อนาคตยกน้ำหนักไทย หลัง 4 จอมพลังสาวถูกตรวจสารกระตุ้นต้องห้าม

24 ม.ค. – สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ หรือ IWF ประกาศว่า 4 จอมพลังสาวทีมชาติไทย ถูกตรวจพบสารกระตุ้นต้องห้าม ในการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลกปี 2018


ข่าวใหญ่ของวงการกีฬาไทย โดยเฉพาะวงการยกน้ำหนักไทยในวันนี้ คือ ข่าวที่ 4 จอมพลังสาวทีมชาติไทย ถูกตรวจพบสารกระตุ้นต้องห้าม จากการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลกปี 2018 ที่ประเทศเติร์กเมนิสถาน โดยมีชื่อของ 2 จอมพลังสาวเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่บราซิลด้วย



สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ หรือ IWF ประกาศว่า พบสารต้องห้ามในตัวอย่างปัสสาวะของ 4 จอมพลังสาวทีมชาติไทย ในศึกยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2018 เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ที่ประเทศเติร์กเมนิสถาน โดยมีนักกีฬาดีกรีระดับเหรียญทองชิงแชมป์โลก และเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งผลการตรวจมาจากตัวอย่าง เอ (Sample A) ซึ่งสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย สามารถร้องขอให้ตรวจใหม่ในตัวอย่างบี (Sample B) ทั้งนี้ 1 ใน 4 จอมพลัง เคยถูกตรวจพบสารต้องห้าม และถูกห้ามแข่งขันมาแล้ว 1 ครั้ง ระหว่างปี 2011-2013

ขณะที่ สำนักข่าวเอพี และอีกหลายสำนักข่าวทั่วโลก ระบุชื่อ 4 จอมพลังสาวทีมชาติไทย ที่ถูกตรวจพบสารต้องห้ามในศึกชิงแชมป์โลก 2018 ได้แก่

“น้องแนน” โสภิตา ธนสาร เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2016 รุ่น 48 กิโลกรัมหญิง ที่จบอันดับ 4 ในศึกชิงแชมป์โลก 2018 ตรวจพบ สารสเตียรอยด์และอาร์ติฟิเชียล เทสโตสเตอโรน หรือ ฮอร์โมนเทียม

ธัญญ่า สุขเจริญ 3 เหรียญทองรุ่น 45 กิโลกรัมหญิงชิงแชมป์โลก 2018

“ฝ้าย” สุกัญญา ศรีสุราช จอมพลังเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2016 รุ่น 58 กิโลกรัมหญิง ที่คว้า 3 เหรียญทองรุ่น 55 กิโลกรัมหญิงชิงแชมป์โลก 2018 พบสารในกลุ่มอนาบอลิก สเตียรอยด์ และ อาร์ติฟิเชียล เทสโตสเตอโรน

ชิดชนก พูลทรัพย์สกุล ที่ได้อันดับ 6 ก็ถูกตรวจพบสารแอนโดรสเตน ในกลุ่ม อนาบอลิก สเตียรอยด์ ซึ่งเอพี รายงานข่าวว่า หากผลตรวจขั้นสุดท้ายยืนยันว่าพบสารต้องห้าม มีโอกาสสูงจะถูกห้ามแข่งขัน โดยเฉพาะ สุกัญญา ที่อาจจะโดนถึง 8 ปี เพราะเคยถูกตรวจพบมาแล้วครั้งหนึ่ง

ซึ่งหลังจากมีข่าวนี้ออกมา สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ผ่านทางเว็บไซด์ของสามาคม tawa.or.th เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา ชี้แจงว่า สมาคมได้รับการแจ้งจาก IWF ว่า มีการตรวจพบสารต้องห้ามในตัวอย่างปัสสาวะนักกีฬาไทย ซึ่งก่อให้เกิดความประหลาดใจและเกิดความสงสัย เนื่องจากสมาคม ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอันดับแรก และได้ตรวจปัสสาวะของนักกีฬาโดยสถาบันวิทยาศาสตร์การวิเคราะห์และตรวจสารในการกีฬาและสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ (IWF) อย่างสม่ำเสมอโดยไม่พบปัญหาใดๆ สมาคม ขอชี้แจงว่า สมาคมมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริง สาเหตุ และผู้รับผิดชอบในครั้งนี้ ทั้งนี้เพื่อให้ความจริงปรากฏต่อสาธารณะ หากพบว่ามีผู้ที่กระทำความผิด จะได้ดำเนินการลงโทษในลำดับต่อไป

