บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทสัปดาห์นี้(29 ส.ค.-2 ก.ย.) ว่า เงินบาททยอยอ่อนค่า ก่อนตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ โดยเงินบาททยอยอ่อนค่าลงในช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ ท่ามกลางแรงหนุนของเงินดอลลาร์ฯ หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐฯ (ทั้งจากประธานและรองประธานเฟด) มีมุมมองในเชิงค่อนข้างบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชน ก็ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ซึ่งหนุนโอกาสของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในระยะที่เหลือของปี สำหรับในวันศุกร์ (2 ก.ย.) เงินบาทอยู่ที่ 34.62 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 34.56 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ (26 ส.ค.)
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (5-9 ก.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.50-34.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตาสถานการณ์ตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลก หลังการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญอื่นๆ ที่จะรายงานออกมาเพิ่มเติม ประกอบด้วย ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนส.ค. และตัวเลขสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.ค. นอกจากนี้ ตลาดการเงินอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมที่ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (8 ก.ย.) ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนส.ค ของจีน รวมถึงข้อมูลจีดีพีประจำไตรมาส 2 ของยุโรปและญี่ปุ่นเช่นกัน
ส่วนสรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้(29 ส.ค.-2 ก.ย.) ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงจากแรงขายของนักลงทุนสถาบัน ก่อนการรายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,521.48 จุด ลดลง 1.80% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 4.11% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 55,560.49 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 591.09 จุด เพิ่มขึ้น 1.79% จากสัปดาห์ก่อน
ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ โดยนักลงทุนชะลอการลงทุน เพื่อรอประเมินความเป็นไปได้ของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จากข้อมูลสำคัญที่จะทยอยประกาศออกมาในระหว่างสัปดาห์ อย่างไรก็ดี ดัชนีตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงเทขายในช่วงปลายสัปดาห์ โดยเฉพาะแรงขายเพื่อทำกำไรในหุ้นขนาดใหญ่ หลังดัชนีไม่สามารถปรับตัวข้ามแนวต้านทางเทคนิคได้ ประกอบกับนักลงทุนมีความระมัดระวังมากขึ้นก่อนการประกาศตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (5-9 ก.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,500 และ 1,480 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,530 และ 1,550 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารยุโรป และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ความเชื่อมั่นผู้บริโภค เครื่องชี้ภาคบริการ (ISM Non-Manufacturing) และรายงานภาวะเศรษฐกิจของเฟด (Beige Book) ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ คงได้แก่ ข้อมูลจีดีพีไตรมาส 2 ของยุโรป-สำนักข่าวไทย
Top Viewed • อ่านมากสุด
ดูทั้งหมด
ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”
ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน
“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย
“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก
บุกจับนายก อบต.สำนักทอง เรียกรับเงินผู้รับเหมาก่อสร้าง
เจ้าหน้าที่บุกจับนายก อบต.สำนักทอง เรียกรับเงินผู้รับเหมาก่อสร้างประมูลโครงการคอนกรีตเสริมเหล็ก
รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ
ข่าวแนะนำ
ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง
ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ
จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่
อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง
กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่
หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