นนทบุรี 4 ม.ค. – กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเตรียมดันธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์สู่มาตรฐาน ISO 9001 เพิ่มขีดความสามารถให้ธุรกิจแข่งขันได้ในระดับสากล
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าตระหนักถึงความจำเป็นในการยกระดับศักยภาพธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ไทยให้มีระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล จึงจัดกิจกรรมการพัฒนาธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์สู่มาตรฐาน ISO 9001 เพื่อพัฒนาและปรับปรุงระบบการบริหารจัดการให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลและได้รับการยอมรับจากผู้ใช้บริการอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันในระดับสากล
ทั้งนี้ กรมฯ จะคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพไม่น้อยกว่า 70 ราย ที่ผ่านการประเมินวิเคราะห์ศักยภาพธุรกิจจากผู้เชี่ยวชาญเข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการ พร้อมทั้งรับคำปรึกษาแนะนำการแก้ไขปัญหา อุปสรรคในการปฏิบัติงานจริง ณ สถานประกอบการให้คำปรึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับ ISO 9001 : 2015 พร้อมทั้งเพิ่มศักยภาพธุรกิจด้วยตัวชี้วัด 3 มิติ คือ มิติด้านต้นทุน ด้านเวลา และความน่าเชื่อถือ รวมถึงเข้าเยี่ยมชมธุรกิจต้นแบบที่มีระบบบริหารจัดการตามมาตรฐานสากล เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพจนประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ ธุรกิจที่ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงระบบการบริหารจัดการจนผ่านหลักเกณฑ์จะได้รับการตรวจประเมินภายในอีกครั้ง ก่อนขอการรับรองระบบมาตรฐานจากสถาบันผู้ให้การรับรองมาตรฐาน ISO 9001 : 2015 (Certification Body : CB)
นายวุฒิไกร กล่าวว่า ประเทศไทยมีศักยภาพสูงเป็นอันดับต้นในการเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของอาเซียน ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ที่ได้เปรียบโดยอยู่ตรงศูนย์กลางของภูมิภาค รวมถึงมีทรัพยากรบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ระดับคุณภาพจำนวนมาก หากภาครัฐและภาคเอกชนร่วมมือกันอย่างจริงจังจะสามารถนำพาประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาคได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ มีผู้ประกอบการที่ผ่านการพัฒนาจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 674 ราย แบ่งเป็นธุรกิจที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระบบบริหารงานคุณภาพ (ISO 9001 : 2015) 530 ราย และธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพโลจิสติกส์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 144 ราย แยกตามประเภทธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้า 472 ราย ธุรกิจตัวแทนรับจัดการขนส่งสินค้าตัวแทนออกของ 124 ราย ธุรกิจคลังสินค้า 34 ราย ธุรกิจการบริหารจัดการเกี่ยวกับสินค้า 16 ราย และธุรกิจอื่น 28 ราย สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2562 .-สำนักข่าวไทย