กรุงเทพฯ 28 ม.ค.- ครบรอบวันคล้ายวันสถาปนาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ครบรอบ 67 ปี มีคณะผู้บริหารศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง คณะผู้พิพากษา และข้าราชการศาล เข้าร่วมจำนวนมาก โดยในปี2562 ศาลเยาวชนฯจะมุ่งเน้นในการให้ความช่วยเหลือเยื่ออาชญากรรมให้ได้รับความเป็นธรรม
นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง กล่าวว่า ศาลคดีเด็กและเยาวชนกลาง เปิดทำการเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2495 นับเป็นเวลาครบ 67 ปี มีวิวัฒนาการเริ่มจากบทบาทหน้าที่พิจารณาพิพากษาคดีโดยแยกปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนที่กระทำความผิดออกจากผู้ใหญ่ เน้นแก้ไขบำบัดฟื้นฟูและช่วยเหลือสงเคราะห์ มุ่งเน้นการคุ้มครองสถาบันครอบครัว ประโยชน์สูงสุดของเด็กและเยาวชน รวมถึงการคุ้มครองสวัสดิภาพของผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวและเด็ก
โดยในปี 2562 ศาลเยาวชนฯจะมุ่งเน้น ทำโครงการต่างๆเพื่อประโยชน์แก่เด็กผู้เสียหาย เช่น การช่วยเหลือคุ้มครองเหยื่อในคดีอาชญากรรม ผู้เสียหายในคดี การให้ความเป็นธรรม การเรียกสินไหมทดแทน เพื่อให้เกิดการสำนึกและการเปลี่ยนแปลงทั้งตัวจำเลยและผู้เสียหาย โดยจะจัดทำแผนการเยียวยาร่วมกับตัวแทนสังคม ชุมชน / การคุ้มครองสิทธิเด็กที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ไม่เอาเงินประกันในการทำสัญญา แต่หากมีการทำผิดสัญญาก็จะเป็นการปรับแทน เพื่อที่จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครอง / จะอนุญาตให้สามารถประกันตัวเด็กได้ในวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ เพื่อสิทธิเสรีภาพแก่เด็ก / และทางศาลเยาวชนฯได้ร่วม MOU กับสถาบันปัญญาภิวัฒน์ ในการสนับสนุนรับเด็กที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 ที่อยู่ในการดูแลของศาลไปศึกษาต่อจนจบปริญญา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้กับเด็ก
ทั้งนี้ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง มุ่งพัฒนาระบบการปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรม โดยยึดเด็กและเยาวชนเป็นศูนย์กลาง แก้ไขบำบัดฟื้นฟูให้ตรงกับสภาพปัญหา ให้กลับไปอยู่ร่วมกับครอบครัว สังคมอย่างปกติสุข ตลอดจนเยียวยาคุ้มครองผู้เสียหายให้ได้รับการเยียวยาอย่างเหมาะสม ผ่านกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์
นอกจากนี้ภายในงานมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติและผลงานของศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ผลงานเด็กและเยาวชนที่นำมาจัดแสดง การสาธิตงานฝีมือต่างๆ และภาพวาดประกวดศิลปะบำบัด กิจกรรมสร้างสรรค์เชิงบวกแก่เด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรมรวมถึงยังมีหน่วยต่างๆเดินทางมามอบดอกไม้เพื่อแสดงความยินดีกับวันคล้ายวันสถาปนาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ครบรอบ 67 ปีอีกด้วย
ภายในงานยังจัดเสวนาทางวิชาการ “เหลียวหลัง แลหน้า ศาลเยาวชน : ย่างก้าวบนความเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม” โดยมีนายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ศาตราจารย์พิเศษ กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) และนายวันชัย รุจนวงศ์ อัยการอาวุโส ร่วมเสวนาในครั้งนี้
นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง กล่าวว่า ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ปี 2550 มีคดีที่เด็กและเยาวชนกระทำความผิด 33,000 คดี ส่วนในปี 2560 พบว่า มีคดีที่เด็กและเยาวชนกระทำความผิด 20,004 คดี สะท้อนว่าแนวโน้มเด็กกระทำผิดลดลง สาเหตุน่าจะมาจากจำนวนประชากรเด็กลดลง แต่พบว่าความผิดอาจรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กชายกระทำความผิดมากกว่าเด็กหญิง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีเด็กกระทำผิดมากสุด ในคดียาเสพติด ผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก พกพาอาวุธปืน ลักทรัพย์ ซึ่งส่วนมากความผิดโดยเฉพาะตัว ไม่ประสงค์ท้าทายต่อเจ้าทรัพย์ จากนี้กระบวนการยุติธรรมใหม่จะมุ่งไปสู่การคุ้มครอง สิทธิเด็กและเยาวชน แก้ไขบำบัดฟื้นฟูให้ตรงกับสภาพปัญหา ก่อนกลับไปอยู่ร่วมกับครอบครัว สังคมอย่างปกติสุข รวมถึงเยียวยาคุ้มครองผู้เสียหายให้ได้รับการเยียวยาอย่างเหมาะสม ผ่านกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์
ศาตราจารย์พิเศษกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) กล่าวว่า หลังปี 2000 กระบวนการยุติธรรมมุ่งไปเชิงสมานฉันท์ โดยมองว่าเด็กที่ก้าวพลาดไม่ควรเข้าสู่ระบบทางการมากเกินไป ควรอยู่ในบรรยากาศที่เอื้อต่อการฟื้นฟู พร้อมตั้งข้อสังเกตุ กระบวนการ หรือ การติดคุกแล้วกลับมาเป็นคนดีจริงหรือไม่ การลงโทษจึงอาจไม่ใช่การกระทำที่ถูกต้องเสมอไป ชี้กระบวนการยุติธรรมต้องทำให้เค้าสำนึกผิดจริงๆ สร้างการเรียนรู้ ให้โอกาสเด็กและเยาวชนกลับสู่สังคมอย่างปกติสุข.-สำนักข่าวไทย