“อุตตม” มั่นใจผลงานดีน่าได้รับการสนับสนุน

กรุงเทพฯ 29 ม.ค. – “อุตตม” อำลาข้าราชการ พร้อมฝากสานงานนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 มั่นใจผลงานที่ทำเป็นเรื่องดี มีประโยชน์จริง และน่าจะได้รับการสนับสนุนในอนาคต 



นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แถลงภายหลังประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่ออำลาตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมฝากข้าราชการและหน่วยงานภายใต้สังกัดช่วยสานต่องานสำคัญ ๆ ต่อเนื่องไปตามนโยบายขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0 และการพัฒนาเอสเอ็มอี พัฒนาคนและนวัตกรรม เพื่อให้ประเทศไทยมีความก้าวหน้าทัดเทียมโลกทันโลกและในทิศทางที่ยั่งยืน เพราะในระบบเศรษฐกิจมีอุตสาหกรรมอยู่อย่างชัดเจน และการพัฒนาทุกด้านยังไม่สิ้นสุดจะต้องเดินหน้าต่อไป เช่น ด้านเอสเอ็มอี ต้องการช่วยกลุ่มผู้ประกอบการไมโครเอสเอ็มอี และฟื้นฟูผู้ประกอบการที่ล้มไปแล้ว ต้องการให้การช่วยเหลือเข้มข้นยิ่งขึ้น การทำงานต้องต่อเนื่องและทำให้เร็วพอสมควร ซึ่งที่ผ่านมาทำได้เร็วเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ต้องการให้เร็วและกว้างยิ่งขึ้น เพราะถ้าทำงานช้าจะไม่ทันการ และภาคอุตสาหกรรมเป็นหัวใจของเศรษฐกิจ ซึ่งหลายประเทศประสบผลสำเร็จในการยกระดับประเทศไม่ว่าจะเป็นจีน มาเลเซีย และสิงคโปร์  


“นโยบายหรือสิ่งใดที่ดำเนินการในปัจจุบันและเป็นสิ่งที่ดี เช่น อุตสาหกรรม 4.0 อุตสาหกรรมเป้าหมาย การดูแลด้านการก่อมลพิษ ยุทธศาสตร์ใหม่ ยานยนต์ไฟฟ้า E Factory เป็นต้น  ทำต่อไปเลยไม่ต้องคิดว่า รัฐบาลไหนจะมา  เรื่องเหล่านี้เป็นประโยชน์กับคนไทยและประเทศ ส่วนรัฐบาลหน้าก็มาว่ากัน แต่คิดว่า ด้วยตัวมันเอง หากมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเห็นคิดว่ามีแรงสนับสนุนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นค่อนข้างมั่นใจว่าเรื่องที่ทำดีมีประโยชน์จริง ๆ น่าจะได้รับการสนับสนุนในอนาคต” นายอุตตม กล่าว  

นายอุตตม กล่าวว่า วันนี้ (29 ม.ค.) ทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นวันสุดท้าย ส่วนผู้ที่จะมาทำหน้าที่รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมนั้น เป็นเรื่องที่อยู่ในดุลพินิจของนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณา  

สำหรับรายละเอียดงานที่ฝากให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมและข้าราชการหน่วยงานในสังกัด ช่วยกันขับเคลื่อนต่อไป  เช่น การพัฒนา 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น โครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV การพัฒนาเทคโนโลยี การขับเคลื่อนศูนย์ปฎิรูปอุตสาหกรรมหรือ Industry Transformation Center:ITC การพัฒนาเอสเอ็มอีและธุรกิจสตาร์อัพและนวัตกรรมผ่านบริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ InnoSpace (Thailand) Co., Ltd.  การพัฒนา E factory  การพัฒนาคน เป็นต้น การขับเคลื่อน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เพราะหากอุตสาหกรรมเป้าหมายไม่ขับเคลื่อนการมุ่งไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ที่จะช่วยปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศก็จะเกิดขึ้นไม่ได้ ซึ่งขณะนี้ปัญหามลพิษเกิดขึ้น กระทรวงอุตสาหกรรมไม่เพียงดูแลผู้ประกอบการโรงงาน ขอให้ใช้โอกาสนี้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรถ EV และยังได้ขอความร่วมมือให้ทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) มาร่วมยกร่างกฎหมายดูแลเรื่องมลพิษดูแลสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรมที่เชื่อมต่อกับการผลิต EV  ซึ่งทางกระทรวงพลังงานพร้อมจะสนับสนุนนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป 


สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายอื่น ๆ เช่น อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ซึ่งที่ผ่านมาให้มีการขยายผลมากขึ้น และเกี่ยวข้องกับการพัฒนาคน โดยสร้างแพลทฟอร์มในการเสริมสร้างทักษะใหม่ให้แรงงาน บุคลากรของประเทศให้ตอบโจทย์อุตสาหกรรมยุค 4.0 โดยมีภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม ส่วนการสร้างแรงจูงใจสามารถนำเสนอมาตรการมายังรัฐบาลให้พิจารณาได้แพลทฟอร์มการพัฒนาทักษะ เช่น นักศึกษาระดับอาชีวะจะเสริมทักษะองค์ความรู้ที่ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม มีการผลิตผู้ชำนาญและช่างสาขาต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชนเป็นการสร้างงานสร้างโอกาสในระดับชุมชน ล่าสุดนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย ได้เสนอในเรื่องแพลทฟอร์มการพัฒนาทักษะนักศึกษาระดับอาชีวะศึกษาแล้ว โดยการทำงานจะยึดโยงกับกระทรวงศึกษาธิการ  

ส่วนการสร้างนวัตกรรมและพัฒนาผู้ประกอบการสตาร์อัพ มีการก่อตั้งบริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ InnoSpace (Thailand) Co., Ltd. ปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้จะมีการลงนาม โดยมี Hong Kong CyberPort และหน่วยงานส่งเสริมสตาร์ทอัพของอิสราเอล ผู้นำ startup ของโลกมาร่วมมือด้วยกับฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นอีกแพลทฟอร์มในการเตรียมคนไทยในการก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 ของภาคอุตสาหกรรมไทย 

นายอุตตม ยังขอให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เป็นหน่วยงานหลักในการช่วยส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ต่อไป ที่ผ่านมาออกมาตรการช่วยเหลือ 9 มาตรการทั้งด้านการและความช่วยเหลืออื่น ๆ แต่ยังไม่พอจะต้องทำเพิ่มเติมอีก สำหรับผลการดำเนินการล่าสุดสามารถพัฒนาผู้ประกอบการใหม่เชิงสร้างสรรค์ที่เป็นธุรกิจสตาร์ทอัพ การเพิ่มผลิตภาพให้เอสเอ็มอี เพิ่มการเชื่อมโยงสู่ตลาดสากล 27,000 รายในเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา แต่ยังถือว่าเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการพัฒนาสู่อุตสาหกรรม 4.0 เท่านั้นต้องสานต่อ 

นายอุตตม ยังฝากให้ กสอ.เดินหน้าการพัฒนาโครงข่าย ศูนย์ปฎิรูปอุตสาหกรรมหรือ Industry Transformation Center:ITC  ที่มีเครื่องมือ บุคลากร รวม 102 โดยร่วมมือกับสถานบันการศึกษาให้มีการขับเคลื่อนให้กว้างขางและมีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น หากต้องการงบประมาณเพิ่มเติมสามารถขออนุมัติจากรัฐบาลได้ เพราะจะเป็นการช่วยเหลือที่เข้าถึงคนตัวเล็กในพื้นที่ และยังยึดโยงกับการพัฒนาหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industry Village:CIV) หรือ“หมู่บ้าน CIV” ล่าสุดมีจำนวนรวม 107 ชุมชน ขอให้ขยายเพิ่มเติมมากขึ้น จากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีเพียง 30 กว่าหมู่บ้านเท่านั้น 

