เปิดสถิติคนไทยตายจากอุบัติเหตุท้องถนน พุ่ง 60คนต่อวัน

รัชดาภิเษก 20 ธ.ค.-WHO เผยคนไทยตายจากอุบัติเหตุท้องถนนพุ่ง 60 คนต่อวัน วัยรุ่นสูงสุด  เหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 74 ครองแชมป์อันดับ 1 ในเอเชีย 


องค์การอนามัยโลก และผู้เชี่ยวชาญ ภาคีด้านความปลอดภัยทางถนน จัดแถลงข่าว “เจาะเหตุผลคนไทยตายมากขึ้นหรือน้อยลงบนถนน” โดย นพ.แดเนียล เอ เคอร์เทสซ์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย (WHO) กล่าวว่า จากรายงานสถานการณ์ความปลอดภัยทางถนนโลกปี 2561 พบผู้เสียชีวิตจากการชนบนถนนทั่วโลกเพิ่มขึ้นจาก 1.25 ล้านคน เป็น 1.35 ล้านคนต่อปี เฉลี่ย 3,700 คนต่อวัน มากกว่าครึ่งเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ จักรยานและคนเดินถนน 


ขณะที่สถานการณ์ในประเทศไทยพบมียอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 22,491 คนต่อปีหรือเฉลี่ยเสียชีวิต 60 คนต่อวัน ถือเป็นตัวเลขที่สูงเกินกว่าจะยอมรับได้ และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ เป็นเยาวชน อายุ 15-29 ปี ชายเสียชีวิตมากกว่าหญิง 3 เท่าตัว โดยร้อยละ74 ของผู้เสียชีวิตเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และรถสามล้อ โดยพบจำนวนรถจักรยานยนต์ในไทยเพิ่มขึ้นจาก19 ล้านคัน เป็นกว่า 20 ล้านคัน ดังนั้น รัฐบาลไทยและผู้มีส่วนรับผิดชอบทุกฝ่าย ควรเน้นสร้างความปลอดภัยทางถนน โดยมุ่งเน้นความสำคัญกับเยาวชนและรถจักรยานยนต์ให้มากขึ้น


นพ.วิทยา ชาติบัญชาชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือระหว่างองค์การอนามัยโลกและ รพ.ขอนแก่น ด้านวิกฤตบำบัดและอุบัติเหตุ กล่าวว่าจากประมาณการเสียชีวิตจากภัยบนท้องถนนของไทยในรายงานปี 2561 จะลดลงจากปี2558 จาก 36.2 ต่อแสนประชากร เป็น 32.7 ต่อแสนประชากร แม้ไทยจะมีจำนวนผู้เสียชีวิตลดอันดับจากอันดับที่ 2 ของโลกเป็นอันดับ 9 ในรายงานฉบับล่าสุดแต่ยังคงป็นอันดับ 1 ในเอเชีย ทิ้งห่างจากเวียดนาม และมาเลเซีย โดยเฉพาะสัดส่วนการเสียชีวิตจากรถจักรยานยนต์ของไทย สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก และอาจเลื่อนเป็นอันดับ 1 ของโลกในอนาคต จะเห็นว่าสถานการณ์ของภัยบนท้องถนนของไทยยังอยู่ในภาวะวิกฤต องค์การอนามัยโลกแนะนำหากจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจำเป็นจะต้องเร่งจัดตั้ง Lead Agency หรือองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนนเฉพาะ ที่มีบุคลากรมืออาชีพทำงานเต็มเวลา มีงบประมาณและมีอิสระในการดำเนินงาน เพื่อประสานการดำเนินการและการกำกับติดตามเพื่อความปลอดภัยทางถนนอย่างเป็นระบบ โดยมาตรการส่งเสริมการใส่หมวกกันน็อค หากทำได้จะสามารถลดผู้เสียขีวิตได้เกือบ 5,000 คนต่อปี

อย่างไรก็ตามจากการสำรวจ Super Poll ของศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.)ที่สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่องความปลอดภัยทางถนน ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.ที่ผ่านมา พบว่าประชาชนเห็นว่าปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ถือเป็นประเด็นเร่งด่วนที่ต้องการให้รัฐบาลใหม่ วางนโยบายดำเนินการจัดการปัญหาอย่างจริงจังและเป็นระบบ โดยเฉพาะพฤติกรรมอันตรายฝ่าฝืนกฎจราจร ย้อนศร ฝ่าไฟแดง ชนแล้วหนี แซงไหล่ทาง สร้างถนน ฟุตปาธที่ปลอดภัย จัดรถสาธารณสะดวกเหมาะสม รวมถึงเลนของจักรยานต์ลดอุบัติเหตุ  เป็นต้น .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก