กรุงเทพฯ 28 ม.ค. – สศค.ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2561 โตร้อยละ 4.1 ส่วนปี 2562 โตชะลอลงเหลือร้อยละ 4 สงครามการค้ากระทบส่งออก 200-300 ล้านดอลลาร์
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 2561 ขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 4.1 เร่งขึ้นจากปี 2560 ที่ขยายตัวร้อยละ 3.9 จากการใช้จ่ายภาคเอกชนทั้งการบริโภคและการลงทุนที่มีแนวโน้มขยายตัวเร่งขึ้น สอดคล้องกับการจ้างงานที่ปรับเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีผลมาจากมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ช่วยสนับสนุนการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน และความคืบหน้าของโครงการลงทุนภาครัฐยังเป็นแรงสนับสนุนให้การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นจากปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัวลงและนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐ รวมถึงการตอบโต้จากประเทศต่าง ๆ คาดว่าจะส่งผลให้การส่งออกชะลอลงเล็กน้อย อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 1.1 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าตามทิศทางราคาน้ำมันดิบตลาโลกที่เพิ่มขึ้นและการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ
ส่วนเศรษฐกิจไทยปี 2562 สศค.ประเมินว่ามีแนวโน้มที่จะขยายตัวร้อยละ 4.0 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.5-4.5 โดยได้รับแรงส่งจากโครงการลงทุนของภาครัฐที่จะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรฐษกิจเป็นสำคัญ ตามกรอบงบประมาณรายจ่ายลงทุนภาครัฐประจำปีงบ 2562 ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และโครงการลงทุน PPP ในโครงสร้างพื้นฐานและผลจากความชัดเจนเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งการที่รัฐบาลปัจจุบันมีอำนาจเต็มบริหารประเทศ ภาพรวมการขับเศรฐษกิจจึงสามารถขับเคลื่อนได้เต็มที่ ดังนั้น เชื่อว่าไม่มีการสะดุดในเชิงนโยบายของภาครัฐแต่อย่างใด และยังช่วยให้การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวสูงกว่าปีก่อนหน้าอีกด้วย
“การขยายตัวเศรษฐกิจปี 2562 ในช่วง 2 ไตรมาสจะไม่ดีเท่ากับ 2 ไตรมาสหลังปีนี้ เนื่องจากเป็นการปรับจากฐานที่สูงในปี 2561 เศรษฐกิจไทยมีโอกาสโตทั้งเกินและต่ำกว่าประมาณการณ์ระดับการขยายตัวที่ร้อยละ 4 เป็นอัตราการขยายตัวตามศักยภาพของเศรษฐกิจ” นายลวรณ กล่าว
ส่วนการส่งออกสินค้ามีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยปีนี้การส่งออกในเชิงมูลค่าคาดว่าจะโตได้ที่ร้อยละ 4.5 ขณะที่การส่งออกปี 2561 ด้านมูลค่าโตร้อยละ 6.7 โดยสงครามการค้าสหรัฐและจีนมีผลกระทบต่อการส่งออกของไทยปีที่ผ่านมาประมาณ 200-300 ล้านดอลลาร์ กระทบไม่มาก โดยกระทบในส่วนของสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเช่น เครืองซักผ้า โซลาร์เซล ส่วนปี 2562 ทางสหรัฐและจีนมีการเจรจาด้านการค้าเพื่อหาทางออกแล้ว เชื่อว่าน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น ปัจจัยที่กระทบ คือ เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง
ด้านเงินเฟ้อทั่วไปปี 2562 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 1.0 ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 0.5-1.5 ลดลงจากปี 2561 ตามแนวโน้มราคาน้ำม้นดิบในตลาดโลกที่ลดลง โดย สศค.มองโอกาสที่จะสามารถเกิดขึ้นจริง ต่างจากกระทรวงพาณิชย์ที่มองเป้าหมายไว้ที่ร้อยละ 8 .-สำนักข่าวไทย