กรุงเทพฯ 11 ธ.ค. – รมว.เกษตรฯ กำชับกรมประมงนำเรือออกนอกระบบอย่างรอบคอบ เร่งหาทางช่วยเหลือหวั่นเป็นการซ้ำเติม ย้ำใช้งบประมาณแก้ปัญหาอย่างคุ้มค่า
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้กำชับกรมประมงช่วยเหลือเยียวยาชาวประมงที่ต้องนำเรือออกนอกระบบอย่างรอบคอบ จากปัญหาทรัพยากรประมงเสื่อมโทรมที่มีสาเหตุจากการทำการประมงหรือการลงแรงประมงมากเกินกว่าขีดความสามารถการผลิตของท้องทะเลไทยที่มีกันมายาวนานกว่า 50 ปี เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร่งด่วน รัฐบาลจึงได้มีการออกคำสั่ง คสช. ที่ 10/2558 ทำให้เกิดผลกระทบต่อชาวประมงบางกลุ่มไม่สามารถทำประมงได้ และปี 2559 ไม่มาขอใบอนุญาตประมงพาณิชย์ เนื่องจากไม่อยากให้เป็นภาระรัฐบาลในการที่จะต้องจัดสรรใบอนุญาตให้สอดคล้องกับปริมาณสัตว์น้ำสูงสุดที่ทำการประมงได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นการลดประมงที่เกินและลดภาระรวมถึงค่าใช้จ่ายควบคุมการทำประมงของภาครัฐในอนาคตอีกทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีข้อคัดค้านการนำเงินงบประมาณชดเชยเยียวยาชาวประมงบางกลุ่ม ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการให้ชาวประมงทุกกลุ่มได้รับความเป็นธรรม จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการนำเรือออกนอกระบบเพื่อการจัดการประมงที่ยั่งยืน เพื่อให้เกิดความรอบคอบถูกต้องตามกฎหมายและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ซึ่งเริ่มประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2561 โดยดำเนินการควบคู่กับการหารือกับสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยมาเป็นระยะ
ด้านนายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งให้กรมประมงช่วยเหลือเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่และจริงจัง โดยเป็นประธานการประชุมทุกครั้งที่สั่งการให้กำหนดแนวทาง ระเบียบ วิธีปฏิบัติ และกรอบเวลาดำเนินการให้แต่ละหน่วยงาน และคณะทำงานฯ ที่เกี่ยวข้องนำไปพิจารณาและนำเข้าสู่การหารืออย่างเป็นระบบ เพื่อให้การดำเนินการช่วยเหลือเป็นไปอย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวเป็นการชดเชยช่วยเหลือชาวประมงที่ได้รับผลกระทบ หากดำเนินการไม่รอบคอบจะทำให้ชาวประมงบางกลุ่มเสียโอกาส ล่าช้า ติดขัด หรือไม่รอบคอบจะเป็นการซ้ำเติมชาวประมง หรือเป็นการใช้งบประมาณของรัฐอย่างไม่คุ้มค่า ทำให้ตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมามีการประชุมหารือประเด็นการดำเนินการทั้งหลักเกณฑ์การประเมิน ราคาประเมิน แนวทางการดำเนินการ รวมทั้งมีการหารือกับชาวประมงคู่ขนานไปด้วย ยืนยันว่าไม่ได้เป็นไปตามกระแสข่าวในโซเชียลมีเดียว่ามีความล่าช้าและไม่จริงใจช่วยเหลือ
ล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดให้ระยะเวลาในการสอบถามความประสงค์ที่จะเข้าร่วมโครงการของชาวประมงจากวันที่ 30 ธันวาคม 2561 – 30 มกราคม 2562 เร็วขึ้นอีก 10 วัน โดยให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งเตรียมการให้เร็วขึ้น โดยไม่ลดระยะเวลาแจ้งความประสงค์ของชาวประมง เพื่อไม่ให้ชาวประมงบางกลุ่มเสียโอกาส นอกจากนี้ ยังสั่งการให้สำรวจและประเมินราคาชดเชยควบคู่พร้อมกัน เนื่องจากการดำเนินการชดเชยครั้งนี้เป็นสิทธิ์ของแต่ละบุคคลและเรือเป็นสมบัติของแต่ละบุคคล จึงจำเป็นให้ชาวประมงที่เข้าร่วมโครงการฯ ต้องยื่นความประสงค์เข้าร่วมโครงการเป็นการเฉพาะ เนื่องจากหากส่วนราชการนำรายชื่อที่ยื่นผ่านสมาคมฯ มาใช้ดำเนินการ และมีการผิดพลาดหรือตกหล่นอาจทำให้ชาวประมงเสียสิทธิ์ เพื่อจะดำเนินการสรุปเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาได้ก่อนการเลือกตั้งจะมีขึ้น.-สำนักข่าวไทย