คนไทยฮิตไปทำงานไต้หวันมากที่สุดในรอบ 2 ปีนี้

กรมการจัดหางาน 2 ก.ย.-กรมการจัดหางาน พบในช่วง 2 ปีนี้ แรงงานไทยได้รับอนุญาตไปทำงานต่างประเทศถึงกว่า2 แสนคนส่งเงินกลับประเทศ รวมเกือบ 2 แสนล้านบาท ประเทศที่นิยมไปมากที่สุด ‘ไต้หวัน’ ตำแหน่งก่อสร้าง อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์อาหาร ฯลฯ ขณะที่นายจ้างก็ชื่นชอบ ความขยัน อดทน สู้งาน


 

นายอารักษ์ พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แรงงานไทยได้รับอนุญาตให้ไปทำงานต่างประเทศมากกว่า 230,000 คน เฉลี่ยปีละเกือบ 120,000 คน มีรายได้ส่งกลับประเทศปีละประมาณ 87,000 ล้านบาท  โดยเดินทางไปทำงานไต้หวันมากที่สุด  จำนวนกว่า 56,000 คน  ส่วนใหญ่ทำงานในตำแหน่งผลิตภัณฑ์โลหะ,สิ่งทอ,   เครื่องจักรกล,ผลิตภัณฑ์พลาสติก,อิเล็กทรอนิกส์,ก่อสร้าง,ผลิตภัณฑ์อาหาร โดยนายจ้างไต้หวันชื่นชอบแรงงานไทยเพราะมีความขยัน สู้งาน และอดทน


 

อย่างไรก็ตามจากการที่คนหางานนิยมไปทำงานในไต้หวันเพิ่มมากขึ้นอาจเป็นช่องทางให้กลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงคนหางานได้ กรมการจัดหางานจึงขอให้คนหางานทราบว่าการทำงานในไต้หวันนั้น จะมีการเก็บเงินค่าดูแลแรงงานต่างชาติในไต้หวันประมาณ5,000เหรียญไต้หวันต่อเดือน แบ่งเป็น ค่าล่ามดูแลคนงาน ค่าอาหาร,ที่พัก ค่าประกันสุขภาพ และค่าประกันภัยแรงงาน ซึ่งระบบการดูแลคนงานในไต้หวันปัจจุบันมีมาตรฐาน เพราะไต้หวันระมัดระวังเรื่องปัญหาการค้ามนุษย์

 


ส่วนการพิจารณาอนุญาตการจดทะเบียนคู่ค้ากับบริษัทจัดหางานไทยนั้น กรมการจัดหางานได้ขอความร่วมมือสำนักงานแรงงาน ณ กรุงมะนิลา (ส่วนที่ 2) กรุงไทเปและสาขาเมืองเกาสงให้ตรวจสอบบริษัทจัดหางานในไต้หวันที่เป็นคู่ค้ากับบริษัทจัดหางานไทยให้มีเจ้าหน้าที่ และล่ามให้การดูแลคนงานไทยให้เพียงพอ ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมามีการร้องทุกข์ของคนงานที่เดินทางไปทำงานไต้หวัน โดยการจัดส่งของบริษัทจัดหางาน จำนวน 12 ราย โดยกรมการจัดหางานได้ให้ความช่วยเหลือแล้วทุกราย

 

นายอารักษ์ กล่าวด้วยว่า ปัญหาแรงงานไทยที่เกิดจากนายจ้างไต้หวันที่ผ่านมามีจำนวนไม่มากนัก จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการจ่ายค่าล่วงเวลา ตำแหน่งงานไม่ตรงกับสัญญาจ้าง และนายจ้างปิดกิจการ ดังนั้นหากคน หางานประสงค์จะไปทำงานไต้หวัน ควรตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับสัญญาการจ้างงาน สถานที่ทำงาน สภาพการทำงาน สวัสดิการและค่าใช้จ่ายต่างๆ และบริษัทจัดหางานให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ และเมื่อได้ไปทำงานแล้วขอให้ตั้งใจทำงาน และปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย อย่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และอบายมุข

 

ทั้งนี้ หากประสบปัญหาให้ติดต่อที่สำนักงานแรงงาน ณ กรุงมะนิลา(ส่วนที่ 2) กรุงไทเป โทร. 02-2701-1413 และสาขาเมืองเกาสงโทร. 0-7392-7620 และก่อนตัดสินใจเดินทางไปทำงาน  ขอคำปรึกษาหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่1-10หรือกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน โทร.0-2245-1034 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร.1694 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ส่งชาวจีนกลับบ้าน

เสร็จสิ้นภารกิจส่ง 621 เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับจีน

จบภารกิจส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา รวม 3 วัน 13 เที่ยวบิน ส่งกลับชาวจีน 621 คน ที่เหลือต้องรอการเจรจา 3 ฝ่าย ไทย จีน และเมียนมา กำหนดแนวทางรับตัวอีกครั้ง

ทำบุญครบรอบแตงโมเสียชีวิต

เพื่อนสนิททำบุญครบรอบ 3 ปี “แตงโม” เสียชีวิต

กลุ่มเพื่อนสนิทของ “แตงโม ภัทรธิดา” นักแสดงสาวผู้ล่วงลับ จัดพิธีทำบุญครบรอบ 3 ปี การเสียชีวิตของนางเอกคนดัง ที่วัดปากน้ำ ซ.พิบูลสงคราม 1 อ.เมือง จ.นนทบุรี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง