ปิดจ็อบระบายข้าวปี 61 อย่างเป็นทางการ

นนทบุรี 8 ม.ค. – อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศปลื้มปิดจ็อบระบายข้าวค้างสตอกหมดเกลี้ยง 16.84 ล้านตัน ได้เงิน 1.45 แสนล้านบาท ลดภาระเก็บสตอกเดือนละ 1 พันล้าน แถมส่งผลดีดันยอดส่งออกข้าวไทยปี 61 ทะลุ 11.13 ล้านตัน เหตุไม่มีสตอกกดดัน ตั้งเป้าปี 62 ปริมาณไม่ต่ำกว่า 10 ล้านตัน เน้นส่งออกข้าวคุณภาพดี 


นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือน พ.ค. 57 – ธ.ค. 61 กรมฯ ในฐานะประธานคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสตอกของรัฐและเลขานุการคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวในสต็อกของรัฐที่ผ่านการตรวจนับปริมาณและมีผลการตรวจสอบและจัดระดับคุณภาพรวมทั้งสิ้น 16.84 ล้านตัน มูลค่ารวม 145,080 ล้านบาท ทำให้รัฐบาลไม่ต้องแบกรับภาระค่าเก็บรักษาข้าวไว้ในสตอกเดือนละกว่าพันล้านบาท ซึ่งได้ส่งผลดีทำให้กำจัดอุปทานส่วนเกินที่เคยกดทับตลาดและราคาข้าวไทยได้หมดไป จึงส่งผลโดยตรงทำให้ระบบการผลิต การค้า และราคาข้าวของไทยกลับสู่ภาวะปกติตามกลไกตลาด เรียกคืนความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ และยุติการนำข้ออ้างเรื่องสตอกข้าวของรัฐไปกดราคาข้าวฤดูกาลผลิตใหม่ที่เกษตรกรควรจะได้รับได้อย่างแท้จริง 

“ผลจากการระบายสตอกออกไปจนหมด ทำให้ปี 2561 ไทยสามารถส่งออกข้าวได้ตามเป้าหมาย มีปริมาณรวม 11.13 ล้านตัน หรือลดลงร้อยละ 3.36 เมื่อเที่ยบกับปีที่ผ่านมา แต่มูลค่ารวม 5,623 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 หรือคิดเป็นเงินบาท 180,413 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 ซึ่งเป็นการส่งออกเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและมูลค่า ส่งผลดีต่อราคาข้าวเปลือกในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น” นายอดุลย์ กล่าว 


สำหรับเป้าหมายการส่งออกข้าวปี 2562 เบื้องต้นคาดว่าปริมาณการส่งออกจะลดลงจากปี 2561 เล็กน้อย แต่จะผลักดันให้มีมูลค่าการส่งออกสูงขึ้น โดยสนับสนุนให้เกษตรกรเพาะปลูกข้าวคุณภาพดีและข้าวที่เป็นที่ต้องการของตลาด และกรมฯ มุ่งส่งเสริมการส่งออกข้าวคุณภาพสูง (Premium Rice) และผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากข้าวไทย โดยแม้ปริมาณลด มูลค่าไม่ได้ลดตาม แต่มีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อตลาดข้าวและเกษตรกรไทย 

ส่วนที่สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยประเมินว่าไทยจะส่งออกข้าวลดลง เนื่องจากราคาข้าวไทยสูงกว่าประเทศคู่แข่ง เช่น อินเดีย และเวียดนาม รวมทั้งผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้น กรมฯ เห็นว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินสถานการณ์การส่งออกข้าวไทยปี 2562 ว่าจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงจากปีที่ผ่านมา เพราะคู่ค้าหันไปซื้อข้าวจากคู่แข่ง เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการผลิต การตลาด และการส่งออกข้าวไทยยังคงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโลกภาพรวมจะยังชะลอตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อได้ ประกอบกับ ราคาข้าวของประเทศคู่แข่งอยู่ในระดับต่ำกว่าราคาข้าวไทย แต่ยังมีปัจจัยบวก คือ ความต้องการบริโภคข้าวของโลกยังมีต่อเนื่อง จากประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นและข้าวยังคงเป็นอาหารที่สำคัญสำหรับหลายประเทศ อาทิ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้นำเข้าข้าวยังคงเชื่อมั่นคุณภาพมาตรฐานข้าวไทย รวมทั้งราคาข้าวไทยยังสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ซึ่งกรมฯ ยังคงติดตามสถานการณ์และประเมินสถานการณ์ข้าวทั้งในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินเป้าการส่งออกข้าวในปี 2562 อีกครั้ง 

สำหรับการผลักดันการส่งออกข้าวปี 2562 กรมฯ มีแผนขยายตลาดและประชาสัมพันธ์ข้าวไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งบุกตลาดประเทศผู้นำเข้าสำคัญในภูมิภาคเอเชีย เช่น ฮ่องกง สิงค์โปร์ จีน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และภูมิภาคอื่น ๆ เช่น ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกา เพื่อขยายโอกาสการส่งออกข้าวไทยในตลาดโลก รวมทั้งจะมีการจัดกิจกรรมสำคัญในประเทศ ได้แก่ งานประชุมข้าวนานาชาติ Thailand Rice Convention 2019 ซึ่งเป็นเวทีระดับสากลให้ผู้ที่อยู่ในแวดวงการค้าข้าวจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ได้มาพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ มุมมอง วิสัยทัศน์ ตลอดจนข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการค้าข้าวของโลก และเป็นโอกาสอันดีของประเทศไทยในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ส่งออกข้าวของไทยและผู้นำเข้าข้าวจากประเทศคู่ค้าสำคัญ 


นอกจากนี้ จะเร่งผลักดันและขยายโอกาสทางการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากข้าวไทย ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยมีกิจกรรมสำคัญปี 2562 เช่น การสร้างความตระหนักรู้ในสินค้าเกษตรนวัตกรรม การจัดประกวดรางวัล Agri Plus Award 2019 การสร้างเครือข่ายด้านสินค้าเกษตรนวัตกรรมระหว่างหน่วยงานรัฐ เอกชน และสถานบันการศึกษา การเพิ่มช่องทางการจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า และขยายไปถึงการเพิ่มช่องทาง การจำหน่ายผ่านทางออนไลน์ ซึ่งเริ่มต้นแล้วที่จีนภายใต้ชื่อกิจกรรม APi goes China 

ส่วนการอำนวยความสะดวกการส่งออกข้าว กรมฯ จะมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเชื่อมโยงการออกใบรับรองมาตรฐานสินค้าทุกชนิดแบบคู่ขนานภายในเดือน มกราคม 2562 ทำให้ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอใบรับรองมาตรฐานสินค้าได้ทั้งที่กรมฯ และที่สภาหอฯ โดยสินค้าที่จะขอใบรับรอง ได้แก่ ข้าวโพด ถั่วเขียว ถั่วเขียวผิวดำ ข้าวฟ่าง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ปลาป่น ข้าวหอมมะลิไทย ปุยนุ่น เป็นต้น 

ขณะเดียวกันจะเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลและควบคุมคุณภาพมาตรฐานข้าวหอมมะลิไทย โดยกำหนดให้ผู้ส่งออกต้องแจ้งให้บริษัทผู้ประกอบธุรกิจตรวจสอบมาตรฐานสินค้า (บริษัทเซอร์เวย์) ตรวจสอบคุณภาพ ณ สถานที่จัดเก็บสินค้าข้าวหอมมะลิไทยของผู้ส่งออก ซึ่งกรมฯ จะส่งเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจเพื่อกำกับดูแลการตรวจสอบคุณภาพของผู้ตรวจสอบมาตรฐานสินค้า (เซอร์เวเยอร์ที่สังกัดบริษัทเซอร์เวย์) ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อผลการตรวจสอบถูกต้องตามมาตรฐานกำหนด จึงออกใบรับรองมาตรฐานสินค้าให้ผู้ส่งออกใช้ประกอบพิธีการศุลกากรเพื่อส่งออกข้าวหอมมะลิไทยต่อไป และยังจะเพิ่มการสุ่มตรวจตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง ได้แก่ 1.การสุ่มตรวจข้าวหอมมะลิไทยก่อนส่งออกจากโรงสีและผู้ส่งออกที่ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย และ 2.การสุ่มซื้อตัวอย่างข้าวหอมมะลิไทยที่บรรจุภัณฑ์ประทับตราเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยที่วางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าปลีก/ค้าส่ง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อดูแลคุณภาพและมาตรฐาน และทำให้ข้าวหอมมะลิไทยเป็นข้าวชั้นดีเลิศที่สุดของโลกต่อไป 

