กรุงเทพฯ 3 ต.ค. – ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หารือ อนุมัติธุรกรรมการปรับโครงสร้าง ควบรวมบริษัทกับ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) คาดเสร็จสิ้นกลายเป็นบริษัทใหม่ ”อาณาจักรโครงสร้างพื้นฐานที่ยิ่งใหญ่” ภายใน เม.ย.68
นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานกรรมการบริหาร GULF กล่าวว่า คาดธุรกรรมดังกล่าวจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/2568 การที่ GULF และ INTUCH ได้ประกาศควบรวมกิจการ เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างของบริษัทที่เกี่ยวข้องให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการดำเนินการในการบริหารจัดการและการลงทุนในอนาคต รวมทั้งเพื่อลดความซ้ำซ้อนของโครงสร้างการถือหุ้นและต่อยอดโอกาสเติบโตในธุรกิจพลังงาน & โครงสร้างพื้นฐาน และธุรกิจดิจิทัล เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต การควบรวมส่งผลให้บริษัทเดิมทั้งสองหมดสภาพ และเกิดเป็นบริษัทใหม่ที่ควบรวมขึ้น (NewCo) โดย 1 หุ้นเดิมใน GULF ต่อ 1.02974 หุ้นใน NewCo และ 1 หุ้นเดิมใน INTUCH ต่อ 1.69335 หุ้นใน NewCo สำหรับดีลนี้ ทาง กัลฟ์ใช้วงเงินกู้ทั้งในและต่างประเทศ มีเครดิตวงเงินกู้ มีสถาบันการเงินเสนอเครดิตวงเงินกู้ให้กัลฟ์เกือบ 4 แสนล้านบาท แต่ประเมินแล้วจะใช้วงเงินประมาณ 8.9 หมื่นล้านบาท โดยเป็นวงเงินสำหรับ VTO สำหรับ AIS ประมาณ 8.2 หมื่นล้านบาท และไทยคม 7 พันล้านบาท
สำหรับการควบระหว่างครั้งนี้จะช่วยให้ธุรกิจมีความคล่องตัวมากขึ้น ช่วยเพิ่มรายได้ และกำไรทั้งธุรกิจพลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน ดาต้าเซ็นเตอร์ และคลาวด์ เป็นต้น ให้ผ่านพ้นความผันผวนในระยะยาว สร้างสมดุล แบ่งเป็น กลุ่มธุรกิจพลังงานเทคโนโลยีอัจฉริยะ โครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค ดาต้าเซ็นเตอร์ และคลาวด์ เป็นต้น
“เมื่อควบรวมกลายเป็นบริษัทใหม่เบื้องต้นรายได้จะมาจากธุรกิจไฟฟ้าและโทรคมนาคมสัดส่วนร้อยละ 80:20 แต่ในอนาคตอาจเป็นสัดส่วน 50:50 เพราะธุรกิจโทรคมนาคม ดาต้าเซนเตอร์ ระบบคลาวด์ยังเติบโตอีกมาก โดยคลาวด์บริษัทมีแผนจะลงทุนเพิ่มอีก 100 เมกะวัตต์ จากที่ประกาศไว้ 50 เมกะวัตต์ โดยจะเริ่มลงทุนต้นปีหน้า” นายสารัชถ์ กล่าว
ส่วนการดำเนินธุรกิจการให้บริการระบบคลาวด์ นั้น บริษัทร่วมกับทาง Google คาดว่าจะเห็นความชัดเจนด้านแผนลงทุนในช่วงต้นปี 2568 หลังจากเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 บริษัท กัลฟ์ เอดจ์ จำกัด (Gulf Edge) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 100% กับร่วมกับบริษัท กูเกิ้ล เอเชีย แปซิฟิก จำกัด (Google) เพื่อดำเนินธุรกิจการให้บริการระบบคลาวด์ Google Distributed Cloud air-gapped (GDC air-gapped) สำหรับองค์กรในประเทศไทยนั้น ล่าสุดบริษัทได้จัดตั้งบริษัท กัลฟ์ เอดจ์ เซอร์วิสเซส จำกัด (Gulf Edge Services) มีวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการธุรกิจคลาวด์ และให้บริการที่เกี่ยวข้องแก่ลูกค้า เพื่อสนับสนุนการเติบโตของกลุ่มธุรกิจดิจิทัลของบริษัท ทั้งนี้มั่นใจว่าความร่วมมือดังกล่าวจะเห็นความชัดเจนในช่วงต้นปี 2568 ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าติดต่อมาแล้วหลายราย
