กรุงเทพฯ 15 ม.ค.-บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัดประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากปัญหาฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นประมาณ
2,600 ล้านบาท เป็นเรื่องค่าเสียโอกาสทางสุขภาพและด้านการท่องเที่ยว
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตของประชาชน
ทำให้เป็นประเด็นที่มีความสำคัญที่ต้องติดตามและควรที่จะมีการประเมินผลกระทบในมิติต่างๆ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงพยายามประเมินบนสมมติฐานหลายประการเพื่อให้เห็นถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจในเบื้องต้นก่อน
และมองว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากปัญหาฝุ่นละอองเกินมาตรฐานในกรุงเทพฯและปริมณฑล
อาจแบ่งได้เป็น 2 ส่วน คือ 1.ค่าเสียโอกาสจากประเด็นสุขภาพ
ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการที่สถานการณ์ฝุ่นละอองไปกระตุ้นให้เกิดอาการเจ็บป่วย
เพราะจากข้อมูลสถิติพบว่า
จำนวนผู้ป่วยในกรุงเทพฯและปริมณฑลที่เป็นโรคภูมิแพ้/ระบบทางเดินหายใจ มีไม่ต่ำกว่า
2.4 ล้านคนส่งผลให้ค่าเสียโอกาสจากประเด็นด้านสุขภาพทั้งการรักษาและการป้องกันในเบื้องต้นคิดเป็นเม็ดเงินราว
1,600-3,100 ล้านบาท
2.ค่าเสียโอกาสด้านการท่องเที่ยว
ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่สถานการณ์ฝุ่นละอองทำให้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวจากเดิมที่มีแผนจะเดินทางมายังกรุงเทพฯ
ไปยังแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นของไทย ส่งผลให้เม็ดเงินค่าเสียโอกาสด้านการท่องเที่ยวเบื้องต้นอยู่ที่ประมาณ
1,000-3,500 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.5-4.5 ของรายได้ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ในช่วงเวลาที่ประเมิน
โดยสรุปแล้ว ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า
ผลทางเศรษฐกิจจากปัญหาฝุ่นละอองในกรุงเทพฯและปริมณฑล
จากค่าเสียโอกาสในประเด็นสุขภาพและด้านการท่องเที่ยว
ในเบื้องต้นอาจคิดเป็นเม็ดเงินอย่างน้อย 2,600 ล้านบาท
โดยกรอบเวลาที่ใช้ในการคำนวณคือไม่เกิน 1
เดือนซึ่งเริ่มเกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561 ดังนั้น
การจัดการกับปัญหาฝุ่นละอองสำหรับประเทศไทยให้ได้อย่างยั่งยืน
คงจะเป็นโจทย์ท้าทายที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันทั้งการศึกษาหาสาเหตุและการวางแนวทางแก้ไขปัญหาในระยะสั้นและระยะยาวต่อไป–สำนักข่าวไทย