สำหรับความคืบหน้าการส่งมอบข้าวแบบ G to G กรมฯ อยู่ระหว่างส่งมอบข้าวงวดที่ 7 ปริมาณ 100,000 ตัน ให้ COFCO Corporation (COFCO) รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยคาดว่าจะเสร็จภายในเดือน มกราคม 2562 และได้เสนอให้ COFCO พิจารณาเจรจาราคาขายข้าวในงวดที่ 8 ปริมาณ 100,000 ตัน ซึ่งหากเจรจาตกลงราคาได้จะถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่งสำหรับชาวนาและตลาดข้าวไทย เนื่องจากมีคำสั่งซื้อปริมาณมากมารองรับผลผลิตข้าวที่ออกสู่ตลาด โดยผู้ส่งออกข้าวจะต้องไปรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาเพื่อส่งมอบภายใต้สัญญาดังกล่าว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรได้รับมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้นและส่งผลดีต่อการค้าข้าวไทยทั้งระบบ ทั้งนี้ กรมฯ จะเร่งเจรจาให้รัฐบาลจีนตกลงราคาและนำเข้าข้าวที่เหลือให้ครบปริมาณ 1 ล้านตันตามสัญญาแบบ G to G ให้เสร็จภายในปี 2562 โดยยอมรับแม้ขณะนี้ค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจะเป็นอุปสรรคสำคัญทำให้ราคาข้าวตลาดโลกสูงขึ้นและอาจทำให้ประเทศคู่ค้าข้าวไทยหันไปซื้อข้าวจากคู่แข่งบ้าง แต่ยังเชื่อมั่นคุณภาพข้าวไทยยังเป็นที่ต้องการของชาวโลกในอีกหลายประเทศที่สนใจและยอมสู้ราคาข้าวไทยได้

ทั้งนี้ ขณะที่ราคาข้าวไทยในตลาดโลก โดยข้าวหอมมะลิเฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 1,142 ดอลลาร์สหรัฐ ข้าวขาว 5 % อยู่ที่ตันละ 403 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ราคาข้าวขาว 5 % โดยข้าวเวียดนามเฉลี่ยตันละ 382 ดอลลาร์สหรัฐ ข้าวขาวอินเดียเฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 372 ดอลลาร์สหรัฐ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

แบงก์ชาติเตรียมแถลงบ่ายนี้ ปมผลกระทบ “บัญชีม้า”

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)-สมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูลบ่ายวันนี้ กรณีปัญหาผลกระทบประชาชน จากการระงับธุรกรรมเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้า ด้านนักวิเคราะห์ เปรียบเทียบปัญหาไทย-จีน หวังรัฐบาลใหม่เอาจริง ธปท.แจ้งว่า บ่ายวันนี้ เวลา 13.00-14.30 น. ธปท.จะมีการชี้แจงรายละเอียดการระงับธุรกรรมในเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้าให้แก่สื่อมวลชน ณ ห้องแถลงข่าว อาคาร 2 ธปท. โดยนางดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน นางสาวอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ธปท. และนายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูล การชี้แจงดังกล่าว ก็เป็นเรื่องต่อเนื่องจากวานนี้ที่มีการประชุมร่วมกันของหน่วยงานรัฐ-ธปท.-สมาคมธนาคารไทย เพื่อร่วมปลดล็อกปัญหา ปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต หลังจากมีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ตามขั้นตอน ทางธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

บ.เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงเหตุไฟไหม้เรือด่วน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

14 ก.ย. – บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงการณ์เหตุเพลิงไหม้เรือด่วน มีเรือได้รับความเสียหายหนัก 2 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 18.36 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือด่วนที่จอดเรียงติดกัน จำนวน 3 ลำ โดยมีเรือที่ได้รับความเสียหายหนักจำนวน 2 ลำ และได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่เรือได้จอดเลิกงานตามปกติแล้ว บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ไม่มีผู้โดยสารหรือพนักงานอยู่บนเรือ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าที่ต่อจากท่าเรือไปชาร์จแบตเตอรี่ในเรือต้นเพลิงลัดวงจร โดยเรือทั้งหมดได้เข้ามาจอดเลิกงานเวลา 18.15 น. และไม่ได้อยู่ระหว่างให้บริการ เมื่อเกิดเหตุ พนักงานประจำพื้นที่ได้เข้าดับเพลิงเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในระยะเวลา 45 นาที ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อวางมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น […]