“การรับซื้อหุ้น GULF จากผู้ถือหุ้นที่โหวต No ผมพร้อมจะรับซื้อทั้งหมดในราคาปิดตลาดวานนี้ที่ประมาณ 56 บาทต่อหุ้น แต่ผู้ถือหุ้นจะต้องเสียภาษีเอง 35% ส่วนการรับซื้อหุ้น INTUCH นั้น จะต้องรอผลการประชุมผู้ถือหุ้น INTUCH ก่อน เบื้องต้นผมพร้อมรับซื้อรายเดียวเช่นกัน แต่ต้องดูราคาปิดตลาดด้วย อย่างไรก็ตาม การรับซื้อหุ้นดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายกำหนด” นายสารัชถ์ กล่าว
นายสารัชถ์ กล่าวว่า ในการรับซื้อพลังงานหมุนเวียนรอบ 2 อีก 3,668 เมกะวัตต์นั้น ทางกลุ่มกัลฟ์ยังมีส่วนที่ร่วมทุนกับพันธมิตรที่เสนอโครงการไว้แล้วคาดว่าจะได้อีกไม่ต่ำกว่า 20% ของการเสนอรับซื้อ ส่วนการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนระบบตรง Direct PPA 2 พันเมกะวัตต์นั้น น่าจะเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้นเพราะไฟฟ้าพลังงานทดแทนผลิตไฟฟ้าได้ 8 ชั่วโมง ที่เหลือต้องซื้อจากระบบ ดังนั้นคาดว่าการซื้อในระบบจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะมีต้นทุนต่ำกว่าและไม่สร้างภาระต้นทุนสายส่งและระบบสำรองกับประชาชน ในขณะที่การนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจีขณะนี้กลุ่มฯ ได้เริ่มนำเข้ามาแล้วและปีหน้าจะนำเข้าอีก 40-50 ลำ ในราคาที่ต่ำมาก ทำให้ต้นทุนโดยรวมต่ำลงและยังมั่นใจว่าก๊าซฯ จะเป็นเชื้อเพลิงหลักผลิตไฟฟ้าไปอีกยาวนาน
นายสารัชถ์ ยังกล่าวถึงข้อเสนอจัดตั้งธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank ) ว่า ทางกลุ่มมีผู้ร่วมทุนที่แข็งแกร่งทั้งกรุงไทยและโออาร์ จึงมั่นใจว่าจะดำเนินการได้ตามเงื่อนไขของแบงก์ชาติอย่างไม่มีปัญหา โดยต้องใช้เงินทุนนับหมื่นล้านบาท ซึ่งการที่กระะทรวงการคลังอยากให้มีการเปิดบริการมากกว่า 3 รายนั้น ก็เป็นเรื่องที่ภาครัฐจะพิจารณา
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 105 บาท แม้ว่าราคาหุ้นจะพุ่งสูงในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา แต่ยังคงคำแนะนำซื้อและเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 105 บาท (ส่วนลด 5% เป็น NAV ของ ADVANC) จาก 98 บาท การลงทุน INTUCH ในราคานี้จะทำให้ผู้ลงทุนไม่เพียงแต่ได้กำไรต่อหุ้นที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3 ปี 67 และมี upside แต่ยังได้รับ Dividend Per Share (DPS) สูงอย่างน้อย 6 บาท ในกรณีที่ไฟเขียวจากการประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อควบรวมกิจการกับ GULF แม้ไม่มีการอัพเกรด EPS แต่อัตราผลตอบแทนเงินปันผล ณ ราคานี้ยังสูงอยู่ที่ 6%. -511-สำนักข่าวไทย