กรุงเทพฯ 22 ม.ค. – GPSC ลงทุน 23,000 ล้านบาท ผลิตไฟฟ้า 250 เมกะวัตต์ ป้อนโครงการ CFP ขยายกำลังกลั่นของ บมจ.ไทยออยล์ คาดก่อสร้างเสร็จไตรมาส 3 ปี 2566
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า คณะกรรมการ GPSC มีมติเห็นชอบแผนการลงทุนในหน่วยผลิตไฟฟ้า (ERU) กำลังผลิตไฟฟ้า 250 เมกะวัตต์ ไอน้ำ 175 ตัน/ชั่วโมง ให้กับโครงการพลังงานสะอาด (CFP) ของ บมจ.ไทยออยล์ มูลค่าลงทุน 757 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 23,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ โครงการ CFP ของไทยออยล์มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มคุณค่าผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และขยายกำลังการกลั่นน้ำมันเป็นระดับ 400,000 บาร์เรล/วัน
“พื้นที่ตั้ง ERU จะเป็นสัญญาเช่าช่วงจากไทยออยล์และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า คาดจะเสร็จประมาณไตรมาส 3 ปี 2566 การลงทุนเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ที่เติบโตไปพร้อมกับกลุ่ม ปตท. สร้างโอกาสการต่อยอดธุรกิจการผลิตไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงแตกต่างไปจากเดิม เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานในอนาคต” นายชวลิต กล่าว
นายชวลิต กล่าวว่า แผนการลงทุนครั้งนี้จะทำให้ GPSC มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 1,955 เมกะวัตต์ ไอน้ำรวมประมาณ 1,585 ตัน/ชั่วโมง ซึ่งปี 2562 GPSC มีแผนเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ (COD) ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว ได้แก่ โรงไฟฟ้าน้ำลิก 1 (NL1PC) กำลังผลิต 65 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าไซยะบุรี (XPCL) กำลังผลิต 1,285 เมกะวัตต์ รวมทั้งโรงผลิตสาธารณูปการระยองแห่งที่ 4 กำลังผลิต 45 เมกะวัตต์ ไอน้ำ 70 ตัน/ชั่วโมง และโรงผลิตสาธารณูปโภค 3 (CUP-3) ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) โรงไฟฟ้าประเภทพลังงานระบบโคเจนเนอเรชั่น ขนาดกำลังการผลิต 15 เมกะวัตต์ เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ภายในปีนี้ และปี 2563 มีโครงการส่วนต่อขยายของโรงไฟฟ้า นวนคร (NNEG) กำลังผลิต 60 เมกะวัตต์ ไอน้ำ 10 ตัน/ชั่วโมง. -สำนักข่าวไทย