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าพัฒนา E Factory โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในโรงงาน พร้อมเข้มงวดการดูแลสิ่งแวดล้อมรวมถึงการมีบทบาทช่วยพัฒนาชุมชนโดยรอบโรงงาน รวมถึงการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ที่มีโรงงานตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ มาก ให้ช่วยนำเทคโนโลยีและทรัพยากรที่มีอยู่นำออกมาใช้ช่วยพัฒนาชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ  

ด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ ขอให้เดินหน้าต่อไปอย่างจริงจัง เพราะเป็นจุดแข็งของประเทศ และจะช่วยปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไทยได้อย่างแท้จริง อีกส่วนที่ฝากให้ขับเคลื่อนต่อ คือ เศรษฐกิจหมุนเวียน หากดำเนินการ 2 อุตสาหกรรมนี้ได้จะช่วยให้ประเทศไทยมีพลังมากในอาเซียนในฐานะศูนย์กลางไบโอฮับของอาเซียน โดยภายใน 5 ปีน่าจะเห็นภาพนี้ชัดเจนนี้และจะต้องสร้างโอกาสสร้างอาชีพ เพื่อดึงประชาชนให้อยู่ในพื้นที่ โดยนำอุตสาหกรรมเข้าไปในพื้นที่ ไม่ใช่ดึงคนเข้าไปสู่ในอุตสาหกรรม และจะต้องเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคน 

นอกจากนี้ ยังต้องเดินหน้าเพิ่มการอำนวยความสะดวกผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ที่ผ่านมาดำเนินการไปแล้ว คือ การยกเลิกอายุใบ รง.4 เรื่องของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล มีประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมในการลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมเศรษฐกิจชีวภาพทำให้สามารถทำได้จริง ซึ่งเรื่องผ่านการพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไปแล้ว เป็นการปลดล็อคให้สามารถเดินหน้าอุตสาหกรรมชีวภาพได้แล้ว ด้านการให้บริการของหน่วยงานกระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องเร่งดำเนินการไปสู่การให้บริการแบบ e-services มากขึ้น 

นายอุตตม ยังเสนอให้มีการเดินหน้าอย่างจริงจังในเรื่องการจัดทำบิ๊กดาต้า เพราะขณะนี้มีข้อมูลมากอยู่แล้ว โดยให้เริ่มทำในกลุ่มผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมและกลุ่มเอสเอ็มอี เพราะเมื่อมีฐานข้อมูลต่าง ๆ แล้ว จะเป็นประโยชน์ในวงกว้างต่อไป 

ด้านการเชื่อมโยงกับต่างประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรมได้มีความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมโดยได้มีข้อตกลงความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม (METI) ของญี่ปุ่นภายใต้กรอบความร่วมมือพัฒนา Thailand 4.0 มีการการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมจังหวัดมิเอะ – ประเทศไทย โดยมีเป้าหมาย “ขับเคลื่อนการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารไทยให้เป็นผู้นำได้ในระดับสากล” ซึ่งได้ขอให้มีการใช้ที่สอดรับการพัฒาคนและอุตสาหกรรมเป้าหมาย และโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้ขอให้ทางปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมประสานงานทำงานต่อเนื่องโดยประสานงานกับสำนักงานอีอีซี ที่จะมีการสร้างสมาร์ทซิตี้โดยมีการเชื่อมโยงภาคอุตสาหกรรม ด้านการพัฒนาการศึกษาระดับอาชีวะศึกษาที่ขณะนี้ทางสำนักงานอีอีซีได้เดินหน้าโครงการไปแล้ว เป็นต้น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กทม. 9 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงาาน 10-15 ส.ค. ไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 30% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 10 – 15 ส.ค. ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]