การเหยียดผิว!!! ตัวบ่อนทำลายวงการกีฬาโลก

อิตาลี 28 ธ.ค.- เรื่องใหญ่ของวงการฟุตบอล คาลิดู คูลิบาลี กองหลังทีมชาติเซเนกัล วัย 27 ปีของนาโปลี ถูกแฟนบอลอินเตอร์ มิลาน ตะโกนโห่เหยียดผิว ก่อนที่เขาจะทำฟาวล์ถูกใบเหลืองแดงไล่ออกจากสนามในเกมกัลโช่ เซเรีย อา 


การเหยียดผิวหรือเหยียดเชื้อชาตินักกีฬาเกิดขึ้นกับวงการกีฬาทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในวงการฟุตบอลยุโรปที่มักจะเกิดเหตุการณ์แฟนบอล เหยียดผิวนักเตะ จนเป็นเรื่องราวใหญ่โตไปทั่วโลก แม้ว่าสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า และสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกียวข้องกับวงการฟุตบอลทั่วโลกจะรณรงค์ในเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหยียดผิวและเชื้อชาติได้


โดยเหตุการณ์เหยียดผิวล่าสุด เกิดขึ้นในศึกกัลโช เซเรีย อา ของอิตาลี คู่บิ๊กแมตช์ นัดกลางสัปดาห์ ระหว่าง ทีมงูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน เปิดสนามจูเซ็ปเป เมอัซซา เฉือนเอาชนะ นาโปลี 1-0 ซึ่งแฟนบอลเจ้าถิ่น แสดงกิริยาเหยียดผิว ทำเสียงลิงล้อเลียน คาลิดู คูลิบาลี ทีมชาติเซเนกัล วัย 27 ปีของนาโปลี ตลอดทั้งเกม แม้ว่าในระหว่างเกม โฆษกสนามจะประกาศเตือนออกไมค์ ถึงสามครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล จนทำให้ คูลิบาลี ตบะแตกไปทำฟาวล์นักเตะอินเตอร์ ก่อนที่จะปรบมือประชดกรรมการจนถูกใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามในนาทีที่ 80 ซึ่งจะทำให้ คูลิบาลี ถูกแบน 2 นัดจากประชดกรรมการครั้งนี้  

ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ สหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี หรือ FIGC ประกาศลงโทษ อินเตอร์ ห้ามแฟนบอลเข้าชมเกมในบ้าน 2 นัด คือ เกมพบ เบเนเวนโต ในศึกโคปปา อิตาเลีย รอบ 16 ทีมสุดท้าย วันที่ 13 มกราคม และเกมพบ ซาสซูโอโล ในเกมลีก วันที่ 19 มกราคม และเกมเหย้า หรือในบ้านนัดถัดไปที่จะพบ โบโลญญา วันที่ 3 กุมภาพันธ์ แฟนบอลอินเตอร์ สามารถเข้าชมเกมได้ แต่อัฒจันทร์ฝั่งอุลตร้าถูกสั่งปิด นอกจากนี้เกมไปเยือน เอ็มโปลี วันที่ 29 ธันวาคมนี้ เอ็มโปลี ประกาศไม่ขายตั๋วให้แฟนอินเตอร์เข้าชมอีกด้วย 


ขณะที่ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือของนาโปลี ได้แสดงความไม่พอใจอย่างมากกับเหตุการณ์นี้ พร้อมประกาศว่า หลังจากนี้หากลูกทีมของเขาถูกเหยียดผิวอีกแม้แต่ครั้งเดียว เขาจะพาลูกทีมวอล์กเอ้าท์จากสนามทันที แม้ว่าทีมจะถูกปรับให้แพ้ก็ตาม อันเช บอกอีกว่า เขาโมโหมากๆ เพราะทางทีมได้ขอให้หยุดเกมถึง 3 ครั้งหลังจากมีแฟนบอลตะโกนเหยียดผิว คูลิบาลี ซึ่งถือเป็นนักเตะที่มีการศึกษาที่ดี แต่กลับโดนจ้องเล่นงาน มันถือเป็นเรื่องที่แย่ต่อวงการฟุตบอลอิตาลีอย่างมาก

ส่วนนักเตะชื่อดังระดับโลกต่างโพสต์ลงอินสตาแกรม ให้กำลังใจ คูลิบาลี กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เริ่มที่ คริสเตียโน โรนัลโด จากทีมม้าลาย ยูเวนตุส บอกว่า “ในโลกและในเกมฟุตบอล มันควรจะต้องให้ความเคารพต่อกันเสมอ มันต้องไม่มีการเหยียดผิว หรือการกระทำเชิงเหยียดหยามและแบ่งแยกใดๆทั้งสิ้น”

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จากทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล โพสต์ในทวิตเตอร์สนับสนุนต่อต้านการเหยียดผิวว่า “วงการฟุตบอลไม่มีพื้นที่ให้กับการเหยียดผิว ไม่มีที่ไหนที่จะเหยียดผิวได้ทั้งนั้น”

ซาดิโอ มาเน เพื่อนร่วมทีมลิเวอร์พูล และเพื่อนร่วมทีมชาติเซเนกัลของ คูลิบาลี โพสต์ในอินสตาแกรม  ว่า “ฉันผิดหวังกับสิ่งที่นายต้องเจอ แต่ฉันรู้จักนายดีพอและรู้ว่ามันจะทำอะไรนายไม่ได้ เราภาคภูมิใจในเชื้อชาติของเรา และจะปกป้องมันเหมือนที่เราปกป้องชาติของเรา”

ย้อนดูเหตุการณ์เหยียดผิวที่เกิดขึ้นกับวงการฟุตบอล โดยเฉพาะนักเตะชื่อดังกันอีกครั้ง เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ชมได้ร่วมกันรณรงค์ไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับวงการฟุตบอลในบ้านเรา เริ่มที่มาริโอ บาโลเตลลี่ สมัยค้าแข้งกับ เอซี มิลาน ถูกเหยียดผิวจนร้องไห้ และปัจจุบันค้าแข้งกับนีซ ในลีกเอิง ก็ถูกแฟนบอลร้องเพลงเหยียดผิว และทำเสียงเลียนแบบเสียงลิง

ดานี อัลเวส ของบาร์เซโลนา ลงเล่นพบ บียาร์เรอัล ในลาลีกา สเปน ถูกแฟนบอลโยนกล้วยหอมลงมาบริเวณมุมธงในขณะกำลังจะเตะมุม แต่อัลเวส ก็แก้เผ็ดด้วยการหยิบกล้วยขึ้นมากิน ซึ่งจากนั้นแฟนบอลเจ้าถิ่น ก็ถูกแบนห้ามเข้าสนามตลอดชีวิต

 เอ็มมานูเอล เอบูเอ ของกาลาตาซาราย ในลีกตุรกี ถูกแฟนบอล เบซิคตัส ตะโกนด่า แสดงพฤติกรรมเหยียดผิว ปาขวดน้ำ ไฟแช็คใส่ จนร้องไห้

 ปาทริซ เอวรา ของแมนฯยู ก็ถูก หลุยส์ ซัวเรซ ของลิเวอร์พูล ในขณะนั้น ใช้ถ้อยคำเหยียดผิว ซึ่งซัวเรส เองก็ยอมรับว่าพูดคำว่า “นิโกร” แต่ไม่ได้มีเจตนาเหยียดผิดเพื่อร่วมอาชีพ นอกจากนี้ยังมีนักเตะอีกหลายคนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ทั้งเควิน ปรินซ์ บัวเต็ง นักเตะชาวกาน่า ของเอซี มิลาน , ซามูเอล เอโต นักเตะแคเมอรูน ของบาร์เซโลนา และ ราฮีม สเตอร์ริง นักเตะอังกฤษของแมนฯซิตี้ ที่ถูกแฟนบอลเชลซี เหยียดผิว

หวังว่าในอนาคตอันใกล้นี้ เหตุการณ์เหยียดผิว เหยียดเชื้อชาติในวงการกีฬา และวงการฟุตบอลจะหมดไป แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ยาก ที่จะเปลี่ยนความคิดของแฟนกีฬาเหล่านี้ก็ตาม.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]