กรุงเทพฯ 3 ม.ค. – “สุกฤตย์ สุรบถโสภณ” ยื่นเกษียณก่อนอายุ เหตุผลไปทำงานส่วนตัว พร้อมย้ำผู้ถือหุ้นไม่ต้องกังวล ซีอีโอไออาร์พีซีคนใหม่พร้อมสานงานต่อ และส่งผลให้ผลดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมายสูงสุดปี 2563
นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) และผู้บริหาร บมจ.ปตท. เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือเข้าโครงการเกษียณก่อนกำหนด (EARLY RETIRE ) มีผลวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 โดยการยื่นครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้ง หรือไม่พอใจที่จะถูกโยกย้ายให้กลับไปตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.แต่อย่างใด แต่เป็นความตั้งใจนานแล้ว เพราะตนเป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.ที่ถูกส่งมาอยู่ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ไออาร์พีซี เป็นเวลากว่า 5 ปี และจะเกษียณอายุเดือนกันยายนนี้ ขณะที่มีโครงการจะไปทำธุรกิจส่วนตัวด้านอื่น
“การเข้าโครงการ ER เนื่องจากว่าเหลืออีก 8 เดือน ก็ขอใช้เวลานี้ไปทำงานอื่น ๆ ซึ่งขอยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งกับนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ซีอีโอ ปตท.และประธานบอร์ดไออาร์พีซี แต่อย่างใด ส่วนแผนงานของไออาร์พีซีเดินหน้าเหมือนเดิม ผลประกอบการไออาร์พีซีจะดีที่สุดในปี 2563 (ค.ศ. 2020 ) ตามที่ประกาศไว้ในแผนงานเอเวอร์เรสต์ ” นายสุกฤตย์ กล่าว
นายสุกฤตย์ กล่าวว่า ผู้ถือหุ้นไออาร์พีซี ไม่ต้องกังวลใด ๆ เพราะนายนพดล ปิ่นสุภา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ปตท. ซึ่งจะมาเป็นซีอีโอคนใหม่ของไออาร์พีซี เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ สามารถทำงานต่อเนื่องที่ทำไว้ โดยเฉพาะแผนงาน 5 ปี (2562-2566) ที่จะมีการลงทุน 70,000 ล้านบาท เช่น โครงการ Maximum Aromatics (MARS) ประมาณ 30,000 ล้านบาท ขยายกำลังผลิตอะโรเมติกส์ เพิ่มกำลังการผลิตพาราไซลีนเป็น 1.1-1.3 ล้านตันต่อปี และเบนซีน 300,000-500,000 ตันต่อปี คาดว่าเสร็จปี 2566 โครงการ Galaxy เพื่อลงทุนซื้อกิจการ (M&A) ต่อยอดธุรกิจใช้งบลงทุนประมาณ 20,000 ล้านบาท โครงการ Ultra Clean Fuel Project (UCF) การลงทุนรองรับการประกาศใช้น้ำมันดีเซลมาตรฐาน Euro V โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 8,000 ล้านบาท และที่เหลืออีกกว่า 10,000 ล้านบาทเป็นงบสำหรับซ่อมบำรุงโรงงานตามปกติ โดยแผนงานนี้เป็นแผนยุทธศาสตร์ภายใต้ชื่อ GDP (Power of Growth Power of Digital และ Power of People) ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทให้อยู่ระดับ Top Quartile ของกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีในปี 2563 และมี EBITDA อยู่ที่ 29,000 ล้านบาท
ด้านรายงานข่าวจาก ปตท.แจ้งว่าการโยกย้านนายสุกฤตย์ เป็นไปตามนโยบายของ ปตท.ที่ได้สร้างวัฒนธรรม วิถีแห่ง ปตท. หรือ PTT WAY คือ การส่งผู้บริหาร ปตท.ไปเป็นซีอีโอ และซีเอฟโอ ของบริษัทในเครือที่มีประมาณ 200 บริษัท มีกำหนดวาระ 4 ปี หลังจากนั้นจะพิจารณาต่ออายุในบริษัทนั้น ๆ หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เช่น ไออาร์พีซี ,บมจ.พีทีทีโกลบอลเคมิคอล (พีทีทีจีซี) ทาง ปตท.จะไม่ต้องการให้เกิดการเกษียณในบริษัทนั้น จะให้กลับมาเกษียณที่ ปตท. แล้วส่งผู้บริหารคนอื่นไปทำงาน แทน เพื่อให้เกิดการทำงานที่ต่อเนื่อง ซึ่งกรณีนายสุกฤตย์ ก็เป็นที่ทราบกันดีว่านายสุกฤตย์ต้องการ ER เพื่อไปทำงานใหม่ที่ตั้งเป้าหมายไว้. -สำนักข่าวไทย
