของโลกมาร่วมมือด้วยกับฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นอีกแพลทฟอร์มในการเตรียมคนไทยในการก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 ของภาคอุตสาหกรรมไทย 

นายอุตตม ยังขอให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เป็นหน่วยงานหลักในการช่วยส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ต่อไป ที่ผ่านมาออกมาตรการช่วยเหลือ 9 มาตรการทั้งด้านการและความช่วยเหลืออื่น ๆ แต่ยังไม่พอจะต้องทำเพิ่มเติมอีก สำหรับผลการดำเนินการล่าสุดสามารถพัฒนาผู้ประกอบการใหม่เชิงสร้างสรรค์ที่เป็นธุรกิจสตาร์ทอัพ การเพิ่มผลิตภาพให้เอสเอ็มอี เพิ่มการเชื่อมโยงสู่ตลาดสากล 27,000 รายในเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา แต่ยังถือว่าเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการพัฒนาสู่อุตสาหกรรม 4.0 เท่านั้นต้องสานต่อ 

นายอุตตม ยังฝากให้ กสอ.เดินหน้าการพัฒนาโครงข่าย ศูนย์ปฎิรูปอุตสาหกรรมหรือ Industry Transformation Center:ITC  ที่มีเครื่องมือ บุคลากร รวม 102 โดยร่วมมือกับสถานบันการศึกษาให้มีการขับเคลื่อนให้กว้างขางและมีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น หากต้องการงบประมาณเพิ่มเติมสามารถขออนุมัติจากรัฐบาลได้ เพราะจะเป็นการช่วยเหลือที่เข้าถึงคนตัวเล็กในพื้นที่ และยังยึดโยงกับการพัฒนาหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industry Village:CIV) หรือ“หมู่บ้าน CIV” ล่าสุดมีจำนวนรวม 107 ชุมชน ขอให้ขยายเพิ่มเติมมากขึ้น จากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีเพียง 30 กว่าหมู่บ้านเท่านั้น 

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าพัฒนา E Factory โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในโรงงาน พร้อมเข้มงวดการดูแลสิ่งแวดล้อมรวมถึงการมีบทบาทช่วยพัฒนาชุมชนโดยรอบโรงงาน รวมถึงการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ที่มีโรงงานตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ มาก ให้ช่วยนำเทคโนโลยีและทรัพยากรที่มีอยู่นำออกมาใช้ช่วยพัฒนาชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ  

ด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ ขอให้เดินหน้าต่อไปอย่างจริงจัง เพราะเป็นจุดแข็งของประเทศ และจะช่วยปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไทยได้อย่างแท้จริง อีกส่วนที่ฝากให้ขับเคลื่อนต่อ คือ เศรษฐกิจหมุนเวียน หากดำเนินการ 2 อุตสาหกรรมนี้ได้จะช่วยให้ประเทศไทยมีพลังมากในอาเซียนในฐานะศูนย์กลางไบโอฮับของอาเซียน โดยภายใน 5 ปีน่าจะเห็นภาพนี้ชัดเจนนี้และจะต้องสร้างโอกาสสร้างอาชีพ เพื่อดึงประชาชนให้อยู่ในพื้นที่ โดยนำอุตสาหกรรมเข้าไปในพื้นที่ ไม่ใช่ดึงคนเข้าไปสู่ในอุตสาหกรรม และจะต้องเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคน 

นอกจากนี้ ยังต้องเดินหน้าเพิ่มการอำนวยความสะดวกผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ที่ผ่านมาดำเนินการไปแล้ว คือ การยกเลิกอายุใบ รง.4 เรื่องของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล มีประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมในการลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมเศรษฐกิจชีวภาพทำให้สามารถทำได้จริง ซึ่งเรื่องผ่านการพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไปแล้ว เป็นการปลดล็อคให้สามารถเดินหน้าอุตสาหกรรมชีวภาพได้แล้ว ด้านการให้บริการของหน่วยงานกระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องเร่งดำเนินการไปสู่การให้บริการแบบ e-services มากขึ้น 

นายอุตตม ยังเสนอให้มีการเดินหน้าอย่างจริงจังในเรื่องการจัดทำบิ๊กดาต้า เพราะขณะนี้มีข้อมูลมากอยู่แล้ว โดยให้เริ่มทำในกลุ่มผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมและกลุ่มเอสเอ็มอี เพราะเมื่อมีฐานข้อมูลต่าง ๆ แล้ว จะเป็นประโยชน์ในวงกว้างต่อไป 

ด้านการเชื่อมโยงกับต่างประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรมได้มีความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมโดยได้มีข้อตกลงความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม (METI) ของญี่ปุ่นภายใต้กรอบความร่วมมือพัฒนา Thailand 4.0 มีการการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมจังหวัดมิเอะ – ประเทศไทย โดยมีเป้าหมาย “ขับเคลื่อนการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารไทยให้เป็นผู้นำได้ในระดับสากล” ซึ่งได้ขอให้มีการใช้ที่สอดรับการพัฒาคนและอุตสาหกรรมเป้าหมาย และโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้ขอให้ทางปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมประสานงานทำงานต่อเนื่องโดยประสานงานกับสำนักงานอีอีซี ที่จะมีการสร้างสมาร์ทซิตี้โดยมีการเชื่อมโยงภาคอุตสาหกรรม ด้านการพัฒนาการศึกษาระดับอาชีวะศึกษาที่ขณะนี้ทางสำนักงานอีอีซีได้เดินหน้าโครงการไปแล้ว เป็นต้น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสานตอนบน-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนกระจาย

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ฝนฟ้าคะนองกระจาย ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝน 40% ส่วนมากช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีการกระจายของฝนฟ้าคะนองมากกว่าภาคอื่นๆ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิใจไทย” มีมติถอนตัวร่วมรัฐบาล จี้นายกฯ รับผิดชอบ​ทำไทยเสียเกียรติ

กทม. 18 มิ.ย.-“ภูมิใจไทย” มีมติถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล รัฐมนตรีร่อนใบลาออก มีผล 19 มิ.ย. จี้นายกฯ รับผิดชอบ​ ทำไทยเสียเกียรติ-ศักดิ์ศรี จากกรณีคลิปเสียงสนทนา “ฮุน ​เซน​” พร้อมร่วมมือประชาชน-กองทัพ รักษาอธิปไตยไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 20.39 น. วันนี้ พรรคภูมิใจไทย ได้ออกแถลงการณ์​ ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2568​ ระบุถึงกรณีการโทรศัพท์เจรจาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน​ ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีผลกระทบต่ออธิปไตย ดินแดน ผลประโยชน์ของประเทศไทย และ​กองทัพไทย ตามที่ประชาชนได้รับทราบแล้วนั้น พรรคภูมิใจไทย ขอเรียนว่า กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย ได้ประชุมพิจารณาถึงกรณีที่เกิดขึ้น และมีมติให้พรรคภูมิใจไทย ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทุกคน ได้ส่งใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลวันที่ 19 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป พรรคภูมิใจไทย ขอเรียกร้องให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร […]

เปิดขุมทรัพย์ช่องจอม รังใหม่แก๊งคอลเซ็นเตอร์

สุรินทร์ 18 มิ.ย. – จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม จ.สุรินทร์ เป็น 1 ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ที่ไม่เพียงตอบโต้กันในมิติทางเศรษฐกิจ แต่กระทบกระทั่งในมิติความมั่นคง ทั้งเรื่องพื้นที่ทับซ้อน และแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติที่เมืองโอร์เสม็ด จังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา ถูกจับตาว่าเป็นฐานใหม่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ .-สำนักข่าวไทย

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]