ใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ยังเชื่อมข้อมูลกับตำรวจไม่แล้วเสร็จ

กทม. 15 ม.ค.-กรมการขนส่งทางบกดีเดย์ใช้ใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์อำนวยความสะดวกให้ประชาชน ล่าสุดมีผู้สมัครแล้วกว่า 70,000 คน ขณะที่การเชื่อมต่อฐานข้อมูลกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่แล้วเสร็จ ต้องรอแก้กฎหมาย คาดใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน


วันแรกที่กรมการขนส่งทางบกรับรองการใช้งานใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ ควบคู่กับใบขับขี่แบบเดิม มีผู้ให้ความสนใจสมัครดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน DLT QR Licence เป็นจำนวนมาก หลายคนบอกว่าเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสะดวก และจะเป็นประโยชน์อย่างมาก หากเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลของตำรวจได้

ขั้นตอนการสมัครใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ หลังดาวน์โหลดแอปนี้ลงบนมือถือ ซึ่งรองรับได้ทั้งระบบ Android และ iOS และลงทะเบียนเรียบร้อย ให้สแกนคิวอาร์โค้ดจากใบขับขี่เข้าสู่เมนูฟังก์ชั่นต่างๆ ซึ่งจะพบมีข้อมูลสำคัญของใบขับขี่แบบเดิม รวมทั้งข้อมูลส่วนตัว เช่น กรุ๊ปเลือด ประวัติแพ้ยา โรคประจำตัว สิทธิการรักษาพยาบาล และชื่อผู้ติดต่อหากเกิดเหตุฉุกเฉิน ส่วนอีก 3 ฟังก์ชั่นที่คนที่ไม่มีใบขับขี่ก็สามารถดาวน์โหลดไว้ใช้ได้ฟรี คือ แชร์เส้นทางการเดินทาง แจ้งพิกัดพร้อมทะเบียนรถสาธารณะให้สามารถติดตามตัวได้ การแจ้งขอความช่วยเหลือกรณีเกิดอุบัติเหตุ และข้อมูลข่าวสารอื่นๆ ของกรม กรมการขนส่งทางบกมั่นใจว่าระบบนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชน รวมทั้งช่วยตรวจสอบการใช้ใบขับขี่ปลอมซึ่งพบมากในแต่ละปีได้รัดกุมขึ้น


ส่วนทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังอยู่ระหว่างการปรับแก้กฎหมายจราจรทางบก เรื่องการยกเลิกการเรียกเก็บใบขับขี่ เพื่อรองรับการใช้ใบขับขี่
อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะเสนอให้ สนช. พิจารณาในสัปดาห์นี้ คาดใช้เวลาแก้ไขไม่น้อยกว่า 6 เดือน ระหว่างนี้ผู้ขับขี่จึงต้องพกใบอนุญาตทั้งสองแบบควบคู่กันไปก่อน

ล่าสุดมีผู้สมัครใช้ใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์แล้วไม่ต่ำกว่า 70,000 คน แต่ระหว่างนี้ยังต้องใช้ควบคู่กับใบขับขี่แบบเดิมไปก่อน เนื่องจากการเชื่อมโยงฐานข้อมูลและ User การใช้งานระหว่างกรมการขนส่งทางบก กับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่แล้วเสร็จ โดยในอนาคตตำรวจไม่สามารถยึดใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ได้ และหากผู้ขับขี่ทำผิด ตำรวจจะออกใบสั่งด้วยระบบ ซึ่งจะมีการกำหนดรูปแบบต่อไป

ผู้ใช้รถหลายคนยังให้ทัศนะว่าใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีใหม่ อาจช่วยลดปัญหาคอร์รัปชันเงินค่าปรับใบสั่ง และช่องทางการทุจริตของเจ้าหน้าที่ได้บ้าง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.บังคับใช้ 7 มาตรการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง

ผบ.ตร. บังคับใช้ 7 มาตรการเข้มข้น แก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง ถูกหลอกลวง หรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำชัดให้เห็นผลภายใน 7 วัน หากพบเจ้าหน้าที่มีเอี่ยวหรือบกพร่อง ฟันเด็ดขาด

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

ตร.สอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการ “ปิดจบสยบ Fiwfans”

ตำรวจสอบสวนกลาง “เปิดปฏิบัติการปิดจบสยบ Fiwfans (ฟิวแฟน)” เว็บไซต์ค้ากามเด็กออนไลน์ จับแอดมิน 5 ราย ดำเนินคดี พบในรอบ 4 ปี มีหญิงค้าประเวณีผ่านเว็บไซต์กว่า 40,000 ราย อายุต่ำสุด 15 ปี พบเงินหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หมาช่วยจับโจร

หมาช่วยจับโจรลักสายไฟ หาเงินเสพยา

ชาวบ้านรวบโจรสุดแสบ ขโมยตัดสายไฟหน้าวัด ถึงคราวซวยหมาเห่าจนชาวบ้านมาช่วยกันจับ ล่าสุดตรวจร่างกายเจอสารเสพติด โดนดำเนินคดีเรียบร้อย

อีสาน อุณหภูมิลด 3-5 องศาฯ ภาคเหนือ-ตะวันออก ลดลง 1-3 องศาฯ

กรมอุตุฯ คาดมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากจีน จะแผ่ปกคลุมภาคเหนือตอนบน อีสานและทะเลจีนใต้ในวันนี้ ทำให้อีสานอุณหภูมิลดลง 3-5 องศาฯ กับมีลมแรง ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาฯ ส่วนภาคใต้ฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

เลือกตั้ง อบจ.

วิเคราะห์ศึก อบจ.ศรีสะเกษ อาจถึงคราว “นายใหญ่” สิ้นมนต์ขลัง

นักวิชาการวิเคราะห์ศึก อบจ.ศรีสะเกษ อาจถึงคราว “นายใหญ่” สิ้นมนต์ขลัง การเมืองไม่เหมือน 20 ปีที่แล้ว ชี้วาทกรรมแบบเดิมๆ ไร้ผล ชาวเน็ตแชร์สนั่นพร้อมถามดังๆ จะ “ไล่หนู ตีงู กี่โมง”