ปฏิบัติการ “ขุดทรัพย์มังกรจาง เครือข่ายไอซ์ข้ามชาติ”

ตาก 20 ธ.ค.-วันนี้ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับหลายหน่วยงานทั้งไทยและต่างประเทศ บุกตรวจค้นยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติได้กว่า 200 ล้านบาท

ในพื้นที่ 22 ไร่ พบอุโมงค์ลับจากอาคารหลังหนึ่ง ระยะทางราว 50 เมตร เชื่อมออกไปยังด้านหลัง ยังพบห้องอีกห้องหนึ่ง ลักษณะคล้ายห้องทดลอง มีอุปกรณ์ทดลองทางวิทยาศาสตร์ และสูตรต่างๆ เขียนไว้

นายประพัตร แซ่ต๋วง ถูกจับกุมตัวจากปฏิบัติการนี้ เขาเป็นกรรมการผู้ถือหุ้นของบริษัท เซาท์เทิร์น ครอส กรุ๊ป จำกัด แต่ตำรวจสืบสวนจนรู้ว่า นายประพัตรเป็นเพียงล่าม แต่ถูกตั้งให้เป็นตัวแทน หรือนอมินี ของหัวหน้าขบวนการค้ายาเสพติดตัวจริง ที่ชื่อว่า นายสือ ทรงกิตติกุล หรือเสี่ยจาง และชาวฮ่องกงอีกคนนายสือ เป็นชื่อตามบัตรประชาชนไทย แต่เขายังถือพาสปอร์ตเมียนมา ในชื่อ มิน อ่อง เป็นคนสองสัญชาติ ถูกคณะกรรมการกลางควบคุมยาเสพติดของเมียนมาล่าตัวมาตั้งแต่ปลายปี 2559 ซึ่งครั้งนั้นเมียนมาเปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ จับผู้ต้องหาได้ 10 คน มีทั้งชาวเมียนมา ไต้หวัน ฮ่องกง และออกหมายจับไว้ 14 คน หนึ่งในนั้นคือ นายสือ แต่จนถึงทุกวันนี้ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ เชื่อว่ากบดานอยู่กับชนกลุ่มน้อยฝั่งตรงข้ามแม่สอด โดยให้นายประพัตร ลูกน้องคนสนิท เป็นผู้ถือหุ้นแทน เพื่อป้องกันการถูกยึดทรัพย์    

เครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติของนายสือ มีทั้งชาวไต้หวัน ฮ่องกง มาเลเซีย ไทย ออสเตรเลีย และเมียนมา นำสารตั้งต้นจากแอฟริกาใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ และอินเดีย ส่งให้ชนกลุ่มน้อยว้า เขตปกครองพิเศษ 2 เมืองปางซาง ในเมียนมา นำไปผลิตยาไอซ์ ยาบ้า และเคตามี หรือยาเค มีทีมขนยาซึ่งเป็นคนในเครือข่ายของนายสือเอง เป้าหมายขายยาเสพติดให้กลุ่มนักค้าในไทยและออสเตรเลีย



ยาเสพติดเครือข่ายนายสือ ถูกส่งเข้าไทยผ่านกลุ่มของนายณัฐพล นาคคำ ซึ่งถูกจับกุมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2560 จนขยายผลพบนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง ร่วมฟอกเงินถือทรัพย์แทน และจากการสืบสวนตรวจสอบเส้นทางการเงินครั้งนั้น พบว่ากลุ่มค้ายารายใหญ่ของไทยโอนเงินค่าขนยาเสพติด 1 ล้านบาท ให้นายประพัตร แซ่ต๋วง ลูกน้องคนสนิทของนายสือ

ปฏิบัติการ “ขุดทรัพย์มังกรจาง เครือข่ายไอซ์ข้ามชาติ” ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับทหารกองทัพภาคที่ 3 เจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติด สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา หรือ DEA และตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย หรือ AFP จู่โจมพร้อมกัน 25 จุด ในจังหวัดตาก เชียงใหม่ เชียงราย ลพบุรี และกรุงเทพมหานคร เพื่อยึดทรัพย์ตัดเส้นทางการเงินของบุคคลและบริษัทที่เกี่ยวพันกับนายสือ ทรงกิตติกุล หัวใหญ่ของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ได้ราว 200 ล้านบาท จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน คือ นายประพัตร ผู้ถือหุ้นแทนนายสือ และนางนาทอ ยอดมหาวรรณ แม่ยายของนายประพัตร ซึ่งพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รับชันสูตรศพ “ผกก.โจ้” ยาก เหตุศพไม่อยู่สภาพเดิม

ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับชันสูตรศพ ผกก.โจ้ ยาก เพราะศพไม่อยู่ในสภาพเดิม ยันดูวงจรปิดไม่พบพิรุธ ยังยิ้มแย้มทักทายผู้ต้องขัง ยกมือไหว้ผู้คุม แต่พบเลือดหยดข้างศพ และแขนซ้ายมีรอยกัดของสัตว์ขนาดเล็ก

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหารช่วยเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหาร พร้อมกำลังพลจิตอาสากองทัพบก เข้าช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และอพยพผู้ป่วย จากเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อน-ภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดในภาคเหนือ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อน และมีฝนฟ้าคะนอง 20%

ทลายเครือข่ายเบิกงบซ่อมรถทิพย์ ทุจริตงบ กทม.

คดีการจับกุม 7 เจ้าหน้าที่กองการกีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร ที่ร่วมกันทุจริตปลอมใบเสนอราคาเบิกเงินซ่อมรถบัส ในชั้นสอบสวนได้ให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัวไป ขณะที่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม หลังตำรวจออกมาเผยว่ามีความเกี่ยวข้องกับโครงการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายที่ถูกตรวจสอบไปก่อนหน้านี้

กระบะตัดหน้ารถไฟ ชนสนั่น ตาย 4 เจ็บ 6

กระบะขนคนงานจับกุ้งกุลาดำ ขับตัดหน้ารถไฟ ก่อนพุ่งชนสนั่น ตายคาที่ 4 ศพ เจ็บระนาวอีก 6 ราย ขณะที่คนขับไร้อาการบาดเจ็บ อ้างไม่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือน ตำรวจคุมตัวตรวจพบฉี่ม่วง เจ้าตัวยอมรับเสพยาบ้า ก่อนแจ้ง 2 ข้อหาหนัก

ผลตรวจดีเอ็นเอ “ผกก.โจ้” ออกแล้ว ส่งให้ สน.ประชาชื่น

ออกแล้ว ผลตรวจผ้าขนหนู คดี “ผกก.โจ้” ไม่พบดีเอ็นเอของบุคคลอื่น เตรียมส่งผลให้พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินการต่อ