สุราษฎร์ธานี 3 ม.ค.- สสนก.นำอุปกรณ์ระบบดาวเทียมติดตั้งศูนย์ ปภ.เขต 11 สุราษฎร์ฯ จับทิศทางพายุ “ปาบึก” เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งอ่าวไทย 4 ม.ค. พร้อมประมวลผลแบบเรียลไทม์
วันนี้ (3 ม.ค.) ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประชุมร่วมกับนายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และนายอุดม เพชรคุต ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 เพื่อประเมินและวางแผนป้องกันผลกระทบจากพายุปาบึก นอกจากนี้ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) องค์การมหาชน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้นำอุปกรณ์และเครื่องมือที่มีเทคโนโลยีสูง มาติดตั้งเพื่อติดตามการเคลื่อนตัวของพายุดังกล่าว
นายสำเริง กล่าวว่า เครื่องมือที่ สสนก. นำมาติดตั้งเป็นระบบดาวเทียมติดตามการเคลื่อนตัวและทิศทางของพายุ ซึ่งสามารถประมวลผลแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ปริมาณน้ำได้อย่างทันท่วงที เพราะขณะนี้มีฝนตกตั้งแต่จังหวัดนราธิวาสขึ้นมาทางจังหวัดสงขลา และคาดว่าพายุจะขึ้นฝั่งบริเวณ อ.หัวไทร และ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช วันที่ 4 ม.ค.นี้ อาจมีฝนมากถึง 300 มิลลิเมตร ในพื้นที่สุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะคลื่นลมทะเลที่ซัดเข้าฝั่งสูงขึ้นต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ถ้าพายุมีความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจะทำให้คลื่นยกตัวสูงขึ้น 5 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง แต่สถานการณ์ล่าสุดได้อ่อนตัวลงคลื่นสูงประมาณ 4 เมตร ซึ่งพื้นที่เสี่ยงภัยนอกจากบนฝั่งแล้ว ในพื้นที่เกาะแก่ง เช่น สมุย พะงัน และเกาะเต่า ยังไม่น่าวางใจ.-สำนักข่าวไทย