ส่วน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ต้องดูผลสอบสวนจากคณะกรรมการของสมาคมกีฬายกน้ำหนักของไทยอีกครั้งว่าข้อเท็จจริงจากการใช้สารต้องห้ามเกิดขึ้นเพราะอะไร และใช้จริงหรือไม่ และต้องดูอีกว่าเราสามารถมีข้อกฎหมายหรือข้อโต้แย้งอย่างไร เพราะในกฎการตรวจโด๊ปก็จะให้สิทธิ์นักกีฬาอธิบายเหตุผลในการใช้สาร แต่ถ้าถูกตรวจพบว่านักกีฬาใช้สารต้องห้ามจริง เราต้องมีบทลงโทษให้มีผลกระทบกับนักกีฬาน้อยที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นการทำลายชีวิตของการเป็นนักกีฬา

ส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุดของสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย รองประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ คนที่ 1 และประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารสมาคมยกน้ำหนักแห่งประเทศไทย เตรียมแถลงข่าวข้อเท็จจริงและความคืบหน้าในวันพรุ่งนี้เวลา 14.00 น. ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยเบื้องต้นได้มีการส่งข้อความในกลุ่มนักข่าวว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนมาก แต่ตนเองได้พูดคุยกับ IWF แล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน เริ่มจาก ตรวจใหม่ในตัวอย่างบี (Sample B) ต่อด้วยตั้งกรรมการ ไต่สวน จากนั้นก็อยู่ที่การเจรจากับสหพันธ์ ซึ่งหากผลที่ออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจ ก็อาจจะต้องไปต่อกันที่ศาลกีฬาโลกต่อไป แต่ยังยืนยันว่าประเทศไทย จะยังได้จัดการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก ในเดือนกันยายน ที่พัทยา เช่นเดิม

โดยตอนนี้ สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ มีคำสั่งแบนนักกีฬาทั้ง 4 คนเป็นการชั่วคราวจนกว่าการไต่สวนจะสิ้นสุด แต่หากพบว่านักกีฬาไม่ได้กระทำผิดกฎ จะแจ้งต่อสาธารณะต่อไป โดยระบุว่า ยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2018 ที่เติร์กเมนิสถาน สหพันธ์ได้เก็บตัวอย่างปัสสาวะ เพื่อตรวจหาสารต้องห้ามถึง 52 เปอร์เซนต์ของนักกีฬาทั้งหมด แต่ไม่พบสารใดๆ แต่หลังจากนั้นได้มีการนำตัวอย่างมาตรวจเพิ่มเติมอย่างละเอียด ที่ห้องแล็บ ในเมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี ทำให้พบว่า นักกีฬาหลายคนใช้กรรมวิธีการโด๊ปยารูปแบบใหม่ที่มีความซับซ้อนและทันสมัยกว่าเดิม แต่สหพันธ์ แสดงความพอใจ หลังได้รับแจ้งจากสมาคมยกน้ำหนักไทยว่า จะเร่งสอบสวนหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ และมุ่งมั่นในการแก้ปัญหานี้โดยเร็วที่สุด

ซึ่งหากผลการตัดสินออกมาว่านักกีฬามีความผิดจริงอาจจะส่งผลต่อกีฬายกน้ำหนักที่อาจจะไม่ถูกบรรจุในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ฝรั่งเศส และส่งผลเสียต่อการพัฒนาของวงการยกน้ำหนักไทยในอนาคตอย่างแน่นอน .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย