ทิสโก้คาดจีดีพีปีนี้โตร้อยละ 4

กรุงเทพฯ 16 ม.ค. – ทิสโก้คาดจีดีพีปีนี้โตร้อยละ 4 จับตาสงครามการค้า – ทางออก Brexit พร้อมยังคุมเข้มการปล่อยเงินกู้ ภาระหนี้ต้องไม่เกินร้อยละ 40-50


นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ทิสโก้ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป จำกัด ( มหาชน ) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตร้อยละ 4  ชะลอลงจากปีก่อนเล็กน้อย จากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งจะมีผลทำให้เกิดความผันผวนของตลาดเงินและตลาดทุนโลก โดยต้องติดตามผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน  ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลกที่ยังคงยืดเยื้อ การที่รัฐสภาอังกฤษมีมติคว่ำข้อตกลงการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป ( Brexit) รวมทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐ (เฟด) ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้น 1 ครั้งในปีนี้ จะช่วยลดแรงกดดันต่อดอกเบี้ยในประเทศ คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อลูกหนี้ไม่ต้องแบกภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น 

“สงครามการค้าโลกยังเป็นปัจจัยหลักที่กดดันเศรษฐกิจโลก แต่เชื่อว่าจะมีทางออกที่ดี เพราะเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มอ่อนแอ เกิดแรงกระตุ้นให้มีการเจรจากันง่ายขึ้น ขณะที่ทางออกเรื่อง Brexit เชื่อว่าน่าจะมีการทำประชามติกันใหม่ เพราะเหลือเวลาอีกเพียง 10 กว่าวันเท่านั้น หากยังยื่นร่างแผนเดิมก็คงไม่มีทางออก” นายสุทัศน์ กล่าว


ขณะที่การเลือกตั้งในประเทศเป็นปัจจัยบวก ทำให้เกิดความเชื่อมั่น และมีผลดีให้การบริโภคในประเทศยังขยายตัวต่อเนื่องเช่นเดียวกับการลงทุน โดยเฉพาะจากภาครัฐการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในโครงการพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี เช่น สนามบินอู่ตะเภา ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุด ที่คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปีนี้จะมีเม็ดเงินลงทุนเป็น 2 เท่าของปี 2561 จะทำให้เอกชนมีความเชื่อมั่นและลงทุนตามมา

นายสุทัศน์ กล่าวว่า อุปสงค์ในประเทศที่ยังขยายตัว และยอดขายรถยนต์ที่ประเมินว่าน่าจะมียอดขายอยู่ในระดับสูงไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคัน ส่งผลให้อัตราการเติบโตของสินเชื่อปีนี้อยู่ประมาณร้อยละ 4 จากปีก่อนหดตัวร้อยละ 4.3 ยังคงเน้นสินเชื่อจำนำทะเบียนรถภายใต้แบรนด์ “สมหวัง เงินสั่งได้” ขณะเดียวกันธนาคารยังคงระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ เพื่อควบคุมคุมภาพหนี้ โดยจะยึดตามเกณฑ์ของสมาคมธนาคารไทยที่ภาระหนี้ของลูกค้าต้องไม่เกินร้อยละ 40-50 ของรายได้สุทธิ หากลูกหนี้มีภาระหนี้มากเกินไปก็จะกระทบต่อความสามารถในการผ่อนชำระได้ รวมทั้งอาจจะให้ผู้ค้ำประกันเช็คเครดิตบูโรด้วย ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล จะรักษาให้อยู่ประมาณร้อย 2.86 ใกล้เคียงกับปีก่อน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง