กกพ.ยกอุทธรณ์ “จีพีเอสซี” ควบรวม “โกลว์”

กรุงเทพฯ 13 ธ.ค. – กกพ.มีมติยกอุทธรณ์จีพีเอสซี ภายหลังใช้สิทธิ์อุทธรณ์ขอให้ทบทวนคำสั่งไม่เห็นชอบให้รวมกิจการกับโกลว์ พิจารณาวินิจฉัยแล้ว ยืนคำชี้ขาด “ลดการแข่งขัน”  


นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า จากเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2561 กกพ.มีมติไม่เห็นชอบให้บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือจีพีเอสซี ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการพลังงาน กระทำการรวมกิจการกับบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือโกลว์ ผู้รับใบอนุญาตอีกราย เนื่องจากเป็นการลดการแข่งขันตามนัยของมาตรา 60 แห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการพลังงานฯ และข้อ 8 ของระเบียบ กกพ. ว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อมิให้มีการรวมกิจการอันก่อให้เกิดการผูกขาด ลดการแข่งขัน หรือจำกัดการแข่งขันในการให้บริการพลังงาน พ.ศ. 2552  ต่อมาเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2561 จีพีเอสซี ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่ง กกพ.ที่มีมติไม่เห็นชอบ ซึ่งเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ได้มีมติให้สำนักงาน กกพ.เสนอเรื่องอุทธรณ์จีพีเอสซีเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการพิจารณาอุทธรณ์คำวินิจฉัยคำสั่ง ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือข้อกำหนดของ กกพ. 

“เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2561 กกพ.มีมติให้ยกอุทธรณ์ของจีพีเอสซี  ที่ใช้สิทธิ์อุทธรณ์คำสั่ง กกพ.ที่ไม่เห็นชอบให้รวมกิจการกับ โกลว์ โดย กกพ.วินิจฉัยแล้ว เห็นว่าแม้ธุรกิจของการจำหน่ายไฟฟ้าจะเป็นการผูกขาดโดยธรรมชาติและในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม โดยส่วนใหญ่จะมีผู้ให้บริการจำหน่ายไฟฟ้าเพียงรายเดียว แต่ตามข้อเท็จจริงปรากฏว่าในพื้นที่ที่มีการอุทธรณ์มีผู้ให้บริการจำหน่ายไฟฟ้า 2 รายในพื้นที่ การที่มีการรวมกิจการจนทำให้เหลือผู้ให้บริการจำหน่ายไฟฟ้าเพียงรายเดียว โดยสภาพจึงเป็นการลดการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น การไม่เห็นชอบให้กระทำการรวมกิจการตามที่ยื่นขออนุญาต เนื่องจากเป็นการลดการแข่งขัน จึงเป็นการพิจารณาที่เป็นไปตามกฎหมายแล้ว” เลขาธิการ กกพ. กล่าว 


โดย กกพ.ได้เห็นชอบตามความเห็นของคณะอนุกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ฯ ที่ได้พิจารณาประเด็นข้อกฎหมายตามที่จีพีเอสซี โต้แย้งคำสั่ง กกพ. แล้ว เห็นว่าการที่ กกพ.ไม่เห็นชอบให้กระทำการรวมกิจการตามที่ยื่นขออนุญาต เนื่องจากเป็นการลดการแข่งขัน จึงเป็นการพิจารณาที่เป็นไปตามกฎหมายแล้ว อุทธรณ์ของจีพีเอสซี ในประเด็นข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงที่ได้ยื่นอุทธรณ์มา จึงฟังไม่ขึ้น แม้ปัจจุบันอาจไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน แต่ระยะยาวการที่ยังคงมีการแข่งขันในพื้นที่ย่อมดีกว่ามีผู้ประกอบกิจการเพียงรายเดียว กกพ. จึงควรส่งเสริมให้ยังคงมีการแข่งขันต่อไป เพราะพื้นฐานของธุรกิจลักษณะนี้ผลประโยชน์สุดท้ายจะตกแก่ผู้รับบริการในพื้นที่ สำหรับขั้นตอนต่อไปทางสำนักงาน กกพ.จะแจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ให้จีพีเอสซี รับทราบต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร