ผกก.คันนายาวจี้สอบ”อัยการปรเมศวร์”แทรกแซงคดีไอ้คล้าว 2018

กรุงเทพฯ 21 ธ.ค.- ผู้กำกับ สน.คันนายาว นำเอกสารบทสัมภาษณ์รายการทีวีร้องอัยการสูงสุด สอบ”อัยการปรเมศวร์”วิจารณ์คดี”ไอ้คล้าว 2018”หวั่นกระทบรูปคดี


พันตำรวจเอกสิงห์ สิงห์เดช ผู้กำกับการ สน.คันนายาว นำข้อมูลเกี่ยวกับกรณีที่นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดี สำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด ไปออกรายการที่สถานีโทรทัศน์ 2 สถานี และให้สัมภาษณ์ในประเด็นพาดพิงเกี่ยวกับคดีไอ้คล้าว ควายยิ้ม 2018 อีกทั้งวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวว่า “ทำสำนวนอย่างไร้สติกลั่นแกล้งชาวบ้าน”ส่งมอบให้รองโฆษกอัยการสูงสุด พร้อมร้องขอให้อัยการสูงสุดตรวจสอบจริยธรรมและวินัยนายปรเมศวร์

โดยพ.ต.อ.สิงห์ กล่าวว่า การวิพากษ์วิจารณ์ของนายปรเมศวร์ ถือว่าเป็นการดูถูกพนักงานสอบสวน ซึ่งไม่เหมาะสมและอาจทำให้รูปคดีเสียหายได้ สำหรับคดีนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนใหม่ตามคำร้องขอของทนายความนายสุรัตน์ แผ้วเกตุ ผู้ต้องหา ซึ่งการสืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐานในคดีนี้จะดำเนินการต่อเนื่องจากที่เริ่มต้นไว้ตั้งแต่มีการรับแจ้งความ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการติดตามผู้บริจาคเงินมาทางบัญชีแต่ละรายว่ามีประสงค์ที่จะบริจาคเนื่องจากสาเหตุอะไรและประสงค์จะดำเนินคดีกับนายสุรัตน์เพิ่มเติมหรือไม่ ส่วนการพูดคุยเจรจากันระหว่างนายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ หนึ่งในผู้ร่วมบริจาคและตัวนายสุรัตน์เองก็ให้เป็นสิทธิ์ของทั้งสองฝ่าย ส่วนการที่ตนเองจะไปเป็นตัวกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยนั้นคงไม่สามารถทำได้ เนื่องจากขณะนี้เป็นการทำงานในรูปแบบคณะทำงานแล้ว


ด้านายประยุทธ์ เพชรคุณ และนายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองโฆษก สำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่าในเบื้องต้นจะรับคำร้องทุกข์ของผู้กำกับการสน.คันนายาวไว้ ก่อนที่จะเรียกตัวนายปรเมศวร์ มาสอบถามถึงประเด็นดังกล่าวที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งหากได้ผลเป็นเช่นใดแล้วก็จะดำเนินการตามที่ผู้ร้องทุกข์ได้แจ้งเรื่องมา ซึ่งตามปกติแล้วเรื่องดังกล่าวมีการกำหนดไว้ในระเบียบการให้ข่าวของสำนักงานอัยการสูงสุดอย่างชัดเจนว่า หน้าที่การให้ข่าวในเรื่องต่างๆ เป็นหน้าที่ของคณะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ส่วนอัยการท่านอื่นจะให้ข้อมูลก็สามารถให้ข้อมูลเป็นการส่วนตัว เช่น การให้ข้อมูลด้านกฎหมายแก่นักเรียนหรือนักศึกษา ส่วนการไปให้ข้อมูลต่างๆซึ่งอาจจะมีผลต่อรูปคดี ก้าวก่ายหรือเกิดความเสื่อมเสียต่อหน่วยงานหรือองค์กรอื่นๆก็ถือว่าเข้าข่ายอาจผิดระเบียบได้ ซึ่งโทษโดยปกติแล้วจะมีตั้งแต่การตักเตือนไปจนถึงการปลดออกไล่ออก แต่ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่านายปรเมศวร์มีความผิดจริงหรือไม่ต้องรอการตรวจสอบจากคณะทำงาน  ซึ่งยังไม่สามารถระบุรายละเอียดเงื่อนไขเวลาที่ชัดเจนได้เนื่องจากเป็นเรื่องที่ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว

กะเหรี่ยงโจมตีฐานทหาร

ชาวเมียนมาหนีตายข้ามมาฝั่งไทย หลังทหารกะเหรี่ยงโจมตีฐานทหารเมียนมา

สถานการณ์แนวชายแดนไทย-เมียนมา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังทหารกะเหรี่ยงจำนวนมากบุกโจมตีฐานทหารเมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่ระมาด จ.ตาก ล่าสุดยังปะทะกันอย่างดุเดือด ทำให้ชาวเมียนมา 233 คน ต้องอพยพหนีตายข้ามแม่น้ำเมยมาฝั่งไทย